แฟนแมนยูยังมีหวัง !! รวม 5 แมตช์ระดับมาสเตอร์พีซของ โชเซ่ มูรินโญ่

จากฤดูกาลก่อนจนมาถึงเกมนัดที่ 2 ของซีซั่น 2018-19 แฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังตกอยู่ในความผิดหวังกับผลงาน และฟอร์มการเล่นของทีมรักภายใต้การคุมทีมของกุนซือ โชเซ่ มูรินโญ่ อยู่ไม่น้อย

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ "ปีศาจแดง" บุกไปพ่าย ไบรท์ตัน 2-3 ในเกม พรีเมียร์ลีก เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 19 สิงหาคม 2561 ซึ่งทางด้าน กุนซือชาวโปรตุเกส เองก็ยอมรับว่ามีความผิดพลาดหลายจุดเกิดขึ้น

ซึ่งงานนี้ทำให้หลายคนเริ่มสงสัยในฝีมือของ มูรินโญ่ ที่เคยขึ้นชื่อว่าเป็นกุนซือจอมแท็กติกระดับท็อปของโลก อย่างไรก็ตามเราจะพาย้อนความทรงจำไปถึง 5 เกมที่ชี้ชัดถึงคุณภาพของ "น้ามู" ที่อาจเรียกศรัทธาจากกลับมาได้บ้าง มาให้แฟนบอลได้ชมกัน :

5) ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2009-10 : เชลซี 0-1 อินเตอร์ มิลาน (รวมสองนัด 1-3)

แม้นัดแรกจะเอาชนะมาได้ก่อน 2-1 แต่งานของ มูรินโญ่ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายในการพา อินเตอร์ มิลาน กลับไปเยือนทีมเก่าอย่าง เชลซี ทว่าสุดท้ายเขาก็ทำให้ "สิงโตน้ำเงินคราม" ต้องอกหักจากประตูชัยของ ซามูเอล เอโต้ ในช่วงก่อนหมดเวลาแค่เพียง 11 นาที

และในฤดูกาลนั้นทัพ "งูใหญ่" ก็ผงาดครองเทรเบิ้ลแชมป์อย่างยิ่งใหญ่ ไม่มีใครสามารถปฏิเสธได้ว่าอดีตผู้จัดการทีม "สิงห์บลูส์" มีแท็กติกที่โดดเด่นในแบบฉบับของตัวเอง

4) พรีเมียร์ลีก 2013-14 : ลิเวอร์พูล 0-2 เชลซี

ในตอนนั้น ลิเวอร์พูล กำลังมองไปถึงแชมป์ลีกที่พวกเขารอคอยมานานหลายปี และหากเพียงพวกเขาเอาชนะ เชลซี ให้ได้มันก็จะทำให้ "หงส์แดง" ขยับเข้าใกล้ความฝันนี้สุด ๆ

แต่ทว่าทีมของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กลับล้มเหลวในการทำลายกำแพงเกมรับของ โชเซ่ มูรินโญ่ ที่มาด้วยแผนการเล่น 4-5-1 ด้วยการให้กองกลางทั้ง 5 คนลงไปช่วยเกมรับ และดีเด็ดก็คือแท็กติกรถบัสนี้สามารถเล่นงาน ลิเวอร์พูล ได้ด้วยจากความผิดพลาดที่ไม่น่าจดจำของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด

สุดท้ายเป็นทาง "สิงโตน้ำเงินคราม" ที่บุกมาเก็บ 3 คะแนนถึง "แอนฟิลด์" พร้อมกับดับความหวังในการคว้าแชมป์ลีกของ "เดอะ ค็อป" ไปแบบเจ็บแสบ ซึ่งเกมนี้ถือเป็นหนึ่งในผลงานชิ้นโบว์แดงของ มูรินโญ่ ก็ว่าได้

3) โกปา เดล เรย์ 2010-11 : เรอัล มาดริด 1-0 บาร์เซโลน่า

โชเซ่ มูรินโญ่ คว้าแชมป์ โกปา เดล เรย์ เป็นรายการแรกในการคุม เรอัล มาดริด ด้วยการพาทีมกำชัยเหนือคู่รักคู่แค้นอย่าง บาร์เซโลน่า กุนซือชาวโปรตุเกส ใช้ไม้เด็ดด้วยการส่ง เปเป้ ไปเล่นในตำแหน่งกองกลางร่วมกับ ชาบี อลอนโซ่ และ ซามี่ เคดิร่า

ซึ่งแท็กติกนี้ทำให้แนวรุกสุดร้อนแรงของ บาร์ซ่า อย่าง ลิโอเนล เมสซี่, อันเดรส อิเนียสตา และดาบิด บีย่า ถึงกับแผลงฤทธิ์ไม่ออก แถมยังโดนลูกหนักของ มาดริด เล่นงานตลอดทั้งเกม

สุดท้ายเป็น มูรินโญ่ ที่พา "ราชันชุดขาว" เอาชนะ "เจ้าบุญทุ่ม" ได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปี 2008 รวมถึงเป็นการการันตีว่า กุนซือชาวโปรตุเกส สามารถพาต้นสังกัดคว้าแชมป์ได้ทุกปีนับตั้งแต่ปี 2003

2) ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2003-04 : แมนยู 1-1 ปอร์โต้ (รวมสองนัด 2-3)

วันที่ 9 มีนาคม 2004 วงการลูกหนังได้รู้จักชื่อของ โชเซ่ มูรินโญ่ เป็นวงกว้างหลังจากที่ ปอร์โต้ ต้องเผชิญหน้ากับยอดทีมอย่าง แมนยู ในรอบน็อกเอาต์ ซึ่งเกมแรกพวกเขาเฉือนชนะไปได้ 2-1 แน่นอนว่าเกมที่ 2 มูรินโญ่ รู้ดีว่า เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จะไม่ไปล่อยทีมของเขาไว้แน่

และมันก็เป็นแบบที่คิดเมื่อ พอล สโกลส์ ทำประตูขึ้นนำให้ แมนยู ในช่วงครึ่งแรก ซึ่งหากจบแบบนี้ "ปีศาจแดง" จะเข้ารอบไปด้วยกฏประตูทีมเยือน แต่ทว่า มูรินโญ่ ก็พยายามผลักดันลูกทืมของเขาจนหยดสุดท้าย และก็ได้ผลสำเร็จเมื่อ ปอร์โต้ มาได้ประตูตีเสมอจากความผิดพลาดของ ทิม ฮาวเวิร์ด ผู้รักษาประตู ในนาทีสุดท้าย

หลังจากผ่านด่าน แมนยู ไปได้ฤดูกาลนั้น ปอร์โต้ ก็สร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และถือเป็นการประกาศให้โลกลูกหนังรู้ว่าหลังจากนี้ โชเซ่ มูรินโญ่ กำลังก้าวขึ้นมาเป็นยอดกุนซือ

1) ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2009-10 : บาร์เซโลน่า 1-0 อินเตอร์ มิลาน (รวมสองนัด 2-3)

เกมนี้อาจจะเป็นความพ่ายแพ้ที่งดงามของ อินเตอร์ มิลาน ก็ว่าได้ การแข่งขันรอบรองชนะเลิศ แชมเปียนส์ ลีก เมื่อปี 2010 ถือเป็นปรากฏการณ์ที่น่าทึ่ง ซึ่งในเกมแรกพวกเขาเอาชนะ บาร์เซโลน่า ไปได้ถึง 3-1

เกมที่ 2 มูรินโญ่ ต้องพบกับสถานการณ์ที่ยากลำบากเมื่อ ติอาโก้ ม็อตต้า มาโดนใบแดงในนาทีที่ 28 ทำให้ อินเตอร์ ต้องเล่นด้วยนักเตะเพียง 10 คนกับเวลาที่เหลืออีกเป็นชั่วโมง แต่ "น้ามู" ได้วางแนวรับเพื่อป้องการการโจมตีของแชมป์เก่า บาร์เซโลน่า ได้แบบอดทน และน่าอัศจรรย์

และกว่าที่ บาร์เซโลน่า จะมาเจาะแนวรับ อินเตอร์ ได้ก็ล่วงเลยมาถึงนาทีที่ 84 จากประตูของ เคราร์ด ปิเก้ แต่มันก็สายเกินสำหรับเจ้าถิ่น จนกระทั่งเสียงนกหวีดสุดท้าย มูรินโญ่ ได้แสดงอาการสะใจสุด ๆ กับแท็กติกของตัวเองที่ได้ผลเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นภาพที่แฟน ๆ ของ บาร์ซ่า ยังคงจำมาถึงทุกวันนี้

ข้อมูลจาก sportskeeda.com, telegraph.co.uk

ภาพจาก AFP