จูเลี่ยน แดร็กซ์เลอร์ ปีกของทีม เปแอสเช ออกอาการฉุนกุนซือ อูไน เอเมรี่ ที่ส่งเขาลงสนามช้า รวมถึงแท็กติกที่แค่ให้ลูกทีมส่งบอลกันไปมา จนสุดท้ายถูก เรอัล มาดริด เขี่ยตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก จากรายงานของ goal.com เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2561
เปแอสเช ที่เหลือผู้เล่นเพียง 10 คนใน่ชวงครึ่งหลังเปิดบ้านพ่าย เรอัล มาดริด 1-2 "ราชันชุดขาว" ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายด้วยประตูรวม 5-2 โดยเกมนี้ แดร็กซ์เลอร์ ถูกส่งลงสนามใน น.76 แต่ก็ไม่สามารถช่วยทีมให้รอดพ้นจากความพ่ายแพ้ได้
ซึ่งตอนแรก เอเมรี่ จะเปลี่ยนตัว ปีกทีมชาติเยอรมนี ลงไปก่อนหน้านั้น แต่ดันเปลี่ยนใจหลังจากที่ เอดินสัน คาวานี่ ยิงตีเสมอ น.71 เพื่อประครองเกมเพราะเหลือผู้เล่นน้อยกว่า ขณะที่ในตอนนั้น เปแอสเช ต้องการอีก 2 ลูกเพื่อไล่ตาม เรอัล มาดริด ให้ทันที่สกอร์รวม 3-3
จูเลี่ยน แดร็กซ์เลอร์ ได้กล่าวถึงเรื่องนี้หลังจบเกมว่า "มันไม่มีประโยชน์แล้วที่ลงสนามไปตอนนั้น ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ผมรู้สึกประหลาดใจ และโกรธมาก เราตามตีเสมอ 1-1 แต่มันก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรสำหรับเรา ผมรู้สึกว่าเราจำเป็นต้องกดดันคู่ต่อสู้อย่างต่อเนื่อง และบุกแหลก"
"เราโดนไล่ออกไปหนึ่งคน ถึงจะตามตีเสมอ 1-1 แต่คนทั้งสนามก็รู้ดีว่ามันไม่ทันแล้ว เพราะเราไม่ดุดันเอาเสียเลย ขณะที่ เรอัล มาดริด เล่นกันอย่างมั่นใจ และดูไม่รู้สึกกังวลกันเลย"
"เราส่งบอลกันไปมา แต่ทำแบบนั้นคุณไม่สามารถยิงประตูได้หรอก คุณต้องกดดันใส่ เรอัล มาดริด สิในเมื่อคุณแพ้ถึง 3-1 ในเกมแรก การส่งบอลไปมา มันไม่ได้ทำให้ใครใจอ่อนให้เราได้ประตูหรอก เราจำเป็นต้องสร้างความกดดันให้กับฝ่ายตรงข้ามตั้งแต่เริ่มเกม แต่เราไม่ได้ทำอย่างนั้น ก็สมควรตกรอบแล้ว"
ภาพจาก AFP