ผีบุกเฉือนทอฟฟี่หวิว,หงส์เจ๊าปอมปีย์

ฟุตบอล พรีเมียร์ชิพ

เอฟเวอร์ตัน 0 - 1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

"ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน เปิดรัง กูดิสัน พาร์ค รับการมาเยือนของ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นัดนี้ เดวิด มอยส์ หมดสิทธิ์ใช้งาน ทิม ฮาวเวิร์ด นายทวารมือหนึ่งที่ได้รับบาดเจ็บเช่นเดียวกับ โธมัส กราเวอเซ่น ทำให้ตำแหน่งผู้รักษาประตูส่ง สเตฟาน เวสเซลล์ ลงมาเฝ้าเสาแทนโดยมี ยาคูบู ไอเย็กเบนี่ เป็นหัวหอกคู่กับ แอนดี้ จอห์นสัน ขณะที่ปีศาจแดงได้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปีกตัวจัดพ้นโทษแบนยาว 3 เกมกลับมาทำเกมรุกได้อีกครั้งแต่ เวย์น รูนี่ย์ ยังไม่มีชื่อในเกมนี้โดยแดนหน้าใช้บริการของ คาร์ลอส เตเวซ จับคู่กับ ไรอัน กิ๊กส์

เปิดฉากมา 5 นาทีแมนฯ ยูไนเต็ดทักทายก่อนเมื่อ คาร์ลอส เตเวซ ได้บอลบริเวณกลางสนามก่อนจ่ายตัดแนวรับเข้าไปในเขตโทษให้ ปาทริซ เอวร่า สอดขึ้นมาซัดเข้าข้างตาข่าย และจากนั้นนาที 15 ปีศาจแดงได้ลุ้นอีกครั้งเมื่อ ไมเคิ่ล คาร์ริค จ่ายยัดไปหน้ากรอบเขตโทษให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ พลิกตัวยิงด้วยซ้ายบอลไปแฉลบขา โจลีออน เลสค็อตต์ ออกหลังไป

เกมยังเป็นปีศาจแดงที่บุกได้วูบวาบกว่าบีบให้ทีมทอฟฟี่ทำได้แค่เน้นรับแล้วรอจังหวะสวนกลับและมาได้จังหวะอีกครั้งในนาที 22 เตเวซ พลิกบอลหลบ โยโบ ก่อน จ่ายออกซ้ายให้ ไรอัน กิ๊กส์ ดึงจังหวะแล้วไหลกลับให้ เตเวซ ทะลุเข้าไปยิงในกรอบเขตโทษแต่ยังโเน เลสค็อตต์ ตามมาบล็อกได้อย่างหวุดหวิด

เอฟเวอร์ตันเกือบต้องสังเวยประตูอีกครั้งในนาทีที่ 30 เมื่อแผลหลังเตะสกัดบอลไม่ขาดบอลไปตกที่ พอล สโคลส์ แปะให้ คาร์ริค ฮาล์ฟวอลเลย์บอลไปแฉลบแนวรับออกหลังไป ขณะที่โอกาสลุ้นทำประตูของปีศาจแดงมีมาอย่างต่อเนื่องถัดมา 4 นาทีมาได้ลุ้นอีกเมื่อ เตเวซ ไหลบอลจากซ้ายเข้าไปในให้ กิ๊กส์ แตะกลับมาให้ คาร์ริค อัดเต็มข้อบอลเฉี่ยวเสาออกไปแบบหวุดหวิด

จากนั้นนาที 39 แมนฯ ยูไนเต็ดต้องเปลี่ยนตัวเป็นแรกเนื่องจาก ซิลแวสตร์ ได้รับบาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหวทำให้ต้องส่ง นานี้ ลงมาเล่นแทนแล้วปรับให้ เอวร่า ลงไปประจำการตำแหน่งแบ็กซ้ายก่อนที่จะยังไม่มีฝ่ายใดพังประตูกันได้หมด 45 นาทีแรกเลยยังเสมอกันอยู่ 0-0

ครึ่งหลังนาที 46 เอฟเวอร์ตันเริ่มต้นได้อย่างน่ากลัวและเกือบได้ประตูออกนำเมื่อ มิเกล อาร์เตต้า เปิดลูกเตะมุมมาให้ แอนดี้ จอห์นสัน โหม่งเต็มหัวแต่โดน สโคลส์ โขกสกัดออกมาได้ แมนฯ ยูไนเต็ดโต้ตอบบ้างในนาที 54 เมื่อ คาร์ริค แทงบอลเข้าเขตโทษให้ กิ๊กส์ สอดไปรับบอลก่อนตวัดมาหน้าประตูไม่มีใครเข้าชาร์จ และถัดมา 2 นาทีปีศาจแดงน่าจะได้ประตูขึ้นนำอย่างที่สุดเมื่อ เตเวซ เบิ้ลบอลให้ สโคลส์ ทะลุเข้าไปวอลเลย์เต็มข้อแบบจ่อๆแต่บอลเหินข้ามคานไปไกล

ถึงนาที 63 เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตัดสินใจถอด ไรอัน กิ๊กส์ ออก แล้วส่ง หลุยส์ ซาฮา ลงมาเล่นแทนเพื่อเพิ่มความสดในแนวรุก แต่ต้องรอจนกระทั่งท้ายเกมนาที 83 ความพยายามของปีศาจแเดงมาประสบผลสำเร็จเมื่อได้ลูกเตะมุมทางซ้าย โรนัลโด้ เปิดโค้งมาให้กับ เนมันย่า วิดิช เติมขึ้นมาโขกตุงตาข่ายให้แมนฯ ยูไนเต็ดออกนำ 1-0

ก่อนจบเกม 2 นาทีเอฟเวอร์ตันเกือบตีเสมอได้สำเร็จเมื่อ เจมส์ แม็คฟาดเด้น ที่ลงมาเป็นตัวสำรองลองยิงด้วยขวาหน้ากรอบเขตโทษ ฟาน เดอร์ ซาร์ ปัดจังหวแรกไปเข้าทาง วิคเตอร์ อนิเชเบ้ ที่ลงมาเป็นสำรองเช่นกันตามเข้าซ้ำแต่บอลก็ยังติด ริโอ เฟอร์ดินานด์ ออกหลังไปอีก จบเกม แมนฯยูไนเต็ด บุกชนะ เอฟเวอร์ตัน หืดจับ 1-0 เก็บ 3 แต้มเต็ม

รายชื่อผู้เล่น

เอฟเวอร์ตัน : สเตฟาน เวสเซลล์, โทนี่ ฮิบเบิร์ต, โจเซฟ โยโบ, โจลีออน เลสค็อตต์, เลห์ตัน เบนส์, มิเกล อาร์เตต้า, ฟิล จากีลก้า, ฟิล เนวิลล์, ลีออน ออสแมน, แอนดี้ จอห์นสัน, ยาคูบู ไอเย็กเบนี่

แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, เวส บราวน์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมันย่า วิดิช, มิกาแอล ซิลแวสตร์, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, ไมเคิ่ล คาร์ริค, พอล สโคลส์, ปาทริซ เอวร่า, ไรอัน กิ๊กส์, คาร์ลอส เตเวซ


พอร์ทสมัธ  0 - 0 ลิเวอร์พูล

"เดอะ ปอมปีย์" พอร์ทสมัธ เปิดรัง แฟรตตัน พาร์ค รับมือ "หงส์แดง" จ่าฝูง ลิเวอร์พูล มี โซล แคมป์เบลล์ หายเจ็บกลับมายืนเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ แถม ปาเป้ บูบ้า ดิย็อป มิดฟิลด์ทีมชาติเซเนกัลที่ได้มาใหม่ยังลงเล่นเป็น 11 คนแรกเลยด้วย ขณะที่คู่หน้าเป็น เอ็นวานโก้ คานู ที่ได้ยืนกับ เบนจานี่ เอ็มวารูวารี ที่ผ่านความฟิตมาเหมือน กัน ฝั่งทีมเยือน ราฟาเอล เบนิเตซ ยังใช้ระบบ "โรเตชั่น" เช่นเคย งานนี้ ปีเตอร์ เคร้าช์ กับ อังเดร โวโรนิน ได้จับคู่ในแดนหน้า ขณะที่แดนกลาง เจอร์เมน เพนแนนท์, โมโม่ ซิสโซโก้, ชาบี อลอนโซ่ และ ยอสซี่ เบนายูน ได้ลงสนาม ขณะที่ตัวสำรองมีทั้ง สตีเว่น เจอร์ราร์ด, เฟร์นานโด ตอร์เรส และ ไรอัน บาเบล ที่เพิ่งเล่นเกมทีมชาติมาเมื่อกลางสัปดาห์

เกมเป็นไปอย่างใกล้เคียงกันทีเดียว น.7 เจ้าถิ่นได้ลุ้นจาก ปาเป้ บูบ้า ดิย็อป ที่ขึ้นโหม่งสิบหลาเศษแต่บอลหลุดกรอบออกไป ถัดมาทีมเยือนก็ได้ลุ้นเช่นเดียวกันจากลูกยิงของ ชาบี อลอนโซ่ ที่ซัดไกลตามถนัดจากระยะกว่า 30 หลา แต่ไม่สามารถบังคับบอลให้เข้ากรอบได้ ขณะที่ ปีเตอร์ เคร้าช์ เกือบทำประตูให้ ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ น.17 แต่ต้องชม เดวิด เจมส์ ที่บล็อกเอาไว้ได้สวยเหลือเกิน

เดอะ ปอมปีย์ เล่นกันได้แกร่งทีเดียวจากนั้นอีก 7 นาทีเกือบได้ประตูขึ้นนำเมื่อ เอ็มวารูวารี ได้อัดในกรอบโทษด้านขวา แต่ โฆเซ่ เรน่า ปัดออกไปได้สวย น.31 เจ้าบ้านพลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูขึ้นนำเมื่อได้จุดโทษจากชอรที่ ไมค์ ไรลี่ย์ มองว่า อัลวาโร่ อาร์เบลัว ไปทำฟาวล์ใส่ ฌอน เดวิส ในเขต ทำเอานักเตะ หงส์แดง ประท้วงกันใหญ่แต่ไม่ได้ผล งานนี้ คานู รับหน้าที่ยิงกองหน้า ไนจีเรี่ยน เลือกยิงไปทางขวาของ เรน่า ซึ่งโกล์ สแปนิช พุ่งไปปัดเอาไว้ได้งามหยด ทำให้ หงส์แดง ไม่เสียประตู

เกมเป็นไปอย่างสูสีกัน น.43 ฌอน เดวิส ได้ตั้งป้อมยิงด้วยอีขวาระยะ 15 หลาแต่ก็หลุดกรอบออกไป ครบ 45 นาทีสกอร์อยู่ที่ 0-0

ครึ่งหลังทั้งสองทีมไม่มีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่น ออกสตาาร์ตแค่นาทีเดียว สตีฟ ฟินแนน เปิดจากขวาให้ เคร้าช์ วอลเล่ย์โด่งข้ามคานออกไป จากนั้นอีกครู่เดียว อังเดร โวโรนิน ลองซัดจากนอกเขต ซึ่งก็ไม่ได้ผลอีก และน.52 จอห์น อูตากา ได้จังหวะสับไกด้วยอีขวาในกรอบโทษด้านขวาแต่ก็หลุดกรอบไปอีก จากนั้นอีก 2 นาที หงส์แดง พลาดโอกาสทองที่จะขึ้นนำเมื่อ โวโรนิน สับไกบอลพุ่งไปโดน คานน่าเสียดาย ด้าน หงส์แดง เริ่มเครื่องร้อน น.56 ซิสโซโก้ ได้สับไกเต็มๆแต่ไม่ผ่านเซฟของ เดวิด เจมส์ ขณะที่ลูกยิงไกลของ อูตาก้า ในจังหวะต่อมาหลุดกรอบออกไป

ผ่าน 1 ชั่วโมงไปไม่นาน ราฟาเอล เบนิตเซ ต้องเปลี่ยนตัวผู้เล่นโดยส่ง เฟร์นานโด้ ตอร์เรส ลงไปแทนที่ของ ปีเตอร์ เคร้าช์ ต่อมาไม่นาน สตีเว่น เจอร์ราร์ด ได้ลงไปแทน เพนแนนท์ ผ่านไปไม่นานทีมเยือนน่าได้ประตูเหลือเกิน น.69 จากการประสานงานของ 2 ตัวสำรอง เจอร์ราร์ด กระชากอย่างสุดมันส์ก่อนจะไหลให้ ตอร์เรส ยิงในกรอบโทษด้านซ้ายแต่บอลหลุดกรอบออก ไปน่าเสียดาย

จากนั้น 5 นาที พอร์ทสมัธ น่าได้เหลือเกิน เมื่อ เอ็มวารูวารี ไหลบอลกลับมาให้ มุนตารี่ ยิงเต็มๆด้วยอีขวาแบบเหน่งๆ แต่บอลโด่งข้ามคานออกไป จากนั้นไม่นาน ซิสโซโก้ รับใบ เหลืองจากการทำฟาวล์ ซิสโซโก้

เหลืออีก 10 นาที ลิเวอร์พูล ต่อเกมได้ดีก่อนจะจบลงด้วยการยิงของ อังเดร โวโรนิน แต่ตรงตัวของ เดวิด เจมส์ พอดี น.85 หงส์แดง เกือบได้ประตูชัยเมื่อ ตอร์เรส กระชากบอลทางซ้ายสวยก่อนจะผ่านให้ โวโรนิน ชาร์จเสาสอง แต่ช้าไปนิดเดียวจึงพลาดไปจบเกมเสมอ 0-0 แบ่งกันไปทีมละ 1 คะแนน

รายชื่อผู้เล่น

พอร์ทสมัธ : เดวิด เจมส์, เกล็น จอห์นสัน, โซล แคมป์เบลล์, ซิลแว็ง ดิสแต็ง, เฮอร์มัน ไฮดาร์สสัน, จอห์น อูตากา, ฌอน เดวิส, ปาเป บูบ้า ดิย็อป, ซัลลี่ มุนตารี่, เบนจานี่ เอ็มวารูวารี, เอ็นวานโก้ คานู
สำรอง : เจมี่ แอชดาวน์, เดวิด นูเจนท์, แม็ทธิว เทย์เลอร์, โนเอ้ ปามาโร่ต์, นิโก้ ครันจ์ชาร์

ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ มูนูเอล เรน่า, สตีฟ ฟินแนน, เจมี่ คาร์ราเกอร์, ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์, อัลวาโร่ อาร์เบลัว, เจอร์เมน เพนแนนท์, โมฮัมเหม็ด ซิสโซโก้, ชาบี อลอนโซ่, ยอสซี่ เบนายูน, อังเดร โวโรนิน, ปีเตอร์ เคร้าช์
สำรอง : คาร์ลส์ อิทานด์เย, ซามี่ ฮูเปีย, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, เฟร์นานโด้ ตอร์เรส, ไรอัน เบเบิ้ล

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ผีบุกเฉือนทอฟฟี่หวิว,หงส์เจ๊าปอมปีย์ อัปเดตล่าสุด 16 กันยายน 2550 เวลา 00:16:05 3,655 อ่าน
TOP