เริ่มเกิดรอยร้าวระหว่าง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง กับ เนย์มาร์ เมื่อทาง เปแอสเช ออกแถลงการณ์ว่า กองหน้าทีมชาติบราวิล ขัดคำสั่งสโมสรไม่มารายงานตัวตามกำหนดซ้อมวันแรก ฝั่งคุณพ่อตอบโต้โดยบอกว่าเคยแจ้งแล้วว่าจะกลับไปช้า จากรายงานของ mirror.co.uk เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2562
เนย์มาร์ ตกเป็นข่าวว่าเขาไม่มีความสุขกับ เปแอสเช เลยนับตั้งแต่ย้ายมาจาก บาร์เซโลนา ด้วยค่าตัวสถิติโลก 198 ล้านปอนด์เมื่อซัมเมอร์ปี 2017 ซึ่งเจ้าตัวพยายามที่จะย้ายออกจากฝรั่งเศสในช่วงซัมเมอร์นี้ โดยมีเป้าหมายคือการกลับไปเล่นที่ บาร์ซ่า อีกครั้ง ถึงขนาดมีข่าวหลุดมาว่าเขาวางแผนกดดันต้นสังกัดด้วยการไม่ขอร่วมทีมไปทัวร์ปรีซีซั่น
จนกระทั่งเมื่อถึงวันที่นักเตะ เปแอสเช มีกำหนดรายงานตัวฝึกซ้อมวันแรกในวันที่ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ทาง เนย์มาร์ ไม่ได้เดินทางไปสมทบกับเพื่อนร่วมทีม งานนี้ทำเอาทีมดังแห่งกรุงปารีสไม่พอใจ และออกแถลงการณ์ว่า "ในวันที่ 8 กรกฎาคม เนย์มาร์ จูเนียร์ จะต้องกลับมาสู่ทีมช่วงปรีซีซั่นร่วมกับผู้เล่นชุดใหญ่ของ เปแอสเช"
"ซึ่งสโมสร เปแอสเช ยืนยันได้ว่า เนย์มาร์ ไม่มาปรากฎตัวตามสถานที่ และเวลาที่กำหนด โดยที่ไม่ได้รับอนุญาต สโมสรผิดหวังกับสถานการณ์นี้ และจะมีการดำเนินการตามความเหมาะสมต่อไป"
อย่างไรก็ตามต่อมา เนย์มาร์ ซีเนียร์ คุณพ่อของดาวเตะวัย 27 ปี ได้ออกมาตอบโต้ว่าที่ยังไม่กลับ เปแอสเช ก็เพราะลูกชายของตนยังติดงานกับสปอนเซอร์ และกิจกรรมของสถาบันตัวเอง ซึ่งได้แจ้งกับสโมสรไปก่อนหน้านี้แล้วว่าจะกลับไปรายงานตัวในวันที่ 15 กรกฎาคมนี้ "เหตุผลนั้นเรารู้กันดีอยู่แล้วว่า ด้วยตารางงานประจำปีของสถาบันของเขาที่ออกมาล่วงหน้าเป็นปี เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้"
"เขาจะกลับไปในวันที่ 15 ซึ่งมันก็เป็นไปตามปกติ ไม่เห็นมีอะไรต้องกังวล ซึ่งทาง เปแอสเช ก็รับรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว เรามีงานกับสปอนเซอร์ และงานของสถาบัน วันที่ของงานเหล่านั้นก็ถูกแจ้งไปเมื่อหนึ่งเดือนที่แล้วกับ เปแอสเช"
"สถาบันเนย์มาร์จัดกิจกรรมเหล่านี้ทุกปี และปีนี้งานถูกจัดในวันที่ 10 กรกฎาคม ต่อจากนั้นก็จะมีอีกงานหนึ่ง เสร็จแล้วเราก็จะกลับ เปแอสเช ในวันที่ 15 ตามที่เราได้แจ้งให้สโมสรทราบเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน"
เหตุการณ์นี้ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่าง เปแอสเช และ เนย์มาร์ นั้นดูเหมือนจะย่ำแย่ลงไปทุกที โดยมีรายงานว่า เปแอสเช ตัดสินใจแล้วที่จะปล่อย เนย์มาร์ ออกจากทีม แต่จะไม่ยอมขายขาดทุนเยอะ โดยตั้งค่าตัวไว้ไม่ต่ำกว่า 180 ล้านปอนด์
ภาพจาก AFP