สภาพความพร้อมทั้งสองทีม
เจ้าบ้าน เดอะ ปอมปีย์ ปอร์ทสมัธ ต้องรอเช็คความฟิตของโซล แคมเบลล์ อีกครั้งหลังมี อาการบาดเจ็บบริเวณโคนขาหนีบ และยังต้องลุ้นทางด้านเปโดร เมนเดส มิดฟิลด์ตัวหลักอีกหนึ่งราย ขณะที่ แกรี โอนีล กองกลาง จะกลับมาช่วยทีมในเกมนี้ หลังเข้ารับการผ่าตัดข้อเท้าตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ส่วนแดนหน้า คานู หอกจอมเก๋าทีมชาติไนจีเรีย อาจถูกส่งลงสนามในนัดนี้ถ้าหากแฮร์รี่ เรดแนปป์ กุนซือต้องการใช้ระบบโรเตชั่นในแผงหน้า
ขณะที่ทีมเยือน ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะได้คาลอส เตเวซ กองหน้าใหม่ถอดด้ามลงบู๊ในเกมนี้ค่อนข้างสูง เนื่องจากพวกเขาต้องเสียเวย์น รูนี่ย์ ที่ได้รับบาดเจ็บและหยุดพักรักษาตัวเป็นเวลา 2 เดือน รวมถึงทางด้าน หลุยส์ ซาฮา,โอเล่ กุนนาร์ โซลชาและมิคาเอล ซิลแวสต์ ที่ดูเหมือนมีอาการบาดเจ็บเล็กน้อยหลังจากลงเล่นเกมนัดเปิดสนามกับทีมเร้ดดิ้งเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ความน่าจะเป็นของเกมนี้
ทั้งสองทีมต่างเสมอกันมาในนัดแรกทั้งคู่ทำให้ต้องการจะคว้า 3 คะแนนแรกเพื่อเป็นการกระตุ้นทีมตัวเอง ปอร์ทสมัธมีนักเตะคุณภาพดีอยู่หลายคนและมีสถิตดีในการเล่นเป็นทีมเจ้าบ้าน ขณะที่ทีมเยือนก็จะได้คาลอส เตเวซ หัวหอกอาร์เจนไตน์ ลงเล่นในเกมนี้แทนที่ทางด้านเวย์ รูนี่ย์ ซึ่งดูแล้วสามารถทดแทนได้สบายแต่อาจมีปัญหาในด้านการปรับตัว แต่โดยรวมต้องบอกว่าทีเด็ดทีขาดในจังหวะสุดท้ายทีมแมนฯ ยูฯ ยังดูดีกว่าประกอบกับทีมเจ้าบ้านแผงหลังยังดูหลวมๆจึงมีโอกาสโดนส่องประตูสูง ดูแล้วทีมเยือนน่าจะเบียดชนะไปได้ในที่สุด
ฟันธง 1-2
ส่วนเกมคู่อื่นมีดังนี้
เบอร์มิงแฮม ซิตี้ พบ ซันเดอร์แลนด์
ทีม ตราลูกโลก เบอร์มิงแฮม ซิตี้ ประเดิมนัดแรกด้วยการบุกไปพ่ายทีมแกร่งอย่างเชลซี 3-2 โดยรูปเกมก็ไม่ได้เป็นรองทีม สิงห์บลูส แต่อย่างใด โดยพวกเขามีตัวทีเด็ดอยู่ที่ มิคาเอล ฟอร์สเซล ส่วนทีมเยือน แมวดำ ซันเดอร์แลนด์ ของกุนซือคนจริง รอย คีน ทำผลงานนัดแรกได้สวยหรูเมื่อเปิดบ้านเฉือนเอาชนะทีมท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ไปได้ 1-0 ทำให้ในเกมนี้พวกเขาบุกมาเยือนเบอร์มิงแฮม ด้วยความมั่นใจเต็มที่ และอาจสร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการบุกมาเอาชนะได้เป็นนัดที่สองติดต่อกัน
ฟันธง 0-1
ฟูแล่ม พบ โบลตัน
ทั้งสองทีมแพ้มาในเกมแรกทั้งคู่แต่เกมนัดนี้มีความแตกต่างจากนัดเปิดสนามมาก เนื่องจากขุมกำลังนักเตะของทั้งคู่มีความใกล้เคียงกัน ฟูแล่มมีรูปแบบการเล่นที่ดีขึ้นโดยดูได้จากในนัดแรกที่เกือบบุกไปคว่ำอาร์เซน่อลได้ถึงถิ่น ก่อนจะพ่ายความเก๋าและปราชัยไปในช่วง 10 นาทีสุดท้ายของเกม ส่วน เดอะ ทร็อตเตอร์ โบลตัน ไม่แกร่งเหมือนเดิมนับตั้งแต่เสียหัวเรือใหญ่อย่าง บิ๊กแซม แซม อัลลาร์ไดซ์ ที่หนีไปคุมทีมนิวคาสเซิ่ล และบุกมาเอาชนะทีมเก่าไปเมื่อสุดสัปดาห์ ดูแล้วเจ้าบ้านฟูแล่มมีภาษีดีกว่า และน่าจะเอาชนะไปได้ไม่ยาก
ฟันธง 2-0
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พบ ดาร์บี้
เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในยุคสเวน อิริคส์สัน ต้องบอกว่ามีรูปแบบการเล่นที่พัฒนาขึ้นกว่าเมื่อฤดูกาลที่แล้วมากขึ้นจริงๆ โดยเฉพาะบรรดานักเตะใหม่ที่เพิ่งย้ายมาร่วมทีม ต่างเต็มไปด้วยคุณภาพเต็มเปี่ยม ถ้าเปรียบเทียบกับทีมน้องใหม่อย่างดาร์บี้แล้วยังดูห่างชั้นอยู่มาก แม้ว่าพวกเขาจะทำได้ดีในเกมที่เปิดบ้านเสมอกับปอร์ทสมัธในเกมแรก แต่ดูแล้วถ้ายื้อกันนานๆ ลูกทีมของ เฮียเถิก น่าจะทนแรงเสียดสีและเอาชนะไปได้แน่นอน
ฟันธง 2-0
เร้ดดิ้ง พบ เชลซี
เจ้าบ้าน เดอะ รอยัล เร้ดดิ้ง สร้างเซอร์ไพรส์ในเกมแรกด้วยการบุกไปยันเสมอทีมแชมป์เก่า ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาได้สำเร็จด้วยฟอร์มการเล่นแบบใช้ลูกขยันเข้าสู้ บวกกับมีนายทวารที่ไว้ใจได้อย่าง มาร์คัส ฮาเนมันน์ ทำให้พวกเขาต่างเล่นด้วยความมั่นใจ แต่ถึงอย่างไรก็คงต้านความแข็งแกร่งของเชลซีไม่ไหวแน่นอน และจะปราชัยให้ลูกทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่ ที่มีนักเตะระดับโลกอยู่เต็มที่ไปในที่สุด
ฟันธง 1-3
วีแกน พบ มิดเดิ้ลสโบรช์
แพ้มาทั้งคู่สำหรับนัดเปิดสนามฤดูกาลใหม่ เจ้าบ้านวีแกนเสียนักเตะกำลังสำคัญอย่าง เลย์ตัน เบนส์ ออกจากทีม ทำให้ทีมดูเสียสมดุลย์ไปเล็กน้อย แต่พวกเขาก็ยังหวังว่า เจสัน คูมาส มิดฟิลด์จอมทัพ จะสามารถช่วยพาทีมก้าวไปข้างหน้าได้ ขณะที่ สิงห์แดง โบโร่ มีนักเตะหลักเจ็บอยู่หลายคน และฟอร์มการเล่นก็ไม่ได้ดีไปกว่าทีมเจ้าบ้านเลยแม้แต่น้อย ดูแล้วเสียงเชียร์ประกอบกับการได้เล่นในบ้านจะทำให้พลพรรค เดอะ ลาติกส์ เบียดเอาชนะไปได้ในที่สุด
ฟันธง 1-0