แชมป์เก่าศึก พรีเมียร์ลีก อย่าง เลสเตอร์ ซิตี้ กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากหลังจากที่พวกเขาบุกไปแพ้ สวอนซี 2-0 เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นั่นทำให้พวกเขารั้งอยู่อันดับที่ 17 ของตารางอยู่ห่างจากโซนตกชั้นเพียง 1 คะแนนเท่านั้น ขณะที่เหลือการแข่งขันเพียง 13 นัด
หลังจากที่ทัพ "จิ้งจอกสยาม" คว้าแชมป์ประวัติศาสตร์ได้เมื่อฤดูกาลก่อน แต่ในตอนนี้ เคลาดิโอ รานิเอรี่ ต้องยอมรับว่าช่วงเวลาแห่งเทพนิยายสิ้นสุดลงแล้ว และพวกเขาต้องเดินหน้าลุยกับการหนีตกชั้นอย่างจริงจัง และหากทำไม่สำเร็จนั่นหมายความว่า "เดอะ ฟ็อกซ์" จะเป็นทีมที่ได้แชมป์แล้วต้องตกชั้นในปีถัดไป
"เดอะ มิเรอร์" สื่อชื่อดังของอังกฤษจึงทำการย้อนอดีตเปิดโผ 5 แชมเปี้ยนส์ ที่คว้าแชมป์ได้สำเร็จ แต่ฤดูกาลต่อมาต้องตกชั้นมาให้ชมกัน :
เอซี มิลาน
ในช่วงปลายยุค 80 จนถึงต้นยุค 90 เอซี มิลาน คือยอดทีมในยุคนั้น พวกเขาคว้าแชมป์ เซเรีย อา ได้ถึง 5 สมัย แต่ในปี 1979 หลังจากที่พวกเขาจะคว้าแชมป์แรกของยุคนั้น "ปีศาจแดง-ดำ" ถูกลดชั้นให้ไปเล่นใน เซเรีย บี จากการเข้าไปเกี่ยวพันกับเรื่องอื้อฉาวคดีล้มบอลในอิตาลีเมื่อปี 1980
ซึ่งถึงแม้ว่าจะคว้าแชมป์ เซเรีย บี ได้ในทันที แต่เมื่อกลับคืนสู่ เซเรีย อา ได้เพียงฤดูกาลเดียว พวกเขาก็ต้องตกชั้นไปอีกครั้ง ก่อนจะกลับขึ้นมาบนลีกสูงสุดของอิตาลีได้เมื่อปี 1983
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
แมนฯ ซิตี้ คว้าแชมป์ลีกได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เมื่อปี 1973 แต่ทว่าในฤดูกาลต่อมาพวกเขากลับทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวังสุด ๆ
แม้จะยิงประตูได้มากมายเหมือนเดิม และเป็นทีมที่ยิงเยอะที่สุดในลีกฤดูกาลนั้น แต่พวกเขากลับเสียประตูไปถึง77 ลูก แพ้ไปถึง 20 เกมจาก 42 นัด นั่นทำให้ "เรือใบสีฟ้า" ต้องร่วงตกชั้นทั้งที่เพิ่งคว้าแชมป์ลีกมาได้เมื่อฤดูกาลก่อน
ยูเวนตุส
ยูเวนตุส ผงาดคว้าแชมป์ เซเรีย อา เมื่อปี 2006 จากการเก็บได้ถึง 91 แต้ม แต่ทว่าทัพ "ม้าลาย" กลายเป็นหนึ่งในห้าสโมสรที่เชื่อมโยงกับเรื่องอื้อฉาวในการล้มบอลจากกรณีล็อคผลการแข่งขันกับผู้ตัดสิน
ผลจากการลงโทษทำให้ ยูเวนตุส ได้ถูกลดชั้นลงไปเล่น เซเรีย บี เป็นครั้งแรกประวัติศาสตร์ของสโมสร อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ใช้เวลาในลีกรองเพียงแค่หนึ่งปี ก่อนจะกลับมาสู่เวที เซเรีย อา ได้อีกครั้ง
เฮอร์โฟล์ก บีเค
เฮอร์โฟล์ก บีเค เคยคว้าแชมป์ เดนมาร์ก ซูเปอร์ลีก ครั้งแรก และครั้งเดียวในประวัตศาสตร์สโมสร นั่นเกิดขึ้นเมื่อปี 2000 โดยพวกเขาคว้าอันดับ 1 ของตารางจากการมีคะแนนห่างจากอันดับ 2 อย่าง บรอนด์บี้ อยู่เพียง 2แต้ม
แต่ทว่าฤดูกาลต่อมา เฮอร์โฟล์ก บีเค กลับทำผลงานจากหน้ามือเป็นหลังมือ เก็บชัยชนะได้เพียง 7 เกมเท่านั้น แพ้ไปถึง 17 เกม และกลายเป็นอันดับ 2 ของทีมที่เสียประตูมากที่สุดในประวัติสาสตร์ของลีก เดนมาร์ก โดยเสียประตูไปถึง 65 ลูก นั่นทำให้พวกเขาจบตำแหน่งรองบ๊วย และตกชั้นไปอย่างแบบไม่มีทรงแชมป์เก่าเหลืออยู่เลย
เนิร์นแบร์ก
เนิร์นแบร์ก ต้องร่วงตกชั้นเมื่อปี 1969 หลังจากที่เพิ่งคว้าแชมป์ บุนเดสลีกา มาเมื่อปี 1968 กุนซือ แม็กซ์ เเมร์เคิล ผู้พาทีมคว้าแชมป์ลีกเน้นสร้างทีมโดยใช้ผู้เล่นจากทีมเยาวชนเป็นหลัก โดยมี ฟราซ์ บรุงส์ เป็นยอดดาวยิงที่ซัดไป 25 ประตูในฤดูกาลนั้น
แต่ทว่าในฤดูกาลถัดมา พวกเขาไม่สามารถใช้ระบบผู้เล่นเยาวชนเป็นหลักได้เหมือนปีก่อน แถมยังปล่อยดาวยิงอย่าง ฟราซ์ บรุงส์ ให้กับ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน นั่นทำให้ เนิร์นแบร์ก พบกับช่วงเวลาที่ย่ำแย่ จนทำให้ เเมร์เคิล ประกาศลาออกก่อนจบฤดูกาล และ เนิร์นแบร์ก ก็จบซีซั่นด้วยอันดับ 17 ของตารางพร้อมกับร่วงตกชั้นไปตามระเบียบ
ภาพจาก AFP, twitter.com/acmilan, twitter.com/classic1904, fcn.de