ทีมชาติเซเนกัล สร้างประวัติศาสตร์เป็นทีมแรกที่ตกรอบ ฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ด้วยคะแนนแฟร์เพลย์ จากรายงานของ marca.com เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2561
เกมนัดสุดท้ายของ กลุ่ม เอช เซเนกัล แพ้ โคลอมเบีย 0-1 ขณะที่ ญี่ปุ่น ก็แพ้ โปแลนด์ 0-1 เช่นกัน ซึ่งทำให้ทาง โคลอมเบีย คว้าแชมป์กลุ่ม ขณะที่ ญี่ปุ่น และเซเนกัล มีคะแนนเท่ากันที่ 4 แต้ม โดยที่ทุกอย่างเท่ากันหมดไม่ว่าจะเป็น ชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 1 ประตูได้-เสียที่เท่ากัน ทำให้ต้องมาตัดสินหาอันดับ 2 ของกลุ่มด้วยคะแนนแฟร์เพลย์
โดยการตัดสินด้วยกฎแฟร์เพลย์ของ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า จะตัดสินกันด้วยจำนวนใบเหลือง ซึ่งทีมใดได้น้อยกว่าก็จะคว้าอันดับ 2 ของกลุ่มไปครอง ซึ่ง ญี่ปุ่น มี 4 ใบเหลืองเท่านั้น ส่วนทาง เซเนกัล มีมากกว่าที่ 6 ใบเหลือง
ส่งผลให้ทัพ "ซามูไร" ได้ลอยลำเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย และทำให้ เซเนกัล เป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลกที่ตกรอบด้วยคะแนนแฟร์เพลย์ ซึ่งทาง อาลิยู ซิสเซ่ กุนซือเซเนกัล ก็ออกอาการเซ็งไม่น้อย "ผมไม่รู้ว่ากฎนี้เป็นเรื่องที่โหดร้ายหรือไม่ ? แต่ผมไม่สามารถห้ามลูกทีมให้ลงสนามโดยไม่ได้รับใบเหลืองได้"
"มันเป็นกฎของฟุตบอล มันเป็นกฎแฟร์เพลย์ และตามกฎเรามีคะแนนน้อยในด้านนี้ เราจึงต้องยอมรับมัน ไม่ว่าอย่างไรเราต้องเคารพในกฎกติกา เพียงแต่ถ้าเราต้องตกรอบ เราก็อยากตกรอบด้วยวิธีอื่นมากกว่า"
ภาพจาก AFP
