โอบาเฟมี่ มาร์ตินส์ กองหน้าทีมชาติไนจีเรียของ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด เปิดเผยนาทีแห่งความเป็นความตาย ว่าเกือบที่จะได้จบชีวิตลงแล้ว หลังจากที่ถูกกลุ่มคนร้าย 3 คน ตามประกบและใช้อาวุธปืนยิงกราดเข้าใส่ขณะกำลังขับรถยนต์ส่วนตัวเข้ามาเติมน้ำมันที่ปั้มแห่งหนึ่งใกล้ห้องพักในกรุงลากอส ในประเทศบ้านเกิดเมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 19 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยเพื่อนร่วมทางที่นั่งไปด้วยกันถูกกระสุนเจาะเข้าที่มือและหัวไหล่ ขณะที่เจ้าตัวปลอดภัยอย่างเหลือเชื่อ
ดาวยิงวัย 22 ปีกล่าวด้วยอาการขวัญผวาว่า "พวกมันกราดยิงมาอย่างบ้าคลั่งและพยายามจะฆ่าผมรวมถึงทุกคนในรถ พวกมันไม่ได้ต้องการมาปล้นเอาอะไรแต่มันจะฆ่าผม ผมคิดว่าตัวเองคงจะต้องตายซะแล้ว ท่าทางของพวกมันเหมือนมือปืนอาชีพเลย เข้ามาถึงก็ไม่พูดพล่ามทำเพลงเปิดฉากยิงใส่รถก่อนเลย ตอนนั้นมันเหมือนกับนรก ใจผมน่ะตกไปอยู่ที่ตาตุ่มแล้ว อย่างกับในหนังที่ผมเคยดูเลยจริงๆ ผมก็ไม่รู้ว่าพวกมันอยากได้อะไร แต่มันน่ากลัวสุดๆ เลย แค่ตอนที่ผมเห็นปืนมือไม้ก็สั่นไปหมดแล้ว"
ทั้งนี้ มาร์ตินส์ ยังได้เล่าว่าพยายามจะกลับถอยรถหนีแต่ติดรถอีกคันหนึ่งที่จอดขวางอยู่ทางด้านหลัง ขณะที่มือปืนสามรายระดมยิงเข้ามาทางกระจกด้านหน้า และกระจกข้างด้านผู้โดยสารซึ่ง ส่งผลให้เพื่อนชื่อ เรมี่ โอนิเปเด้ ถูกยิง ส่วนตัวเองอาศัยฝีเท้าวิ่งไปหลบยังที่กำบังจนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาถึง
อย่างไรก็ตาม จากการที่พฤติการณ์ของคนร้ายไม่ได้มุ่งหวังทรัพย์สินใดๆ และไม่ได้ต้องการจะขโมยรถเมอร์เซเดสคันงามด้วย มาร์ติน จึงคิดว่าเหตุการณ์ดังกล่าวน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการที่ตนเองปฏิเสธการลงเล่นให้กับทีมชาติไนจีเรียในเกมอุ่นเครื่องกับกานาที่อังกฤษเมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา
"ถ้าพวกมันจะก่อการเพื่อปล้นล่ะก็ พวกมันก็จะแค่ขู่คุณแล้วก็เอาของที่มันอยากได้ไป แต่นี่พวกมันต้องการแค่ชีวิตของผมเท่านั้น และการที่ผมรอดมาได้มันก็เหลือเชื่อมากจริงๆ"
"ผมเกิดที่ ลากอส ผมเป็นคนลากอสเต็มตัว แต่เมื่อผมรู้สึกว่าบ้านเกิดตัวเองแท้ๆ มันยังไม่ปลอดภัยเลยนั่นแสดงว่ามันต้องมีอะไรผิดปกติแล้วละ ที่จริงมันเป็นเรื่องยอดเยี่ยมที่ได้เล่นให้กับประเทศของคัณ แล้วทำให้ทุกคนสามารถยิ้มอย่างมีความสุข รวมถึงรู้สึกอบอุ่นเวลาที่อยู่ท่ามกลางครอบครัวและแฟนบอล แต่เมื่อสถานการณ์มันอยู่เหนือการควบคุม ผมก็คิดว่าการกลับมาบ้านคงกลายเป็นเรื่องที่ผมไม่กล้าแม้แต่จะคิดแล้วละ" "โอบา" กล่าวในที่สุด