เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล เตรียมนำทีมลงสนามศึกสำคัญ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดชิงชนะเลิศ กับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ในคืนวันนี้ เสาร์ที่ 2 มิถุนายน 2562 เริ่มเตะเวลา 02.00 น.
ก่อนจะถึงเกมนี้ ประเด็นที่ถูกยกมาพูดกันก็คือผลงานของ คล็อปป์ ในการนำทีมลงเล่นนัดชิงชนะเลิศ ซึ่ง 6 ครั้งที่ผ่านมาทีมของกุนซือชาวเยอรมันต้องจบลงด้วยความผิดหวัง
คล็อปป์ เคยนำ ดอร์ทมุนด์ เอาชนะ บาเยิร์น คว้าแชมป์ เดเอฟเบ โพคาล เมื่อปี 2012 แต่จากนั้นก็ไม่เคยได้ชูถ้วยในฐานะแชมป์อีกเลย ทีมเสือเหลือง พ่ายต่อ เสือใต้ ใน แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดชิงชนะเลิศ 2013 และแพ้ในนัดชิง เดเอฟเบ โพคาล อีก 2 ครั้ง
จากนั้นเมื่อเข้ามาคุม ลิเวอร์พูล ทีมหงส์แดง ก็แพ้ แมนฯ ซิตี้ ในนัดชิงชนะเลิศ ลีกคัพ 2016 ตามด้วยพ่าย เซบีย่า ในนัดชิง ยูโรป้า ลีก และล่าสุดคือปีก่อนที่แพ้ เรอัล มาดริด
อย่างไรก็ตาม คล็อปป์ ย้ำว่าไม่เคยคิดว่าตัวเองล้มเหลวเมื่อดูจากสถิติเรื่องนี้ โดยกล่าวว่า "บอกได้เลยว่าชีวิตการทำงานโค้ชของผมมันไม่ได้ถือว่าโชคร้าย ผมต้องเป็นต้องของสถิติโลกชนะในรอบตัดเชือก แต่ถ้าผมเอาเรื่องนี้ไปเขียนหนังสือก็แน่นอนว่าคงไม่มีใครซื้อไปอ่าน"
"ช่วงปี 2012 ถึง 2017 ผมผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศกับทีมของผม และผมไม่รู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้แพ้ ถ้าผมเอาแต่คิดแบบนั้นผมคงมีปัญหาแน่ ในเกมแบบนี้มันก็มีบางครั้งที่คุณโชคดี แต่ก็มีอีกหลายครั้งที่คุณไม่มีโชค แต่นี่คือเรื่องที่คุณไม่สามารถทำอะไรได้"
"ถ้าตัวผมเองเป็นสาเหตุให้ต้องแพ้นัดชิงเป็นครั้งที่ 6 ทุกคนก็คงต้องระวังผมแล้วละ แต่ถ้าไม่ใช่เราก็มีโอกาส ปีก่อนเราเสีย 3 ประตูแบบไม่น่าเชื่อ แต่ถ้าไม่นับเรื่องนี้ผมมองว่ามันเป็นเกมที่ดีของเรา แต่ตอนนี้เรากำลังจะเผชิญกับสถานการณ์ซึ่งเราได้ผ่านการเรียนรู้หลาย ๆ อย่างมาด้วยกัน"
ส่วนในเกมกับ สเปอร์ส นัดนี้ คล็อปป์ เชื่อว่าไม่มีฝ่ายไหนได้เปรียบหรือเสียเปรียบกัน แม้ใครจะยกให้ ลิเวอร์พูล มีโอกาสเหนือกว่า
"ถ้าผมคิดว่า สเปอร์ส เหนือกว่ามันก็คงแปลก เราไม่ได้คิดเรื่องนี้หรอก มันเป็นเรื่องของการเตรียมตัวเพื่อชิงความได้เปรียบในเกมนี้ หลายคนบอกว่าเราเหนือกว่าแต่เราก็ชนะพวกเขาในเกมลีกทั้งสองนัดแค่ 2-1 แล้วนัดหลังนี่ก็ยิงได้แบบแปลก ๆ ด้วย"
"ทั้งสองทีมถือว่าพัฒนาขึ้นมาได้ทีละขั้น ผมนับถือ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ อย่างมากสำหรับการทำงานของเขาที่ ท็อตแน่ม เราพัฒนาทีมขึ้นมาพร้อม ๆ กัน" คล็อปป์ กล่าว
ภาพ AFP
