"ฟร้องซ์ ฟุตบอล" นิตยสารวงการลูกหนังชื่อก้องโลก ทำการประกาศรายชื่อ 30 นักเตะที่ได้เข้าชิงรางวัล บัลลง ดอร์ ประจำปี 2019 ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากรายงานของ mirror.co.uk เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2562
โดยปีนี้บรรดาแข้งดาวดังก็มากันครบไม่ว่าจะเป็น คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ ลิโอเนล เมสซี่ 2 ซูเปอร์สตาร์ขาประจำของรางวัล บัลลง ดอร์ แต่เจ้าของรางวัลเมื่อปีก่อนอย่าง ลูก้า โมดริช รวมไปถึง เนย์มาร์ ดาวเตะค่าตัวสถิติโลก กลับไม่มีชื่อเข้าชิงในปีนี้
ขณะที่ ลิเวอร์พูล แชมป์ยุโรปปีล่าสุดมีผู้เล่นติดโผมากที่สุดถึง 7 รายด้วยกันนำทัพโดย โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, ซาดิโอ มาเน่, โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม, เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค และ อลิสซอน เบ็คเกอร์
รายชื่อ 30 นักเตะที่ได้เข้าชิงรางวัล บัลลง ดอร์ 2019
ซาดิโอ มาเน่ (ลิเวอร์พูล / เซเนกัล)
ฮูโก้ โยริส (ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ / ฝรั่งเศส)
เฟรงกี้ เดอ ยอง (บาร์เซโลนา / ฮอลแลนด์)
เซร์คิโอ อเกวโร่ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้ / อาร์เจนตินา)
ดูซาน ทาดิช (อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม / เซอร์เบีย)
คีลิยัน เอ็มบัปเป้ (ปารีส แซงต์-แชร์กแมง / ฝรั่งเศส)
เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (ลิเวอร์พูล / อังกฤษ)
ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค (อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม / ฮอลแลนด์)
ปิแอร์ เอเมอริค-โอบาเมย็อง (อาร์เซนอล / กาบอง)
มาร์ค-อันเดร แทร์ สเตเก้น (บาร์เซโลนา / เยอรมนี)
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (ยูเวนตุส / โปรตุเกส)
อลิสซอน เบ็คเกอร์ (ลิเวอร์พูล / บราซิล)
มาต์ไตส์ เดอ ลิกต์ (ยูเวนตุส / ฮอลแลนด์)
คาริม เบนเซม่า (เรอัล มาดริด / ฝรั่งเศส)
จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม (ลิเวอร์พูล / ฮอลแลนด์)
เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค (ลิเวอร์พูล / ฮอลแลนด์)
แบร์นาร์โด้ ซิลวา (แมนเชสเตอร์ ซิตี้ / โปรตุเกส)
ซอน เฮือง-มิน (ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ / เกาหลีใต้)
โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (บาเยิร์น มิวนิค / โปแลนด์)
โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ (ลิเวอร์พูล / บราซิล)
ลิโอเนล เมสซี่ (บาร์เซโลนา / อาร์เจนตินา)
ริยาด มาห์เรซ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้ / แอลจีเรีย)
เควิน เดอ บรอยน์ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้ / เบลเยียม)
คาลิดู คูลิบาลี่ (นาโปลี / เซเนกัล)
อ็องตวน กรีซมันน์ (บาร์เซโลนา / ฝรั่งเศส)
โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ (ลิเวอร์พูล / อียิปต์)
เอแด็น อาซาร์ (เรอัล มาดริด / เบลเยียม)
มาร์กินญอส (ปารีส แซงต์-แชร์กแมง / บราซิล)
ราฮีม สเตอร์ลิง (แมนเชสเตอร์ ซิตี้ / อังกฤษ)
ชูเอา เฟลิกซ์ (แอตเลติโก มาดริด / โปรตุเกส)
ภาพจาก twitter.com/francefootball