บีจี เอฟซี ยอดทีมแห่งไทยลีก มีอันต้องพลั้งพลาดหล่นไปเล่นใน ไทยลีก 2 ฤดูกาลหน้า ภายหลังจากที่พวกเขาทำผลงานได้ไม่เป็นอย่างที่หวัง และอยู่ในโซนเสี่ยงตกชั้นมาตลอดทั้งฤดูกาลที่ผ่านมา
สำหรับ บีจี เอฟซี นั้นเคยเป็นทีม ธ.กรุงไทย มาก่อน ก่อนที่กลุ่มทุนบีจีจะเข้ามาเทคโอเวอร์เมื่อปี 2552 ซึ่งก็ผ่านมาแล้ว 9 ปีด้วยกัน แน่นอนว่าด้วยงบประมาณที่ทุ่มอย่างหนักหน่วงปี ๆ หนึ่งไม่มีต่ำกว่า 100 ล้านบาทแน่ ๆ ทำให้พวกเขากลายเป็นทีมหัวแถวของ ไทยลีก มาโดยตลอด แต่เรื่องของความสำเร็จนั้น บีจี เคยเป็นแชมป์เพียงรายการเดียวคือ เอเอฟ คัพ ในปี 2557
ในฤดูกาลนี้เอาจริง ๆ น่าจะเป็นปีที่ บีจี หวังเอาไว้มากกว่าปีไหน ๆ เสียด้วยซ้ำ เพราะว่าพวกเขาได้ปรับปรุงทีมในหลาย ๆ ด้าน ทั้งเรื่องงบประมาณที่ปีนี้ทุ่มลงไปมากถึง 300 ล้านบาทเลยทีเดียว และที่แน่ ๆ เฉพาะค่าตัวของ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ กับ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ รวมกันก็ปาเข้าไป 70 ล้านบาทแล้ว นอกจากนั้นยังมีเรื่องการปรับปรุงจากเดิมที่เป็นสนามหญ้าเทียม เปลี่ยนมาเป็นสนามหญ้าจริงอีกด้วย
นอกจากนั้นยังเปลี่ยนชื่อสโมสรจากเดิม บางกอกกล๊าส เอฟซี มาเป็น บีจี เอฟซี อีกด้วย เช่นเดียวกับสีของสโมสรที่แต่เดิมเป็นสีเขียวก็ปรับมาเป็นสีฟ้า และฉายาเดิมคือ เดอะ แร็บบิท ก็เปลี่ยนมาเป็น บลูแมชชีน ตามสีใหม่ของสโมสร รวมไปถึงโลโก้ของทีมยังเปลี่ยนอีกด้วย แต่ว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่รอบนี้ดูเหมือนจะขาดอะไรไปสักอย่าง เพราะแทนที่จะดีขึ้นในทุก ๆ ด้าน แต่ว่าผลงานกลับสวนทางจนตกชั้นในที่สุด
อย่างไรก็ตามแม้ว่า บีจี จะตกชั้นลงไปใน T-2 ฤดูกาลหน้า แต่แฟน ๆ ของพวกเขาจะไม่หนีไปไหนอย่างแน่นอน เพราะว่าสโมสรแห่งนี้ได้ชื่อว่ามีแฟนบอลที่เหนียวแน่นที่สุดทีมหนึ่งของไทยลีกเลยทีเดียว นอกจากนั้นสีสันของการเชียร์จากสาว ๆ แรบบิท เกิร์ล ยังเป็นที่ตรึงตราตรึงใจต่อผู้พบเห็นมาโดยตลอด
ทั้งนี้ ทีมระดับ บีจี เอฟซี นั้นจะใช้เวลาใน T-2 ไม่นานอย่างแน่นอน และในตอนนี้พวกเขาคงจะเริ่มวางแผนกันแล้วว่าจะทำอย่างไรกันต่อไปสำหรับฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะมาถึง... รีบกลับมานะ บลูแมชชีน
ภาพข่าว : facebook.com/BangkokGlassFC