อาจจะยังเหลืออีกหลายเดือนกว่าที่ฤดูกาล 2017-18 จะสิ้นสุดลง แต่หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมา บรรดา 4 ลีกใหญ่ของยุโรปอย่าง พรีเมียร์ลีก, ลา ลีกา, บุนเดสลีกา และ ลีก เอิง ก็เริ่มเห็นแววทีมแชมป์ชัดขึ้นเรื่อย ๆ ตั้งแต่ก่อนปีใหม่
ซึ่งผู้นำของแต่ละลีกอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้, บาร์เซโลน่า, บาเยิร์น มิวนิค และ เปแอสเช ต่างก็พร้อมใจกันทำผลงานสุดยอด และยึดจ่าฝูงไว้อย่างเหนียวแน่นในคริสต์มาสกันปีนี้
โดยศึก "เอล กลาซีโก้" ยกแรกก็ลงเอยด้วยชัยชนะหรูของ บาร์เซโลน่า ที่บุกไปกำชัยเหนือ เรอัล มาดริด ขาดลอยถึงถิ่น งานนี้ทำให้ "เจ้าบุญทุ่ม" เก็บไปถึง 45 คะแนนจาก 17 เกม ทิ้งห่างอันดับ 2 อย่าง แอต.มาดริด ที่เพิ่งสะดุดแพ้ออกไปเป็น 9 แต้ม
เช่นเดียวกับ บาร์ซ่า ทางฝั่งฝรั่งเศสที่เดินทางมาถึงนัดที่ 19 ของฤดูกาลจ่าฝูงอย่าง เปแอสเช ก็แตะไปถึง 50 คะแนนเข้าไปแล้ว โดยทิ้งห่างผู้ตามอย่าง โมนาโก และ ลียง อยู่ถึง 9 แต้ม
ขณะที่ เยอรมนี ระยะห่างของผู้นำยิ่งมากกว่า เมื่อ บาเยิร์น เก็บไป 41 แต้มจาก 17 นัดทิ้งห่าง ชาลเก้ 04 อันดับ 2 อยู่ถึง 11 แต้ม ขณะที่ทีมที่กำลังเบียดแย่งอันดับ 3 อย่าง ดอร์ทมุนด์, เลเวอร์คูเซ่น, ไลป์ซิก และ กลัดบัค มีคะแนนเท่ากันอยู่ที่ 28 แต้ม
แต่ที่ไปกันใหญ่จนฉุดไม่อยู่คงหนีไม่พ้น แมนซิตี้ ที่เรียกได้ว่ากุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ได้สร้าง "เรือใบสีฟ้า" ให้เป็น "บาร์ซ่า" สาขา 2 มาถึงตอนนี้พวกเขาเสมอไปเพียง 1 นัด นอกนั้นเก็บชัยชนะได้ทุกเกม และยังคงไม่แพ้ใคร แมนซิตี้ เก็บไปแล้ว 55 คะแนนจาก 19 นัดทิ้งห่างรองจ่าฝูงอย่าง แมนยู ของกุนซือ โชเซ่ มูรินโญ่ ไปแบบเริ่มจะไม่เห็นฝุ่นแล้วที่ 13 แต้ม
แน่นอนว่าผู้นำของทั้ง 4 ลีกจะส่งท้ายปีเก่าด้วยตำแหน่งจ่าฝูงแบบสบายใจโดยไม่มีใครมากดดัน และดังเช่นที่ได้กล่าวมาข้างต้น แม้จะยังเหลืออีกหลายเดือนกว่าที่ฤดูกาลจะสิ้นสุดลง แต่ตอนนี้สามารถกล่าวได้ว่า มีโอกาสเป็นไปได้น้อยที่ทีมแชมป์จะพลิกโผไปจากผู้นำของลีกในปัจจุบัน
เนื้อหาจาก marca.com
ภาพจาก AFP