ลิเวอร์พูล และ แมนยู ต่างตกเป็นข่าวว่าอยากได้ตัว เจดอน ซานโช่ มาร่วมทีมด้วยเป็นอย่างมากในซัมเมอร์นี้ ทว่าด้วยค่าตัวที่สูงลิบลิ่วทำให้ หงส์แดง ตัดใจถอนสมอไปแล้ว ส่วน แมนยู ชอบอยู่แล้วกับการควักเงินก้อนโตซื้อผู้เล่นระดับซุปตาร์เข้ามาร่วมทีม
แน่นอนว่าการหมายตา ปีกทีมชาติอังกฤษ เหมือนกัน ไม่ใช่ครั้งแรกที่ แมนยู และ ลิเวอร์พูล ต้องการได้ตัวนักเตะคนเดียวกัน โดยก่อนหน้านี้มีมาแล้วนับ 10 หน ที่สองทีมคู่อริต้องเปิดศึกกันนอกสนามเพื่อให้ได้นักเตะที่พวกเขาต้องการ
10 นักเตะที่ถูกตามจีบโดย ลิเวอร์พูล กับ แมนยู
10) โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่
แมนยู อาจจะเป็นฝ่ายลิสต์ บ๊อบบี้ เอาไว้ก่อน แต่ว่าพวกเขาดำเนินการล่าช้าเกินไป เพราะหวังจะรอให้ตัวนักเตะเสร็จภารกิจช่วยชาติในศึกโคปา อเมริกา เมื่อปี 2015 เสียก่อน ทว่าผู้บริหารของ หงส์แดง กลับเดินทางไปถึงชิลีด้วยตัวเอง และจัดการปิดดีลได้สำเร็จด้วยค่าตัว 29 ล้านปอนด์
9) เมมฟิส เดปาย
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2015 ลิเวอร์พูล ตกเป็นข่าวหนักมากกับทาง เดปาย ทว่าสุดท้ายแล้วนักเตะเลือกที่จะย้ายมาลงเล่นให้ แมนยู พร้อมกับคำสัมภาษณ์จากใจสั้น ๆ ว่า "มันไม่ได้เกี่ยวกับเงิน แต่มันมาจากความรู้สึก"
8) ฟาบินโญ่
ว่ากันว่า ฟาบินโญ่ คือผู้เล่นที่ แมนยู หมายตามองมานานจริง ๆ ในยุคของ โชเซ่ มูรินโญ่ แต่ไป ๆ มา ๆ ลิเวอร์พูล กลับจัดการปิดดีลได้อย่างรวดเร็วแบบไม่มีใครคาดคิด
มิดฟิลด์บราซิลเลียน เผยว่า "ก่อนที่ผมจะย้ายทีมมันมีการเจรจากันเยอะอยู่นะระหว่างโมนาโกกับแต่ละสโมสร แต่ผมรู้สึกว่ามันจะไม่มีการยื่นข้อเสนอแบบจริงจังของแมนยูเข้ามาเลย"
7) ฟิล โจนส์
เขาเคยได้รับการขนานนามว่าเป็นดาวรุ่งแห่งวงการลูกหนังอังกฤษเมื่อตอนที่ยังลงเล่นให้ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส โดยฝีเท้าของเขาจัดจ้านถึงขนาดที่ว่า เซอร์ เคนนี่ ดัลกลิช บุกไปถึงบ้านเพื่อเจรจานำเขามาร่วมทีมลิเวอร์พูล ทว่าสุดท้าย เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก็ยกเลิกวันหยุดของตัวเองเพื่อไปกล่อมเจ้าหนูโจนส์ ก่อนจะคว้าตัวมาอยู่กับ แมนยู ด้วยค่าหัว 16.5 ล้านปอนด์
โดย ท่านเซอร์เฟอร์กี้ ได้กล่าวไว้ว่า ฟิล โจนส์ จะก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะผู้ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ลูกหนังอังกฤษ... ทว่าการที่เขาถูกจับโยกไปเล่นหลายตำแหน่งจนเกินไปในสมัยยังเป็นดาวรุ่ง ส่งผลให้เขาเป็นอย่างที่แฟน ๆ แมนยู ได้เห็นในทุกวันนี้...
6) ซาดิโอ มาเน่
กองหน้าหัวใจหล่อมากของลิเวอร์พูล ยอมรับว่าก่อนจะย้ายมายังแอนฟิลด์ เขาเคยเดินทางไปยังโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด มาก่อน และได้มีการพูดคุยกับ หลุยส์ ฟาน กัล พร้อมกับข้อเสนอที่ยื่นมาให้ ทว่าในสัปดาห์เดียวกัน เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็โทร. หาเขา
5) คริสเตียโน่ โรนัลโด้
CR7 ถือเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงสุด ๆ ในช่วงวัยรุ่นของเขาที่ สปอร์ติ้ง ลิสบอน และลิเวอร์พูลก็เป็นทีมแรกที่มีโอกาสได้ตัวเขามาร่วมทีม แต่ตัวนักเตะต้องการค่าเหนื่อยหลังหักภาษีแล้ว 1 ล้านปอนด์ต่อปี พร้อมกับค่าตัวที่ต้องการจ่ายให้ต้นสังกัดอีก 4 ล้านปอนด์ ซึ่งถือว่าแพงมากในยุคนั้น
ทว่าในอีกไม่กี่สัปดาห์ต่อมา แมนยู ก็กลายเป็นทีมที่บรรลุข้อตกลงกับ โรนัลโด้ ได้สำเร็จ แต่ค่าตัวของเขาจาก 4 ล้านปอนด์ กลับพุ่งขึ้นมาเป็น 12 ล้านปอนด์เลยทีเดียว.. แต่ก็นับว่าคุ้มกับทุกประตูที่เจ้าตัวทำได้กับทีมปีศาจแดง
4) เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค
ก่อนที่ กัปตันทีมชาติฮอลแลนด์ จะย้ายมาอยู่กับ ลิเวอร์พูล อย่างเป็นทางการ ในระหว่างที่เขายังตรวจร่างกาย และรอการเปิดตัวอยู่นั้น แมนยู พยายามโทร. หาเขาหลายรอบเพื่อหวังให้เปลี่ยนใจ แต่สุดท้ายเขาคือกองหลังผู้เข้ามายกระดับเกมรับของหงส์แดงอย่างแท้จริง
3) กาเบรียล ไฮน์เซ่
อดีตแบ็กซ้ายทีมชาติอาร์เจนตินา เป็นนักเตะของแมนยูอยู่แล้วในตอนนั้น ทว่า ราฟา เบนิเตซ อยากได้ตัวเขาไปร่วมงานกันที่ ลิเวอร์พูล มาก ๆ และได้ยื่นข้อเสนอราว 6.8 ล้านปอนด์ให้ แมนยู พิจารณา ซึ่งตัวนักเตะเองก็อยากย้ายมายังถิ่นแอนฟิลด์เช่นกัน แต่ว่า เซอร์เฟอร์กี้ ไม่ยอมทำให้พวกเขาทะเลาะกันใหญ่โต และสุดท้ายก็ไม่มีดีลนี้เกิดขึ้น เพราะการขวางอย่างสุดลำของอดีตบิ๊กบอสปีศาจแดง
ทว่าเมื่อมันมีรอยร้าวไปแล้ว มันก็ยากที่จะประสานกลับมาทำงานกันได้เหมือนเดิม ทำให้ แมนยู ตกลงปล่อย ไฮน์เซ่ ไปให้กับ เรอัล มาดริด ใช้งานต่อที่ 6.8 ล้านปอนด์ เท่ากับที่ หงส์แเดง ยื่นมาให้เป๊ะ ๆ !
2) ทาคูมิ มินามิโนะ
แมนยู อยากได้ตัว ทาคิ ไปร่วมทีมเป็นอย่างมาก แต่แอบ ๆ เอาไว้ไม่ให้ใครรู้ ทว่า หงส์แดง เป็นทีมที่เปิดเผย และพวกเขาก็มีมิตรภาพอันดีกับ เร้ดบูลส์ ซัลซ์บวร์ก ทำให้ล่วงรู้ถึงความลับที่ว่า ดาวเตะซามูไร มีค่าฉีกสัญญาเพียง 7.25 ล้านปอนด์เท่านั้น ซึ่งในที่สุด ลิเวอร์พูล ก็ได้ตัว มินามิโนะ ไปร่วมทีมตามที่ต้องการในตลาดหน้าหนาวที่ผ่านมา
1) เท็ดดี้ เชอริงแฮม
ในปี 1997 รอย อีแวนส์ ผู้จัดการทีมคนสุดท้ายในระบบบูตรูมของลิเวอร์พูล อยากได้ตัว น้าหมี มาร่วมทีมด้วยมาก ๆ เพราะมองว่าประสบการณ์ของเขาจะช่วยทีมได้มาก เพราะตัวเองก็เพิ่งจะขาย สแตน คอลลีมอร์ ออกไป ทว่าด้วยเงื่อนไขส่วนตัวของ เท็ดดี้ ทำให้ดีลนี้ไม่เกิดขึ้น
โดยกลายเป็นแมนยูที่มองว่ามันคุ้มค่าที่จะจ่ายหากว่ากันด้วยเรื่องของประสบการณ์ของ ดาวเตะวัย 31 ปี โดยเฉพาะลูกยิงใส่ บาเยิร์นฯ ในปี 1999 ที่ช่วยให้ แมนยู กลายเป็นแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มันยิ่งคุ้มค่าเข้าไปใหญ่ และตลอด 4 ปีของ เท็ดดี้ เชอริงแฮม กับ ทีมปีศาจแดง เขาฟาดไปทั้งหมด 5 แชมป์
ขอบคุณข้อมูลจาก : mirror.co.uk
ภาพข่าว : AFP