ฟุตบอลรายการพิเศษ บาร์เคลย์ส เอเชี่ยน โทรฟี่
เซาธ์ ไชน่า 1 - ลิเวอร์พูล 3
"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ลงสนามพบ"เจ้าถิ่น" เซาธ์ ไชน่า ที่สนาม ฮ่องกง สเตเดี้ยม โดย ราฟเอล เบนิเตซ ไม่สามารถใช้บริการสตีเว่น เจอร์ราร์ด, ไรอัน บาเบล และ เฟร์นานโด ตอร์เรส ที่มีอาการบาดเจ็บ แต่ได้ แฮร์รี่ คีเวลล์ กลับจากศึก เอเชียน คัพ ลงเป็นตัวจริงทันที ส่วนกองหน้าใช้คู่ อังเดร โวโรนิน กับ ปีเตอร์ เคร้าช์
ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายครองบอลบุกเข้าใส่ตั้งแต่ต้นเกม นาทีที่ 7 เป็นโอกาสเสียวครั้งแรก โมฮาเหม็ด ซิสโซโก้ ได้บอลหน้าเขตโทษ ก่อนตะบึงเดี่ยวเข้ากรอบเขตโทษผ่านนักเตะ เซาธ์ ไชน่า เข้าไปถึงกรอบหกหลา แต่สุดท้ายแตะบอลยาวไปเข้ามือ จาง ชุนฮุย นายด่านเซาธ์ ไชน่า และอีก 2 นาทีถัดมา ลิเวอร์พูล ได้ลูกฟรีคิกบริเวณหัวกะโหลก และก็กลายเป็นประตูขึ้นนำทันที เมื่อ ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ วิ่งเข้าซัดตูมเดียว บอลแหวกกำแพงพุ่งเสียบตาข่ายอย่างเด็ดขาด ลิเวอร์พูล ออกนำเร็ว 1-0
นาที 16 เซาธ์ ไชน่า ได้บุกกดดันลิเวอร์พูลบ้าง จังหวะเตะมุมสองครั้งซ้อนโดยที่ ยอสซี่ เบนายูน ต้องเคลียร์ทิ้งออกมาจากปากประตู บอลหนุนเข้าไปอีกครั้ง จูเนียร์ วิ่งเข้ายิงก็งัด โด่งข้ามคานไปอย่างน่าผิดหวัง จากนั้นนาที 21 เซาธ์ ไชน่า ได้ลุ้นอีกครั้ง จากลูกฟรีคิกตรงริมเส้นฝั่งซ้าย หลี่ ไห่-เชียง กัปตันทีม ตะบันเต็มข้อบอลโค้งเข้าหาประตู สกอตต์ คาร์สัน นายทวารหงส์แดงต้องพุ่งทุบทิ้ง ออกมา
นาที 28 ลิเวอร์พูล มาได้ลูกจุดโทษจากจังหวะที่ อังเดร โวโรนิน ลากบอลเข้าไปในกรอบแล้วโดน ซิดราอิลสัน เบียดกระแทกล้มลง และเป็น ชาบี อลอนโซ่ ยิงเสียบตาข่ายง่ายๆ โดยที่ จาง ชุนฮุย พุ่งผิดทาง ลิเวอร์พูล ทิ้ง 2-0
หลังโดนเม็ดสอง เซาธ์ ไชน่า แก้เกมทันที ส่ง เหลียง ซี-เชง ลงสนามมาแทน จูเนียร์ และนาที 34 เซาธ์ ไชน่า มาแก้ประตูตีไข่แตกได้สำเร็จ จากจังหวะฟรีคิกระยะ 38 หลาทางริม เส้นฝั่งขวา หลี่ ไห่-เชียง รับหน้าที่สังหารปั่นบอลโค้งเสียบสามเหลี่ยมอย่างสวยงามชนิดที่คาร์สันบินปัดได้แค่ปลายมือ เซาธ์ ไชน่า ไล่มาเป็น 1-2 สองนาทีต่อมา ลิเวอร์พูล เกือบนำห่างไปอีกครั้ง จากจังหวะทำชิ่งไปมาสามสี่จังหวะหน้าเขตโทษ สุดท้าย โวโรนิน แปะกลับมาให้ ชาบี อลอนโซ่ ตะบันหน้าเขตโทษ บอลพุ่งเฉียด คานบนออกหลังไป ก่อนจบครึ่งแรกลิเวอร์พูลนำ 2-1
ครึ่งหลัง หงส์แดง ยังไม่มีการเปลี่ยนตัว จนนาทีที่ 55 ปีเตอร์ เคร้าช์ ถูกถอดออกให้ เดิร์ค เค้าท์ ลงมาและ เจอร์เมน เพนแนนท์ เล่นแทน แฮร์รี่ คีเวลล์ และเป็น ลิเวอร์พูล ที่บุกเข้าใส่อยู่ตลอดเวลา นาที 70 เดิร์ค เค้าท์ พาบอลขึ้นสุดเส้นฝั่งซ้าย แล้วตักกลับมาในกรอบหกหลา อังเดร โวโรนิน โถมขึ้นโขกข้ามคานออก ไป
อีก 3 นาทีถัดมา ลิเวอร์พูล ก็พังประตูทิ้งห่างได้สมใจ แดนนี่ แอ็กเกอร์ พาบอลขึ้นมาในระยะ 30 หลา แล้วแทงออกซ้ายให้ ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ ตบกลับเข้ากลางให้ เดิร์ค เค้าท์ แปะ กลับมาให้ แอ็กเกอร์ ตะบันด้วยซ้ายเต็มข้อบอลพุ่งเสียบเสาแรกอย่างเฉียบขาด ลิเวอร์พูลนำ 3-1
5 นาทีสุดท้าย หงส์แดง เกือบได้ประตูที่สี่ เจอร์เมน เพนแนนท์ ได้ยิงเน้นๆถึงสองครั้งสองครา แต่ก็ไม่เป็นประตู ทำให้เกมจบลงด้วยชัยชนะของ ลิเวอร์พูล เหนือ เซาธ์ ไชน่า 3-1
รายชื่อผู้เล่น
เซาธ์ ไชน่า : จาง ชุนฮุย, หลี ชี-โห, ซิดราอิลสัน, หว่อง ชิน-ฮุง, ไป่ ฮี, เติง จิง-หวง, เยิง ชิง-ควง, หลี่ ไห่-เชียง, ฟาน เหวย-จุง, จูเนียร์, เดตินโญ่
ลิเวอร์พูล : สกอตต์ คาร์สัน, อัลบาโร่ อาร์เบลัว, เจมี่ คาร์ราเกอร์, แดนนี่ แอ็กเกอร์, ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่, ยอสซี่ เบนายูน, ชาบี อลอนโซ่, โมฮาเหม็ด ซิสโซโก้, แฮร์รี่ คีเวลล์, อังเดร โว โรนิน, ปีเตอร์ เคร้าช์
พอร์ทสมัธ 1 - ฟูแล่ม 0
พอร์ทสมัธ กับ ฟูแล่ม ลงสนามเกมนี้ในเสื้อชุดใหม่เอี่ยมอ่องสำหรับฤดูกาล 2007-2008 โดย ปอมปีย์ ส่ง เดวิด นูเจนท์ ลงยืนหอกคู่เบนจานี่ เอ็มวารูวารี ขณะที่ ฟูแล่ม ใช้ ดิโอมองซี่ กามาร่า คู่ ไบรอัน แม็คไบรด์ ให้ เดวิด ฮีลี่ย์ เป็นตัวสำรอง
เริ่มเกมขึ้นมาเพียง 4 นาทีเศษ ฟูแล่ม ได้โอกาสยิงทักทายก่อน เมื่อไบรอัน แม็คไบรด์ ได้บอลหน้าเขตโทษแล้วกดด้วยซ้ายเต็มๆ บอลพุ่งเฉียดคานออกหลังไปแบบหวุด หวิด แต่ถัดมานาทีเดียว พอร์ทสมัธ เกือบพังประตูออกนำไปก่อนจากจังหวะที่ เดวิด นูเจนท์ ได้บอลหลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษ แต่กลับแปไปติดเซฟ โทนี่ วอร์เนอร์ แบบสุดหมู
เกมแลกกันสนุกทีเดียวจนถึงนาที 24 นักเตะทั้งสองทีมต้องพักเบรคให้น้ำ เนื่องจากอากาศร้อนอย่างหนัก ทำให้เกมหยุดไปร่วม 3 นาทีก่อนจะกลับลงโม่แข้งกันต่อ และนาที 29 ไซ ม่อน เดวิส ตอกส้นเข้าเขตโทษให้ ดิโอมองซี่ กามาร่า ล้มตัวยิงไปเข้ามือ เดวิด เจมส์ รับสบาย
ท้ายครึ่งแรก ทั้งสองฝ่ายเริ่มบุกได้น้ำได้เนื้อมากขึ้น นาที 38 เฮอร์มัน ไฮรดาร์สสัน เติมเกมพาบอลขึ้นมาถึงมุมเขตโทษทางซ้าย ก่อนตะบันเต็มแรงบอลพุ่งเข้าหากรอบแต่ไม่ผ่านมือ โทนี่ วอร์เนอร์
นาทีสุดท้ายก่อนพักครึ่งเป็น พอร์ทสมัธ ที่พังประตูออกนำไปก่อนเมื่อ เปโดร เมนเดส ได้จังหวะตะบันหน้าเขตโทษ บอลพุ่งโดนขา แซ็ท ไนท์ แฉลบไปเข้าทางปืน เบนจานี่ เอ็มวารูวารี แปสวนตัว โทนี่ วอร์เนอร์ เข้าไปไม่พลาด พอร์ทสมัธ นำ 1-0 ก่อนจะจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
ครึ่งหลังทั้งสองทีมมีการเปลี่ยนตัวกันหลายราย นาที 52 พอร์ทสมัธ เกือบพังประตูหนีไปเป็นสองเม็ด เมื่อฌอน เดวิส เปิดบอลจากกราบขวาเข้าไปในกรอบโทษแซ็ท ไนท์ ล้มตัว สไลด์บอลเปลี่ยนทางแต่ ริคาร์โด้ บาติสต้า นายด่านตัวสำรอง ยังพุ่งทุบออกหลังไปหวุดหวิด
3 นาทีต่อมา ฟูแล่ม น่าได้ประตูตีเสมอ จากจังหวะที่ดิโอมองซี่ กามาร่า พาบอลวิ่งจี้เข้าหาเขตโทษแล้วล็อกหลบ ซิลแว็ง ดิสแต็ง เข้าไปแปเน้นๆ ติดขา เดวิด เจมส์ เด้งออกหลัง อย่างน่าเสียดาย
เกมครบครึ่งชั่วโมง ปอมปีย์ พลาดการได้ประตูที่สองอีกครั้ง อาห์ลี ซัลเลย์ มุนตารี่ ได้กดเต็มเหนี่ยวมุมเขตโทษ ลูกพุ่งกำลังจะเสียบเสาแต่ดันไปติดขา โลมาน่า ลัวลัว กองหน้า ตัวสำรองเด้งออกมา จากนั้นนาที 69 เป็นโอกาสของ ฟูแล่ม คอลลินส์ จอห์น กองหน้าตัวสำรอง หลุดเดี่ยวตามบอลเข้าไปวอลเลย์ตรงจุดโทษ แต่กลับงัดข้ามคานไปไกลลิบ
ท้ายเกมเกมเริ่มเนือยลงตามลำดับ ทั้งสองทีมมีโอกาสเปิดเกมรุกเข้าใส่กันตลอดเวลา แต่ก็ขาดแคลนจังหวะหวาดเสียว กระทั่งช่วงทดเจ็บ แม็ทธิว เทย์เลอร์ ได้โอกาสส่องด้วยซ้าย เต็มข้อบอลพุ่งกระแทกเสาประตูเด้งออกหลังไป ก่อนที่คริส ฟอย เป่านกหวีดยาวสิ้นสุดการแข่งขัน พอร์ทสมัธ เอาชนะ ฟูแล่ม 1-0 ผ่านเข้าไปรอชิงชนะเลิศเป็นทีมแรก
รายชื่อผู้เล่น
พอร์ทสมัธ : เดวิด เจมส์, โซล แคมป์เบลล์ , โลร็อง เอตาเม่, ซิลแว็ง ดิสแต็ง, เฮอร์มัน ไฮรดาร์สสัน, แกรี่ โอนีล, อาห์ลี ซัลเลย์ มุนตารี่, นิโก้ ครันชาร์, เปโดร เมนเดส, เบนจานี่ เอ็ม วารูวารี, เดวิด นูเจนท์
ฟูแล่ม : โทนี่ วอร์เนอร์, คริส แบร์ด, แซ็ท ไนท์, อารอน ฮิวจ์ส, พอล คอนเชสกี้, สตีเฟ่น เดวิส , อเล็กเซ สเมอร์ติน, ไซม่อน เดวิส, คลิ้นท์ เดมพ์ซี่ย์, ไบรอัน แม็คไบรด์, ดิโอมองซี่ กามาร่า
