เจอร์รี่ ซุตคลิฟฟ์ รัฐมนตรีกระทรวงกีฬาอังกฤษ ยืนยันว่ารัฐบาลเมืองผู้ดีจะไม่ยื่นมือเข้าไปสอดแทรกกรณีที่องค์กรสิทธิมนุษยชนได้ยื่นหนังสือขอให้ พรีเมียร์ลีก ทบทวนมาตรการตรวจสอบคุณสมบัติผู้ที่จะเข้าครอบครองกิจการสโมสรฟุตบอลในลีกสูงสุดของประเทศ หลังจากที่ปล่อยให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซื้อทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทั้งๆ ที่อดีตนายกรัฐมนตรีไทยตกเป็นที่ต้องสงสัยว่ามีพฤติกรรมอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุยชนอยู่หลายประเด็นด้วยกัน
ทั้งนี้แม้จะเห็นว่าหลักเกณฑ์การตรวจสอบคุณสมบัติของ พรีเมียร์ลีก น่าจะต้องมีการพิสูจน์กันว่ามีความน่าเชื่อถือเพียงพอหรือไม่ ทว่าเจ้ากระทรวงกีฬาเมืองผู้ดีก็ยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวควรเป็นหน้าที่ขององค์กรในแวดวงลูกหนังดูแลกันเองมากกว่า โดยระบุว่า "มันควรเป็นการตัดสินใจของหน่วยงานในแวดวงฟุตบอล เพราะพวกเขาเป็นคนร่างกฎนี้ขึ้นมาเอง การตรวจสอบมันมีอยู่ 3 ช่องทาง หนึ่งคือจากสมาคมฟุตบอล, สองจาก พรีเมียร์ลีก และสามโดยฟุตบอลลีก"
"สิ่งที่พวกเขาต้องทำก็คือ ดึงเอาทั้งสามช่องทางนี้มารวมกันให้ได้แล้วสร้างมาตรฐานขึ้นมาซะ ส่วนเรื่องที่พวกเขาควรจะคิดทำขึ้นมาอีกก็คือหาทางออกในเรื่องของความโปร่งใสเกี่ยวกับการเข้าครอบครองกิจการสโมสร ลองดูซิว่าผู้บริหารของแต่ละทีมมีอำนาจหน้าที่กันขนาดไหน" ซุตคลิฟฟ์ กล่าว
ด้าน พอล ไทร์เรลล์ โฆษกทีม "เรือใบสีฟ้า" ก็ออกมากล่าวปกป้องนายใหญ่ของตัวเองบ้างว่า "นี่เป็นแค่อีกครั้งหนึ่งที่กลุ่มองค์กรสิทธิฯ จะได้มีโอกาสได้เคลื่อนไหวอะไรบ้างก็เท่านั้น เพราะมันไม่เห็นจะมีหลักฐานอะไรใหม่ๆ ที่ว่าคุณทักษิณกระทำผิดอะไรเลย"
"ดูเหมือนมันจะมีประเด็นที่ทุกๆ คนลืมไปหมดแล้วนั่นก็คือคุณทักษิณซึ่งถูกขับพ้นตำแหน่งนายกฯ ด้วยการทำรัฐประหาร เคยชนะการเลือกตั้งและได้ทำหน้าที่หัวหน้ารัฐบาลของประเทศไทยซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่มีประชาธิปไตยเบ่งบานที่สุดในโลกมาถึง 2 ครั้ง และข้อกล่าวหาเหล่านี้ก็เพิ่งเกิดขึ้นมาหลังจากที่รัฐบาลทหารเข้ากุมอำนาจแล้วนี่เอง และเราเชื่อว่าการดำเนินการสอบสวนเอาผิดกับเขาในทุกกรณีจะต้องล้มเหลวแน่" กระบอกเสียง "เรือใบสีฟ้า" กล่าว
