เจอร์เก้น คล็อปป์ ทำเอาแฟนบอลลิเวอร์พูลทั่วโลกถึงกับหลั่งน้ำตา หลังออกมาประกาศว่าเขาจะลงจากตำแหน่งผู้จัดการทีมหงส์แดง เมื่อจบฤดูกาลนี้อย่างแน่นอน หลังจากได้คิดทบทวนมาแล้วอย่างละเอียดถี่ถ้วน และการพาทีมลุยตารางบอลพร้อมกับล่าผลบอลสดมาอย่างหนักหน่วงตลอด 9 ปี มาถึงตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่จะต้องพักผ่อนในแบบคนธรรมดา ๆ บ้าง
ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อ JK ตัดสินใจลาออกจากการพา ลิเวอร์พูล ลงเล่นในโปรแกรมบอลแบบนี้ สิ่งที่บอร์ดบริหารต้องทำเป็นอย่างแรกก็คือการมองหา ผู้จัดการทีม คนใหม่ที่มีภาวะความเป็นผู้นำสูง และมีศักยภาพมากพอที่จะพา หงส์แดง บินสูงต่อไปในฐานะทายาทของ เจอร์เก้น คล็อปป์
ส่อง 5 ผู้จัดการทีมฝีมือดี ว่าที่นายใหญ่คนใหม่ ลิเวอร์พูล
1. ชาบี อลอนโซ่
อายุ : 42 ปี
สโมสรปัจจุบัน : เลเวอร์คูเซ่น
ระบบการเล่น : 3-4-3
สำหรับกุนซือสแปนิช เรียกได้ว่ากำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ฮอตแบบสุด ๆ หลังจากพา เลเวอร์คูเซ่น ลงเล่นในบุนเดสลีกาฤดูกาลนี้มาแล้ว 19 นัด ยังไม่พ่ายแพ้ให้กับทีมใด และนำเป็นจ่าฝูงอยู่ในขณะนี้ โดยเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา หลังจากถูกแต่งตั้งให้เข้ามารับงานพาทีมหนีตายจากโซนท้ายตาราง ก็สามารถจบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 6 ได้สำเร็จ แถมยังได้ลงเล่นในยูโรป้า ลีก ฤดูกาลนี้อีกด้วย
แน่นอนว่าด้วยผลงานการคุมทีมอันอลังการแบบนี้ แถมยังมีโปรไฟล์เป็นเด็กเก่าของ หงส์แดง ที่มีความผูกพันกับสโมสรในฐานะแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในค่ำคืนอันมหัศจรรย์แห่งอิสตันบูล เมื่อปี 2005 พร้อมกับข่าวลือที่ว่าเขามีออปชั่นพิเศษกับทีมนายห้างขายยาว่าสามารถย้ายมาคุม ลิเวอร์พูล ได้หากได้รับการติดต่อ ซึ่งด้วยเหตุผลนี้ทำให้เขากำลังเป็นที่ต้องการของ เดอะ ค็อป ทั่วโลกอย่างแท้จริง
.jpg)
2. โรแบร์โต้ เด แซร์บี้
อายุ : 44 ปี
สโมสรปัจจุบัน : ไบรท์ตัน
ระบบการเล่น : 3-4-3
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งกุนซือที่มีฝีมือการคุมทีมที่น่าสนใจมาก ๆ ด้วยระบบบอลเกมบุกที่ดูสนุก ดูเพลิน พร้อมด้วยเกมรับที่มีวินัย และนับตั้งแต่เขาก้าวเข้ามารับงานกับ ไบรท์ตัน ผลงานของทีมก็ถือว่าโดดเด่นไม่แพ้ยุคของ แกรห์ม พ็อตเตอร์ เลย
อีกทั้งยังมีการสนับสนุนผู้เล่นเยาวชนของทีมที่ฝีเท้าโดดเด่น ถือว่ามีวิสัยทัศน์การให้โอกาสกับเด็ก ๆ คล้ายกับ เจอร์เก้น คล็อปป์ จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงมีเสียงเรียกร้องจากแฟน ๆ ว่า นายใหญ่ชาวอิตาเลียน รายนี้นี่แหละที่เหมาะจะมาสานต่องานของ JK
3. ซิโมเน่ อินซากี้
อายุ : 47 ปี
สโมสรปัจจุบัน : อินเตอร์ มิลาน
ระบบการเล่น : 3-5-2
นับว่าเป็นอีกหนึ่งกุนซือคนหนุ่มที่มีฝีไม้ลายมือดีไม่เบาเลยทีเดียว สำหรับ อินซากี้ คนน้อง เพราะหลังจากเริ่มต้นงานกุนซือกับ ลาซิโอ ก็ถือว่าสร้างผลบอลออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมเลยทีเดียว เพราะแม้ว่าทีมอินทรีฟ้าขาวจะไม่ได้มีงบมากมาย แต่กลับพาทีมคว้าแชมป์โคปปา อิตาเลีย และ ซูเปอร์โคปปา อิตาเลียน่า มาครองได้สำเร็จ ก่อนจะถูก อินเตอร์ ดึงตัวมาคุมทีมเมื่อปี 2021
แน่นอนว่าเมื่อได้ย้ายมาคุมทีมที่ใหญ่กว่า มีงบประมาณมากกว่า และมีเหล่าผู้เล่นฝีเท้าดีอยู่ในทีมมากมาย ทำให้ระบบการเล่นของ อินซากี้ ดูลงตัวและเฉิดฉายมากขึ้นกว่าเดิม แม้ว่าตอนนี้เจ้าตัวจะยังพาทีมคว้าสคูเด็ตโต้มาครองไม่ได้ แต่โอกาสในฤดูกาลนี้ก็ถือว่ามีสูงมากทีเดียว
ซึ่งหากจบฤดูกาลนี้ ซิโมเน่ อินซากี้ สามารถพาทีมงูใหญ่คว้าสคูเด็ตโต้มาครองได้สำเร็จ และอำลาทีมเพื่อมาลุยงานใหม่กับ ลิเวอร์พูล ก็ถือว่าเป็นอะไรที่ลงตัวมากเลยทีเดียว
4. รูเบน ฟิลิเป้ อโมริม
อายุ : 39 ปี
สโมสรปัจจุบัน : สปอร์ติ้ง ลิสบอน
ระบบการเล่น : 3-4-3
ผู้จัดการทีมที่มีค่าตัวแพงอันดับ 3 ของประวัติศาสตร์ฟุตบอลโปรตุเกส หลังจากที่ สปอร์ติ้ง ฉีกสัญญาดึงเขามากุมบังเหียนจากทาง บราก้า เมื่อปี 2020 ปัจจุบัน อโมริม มีอายุ 39 ปี แล้ว ซึ่งถือว่าเป็นกุนซือที่มีอายุน้อยมากทีเดียว ทว่าผลงานของเขากับสโมสรก็ถือว่าไม่เบาเลย เพราะเพียงฤดูกาลแรกก็สามารถนำ สปอร์ติ้ง เป็นแชมป์ลีกได้ในทันที นับเป็นฟุตบอลถ้วยในประเทศอีกหนึ่งรายการ
โดยในฤดูกาลนี้ อโมริม ก็ยังนำ สปอร์ติ้ง เป็นจ่าฝูงของ พรีเมร่า ลีก้า อยู่ ขณะที่ในฟุตบอลรายการยุโรปอย่าง ยูโรป้า ลีก ก็ยังอยู่ในเส้นทาง ซึ่งรอบต่อไปพวกเขาจะพบกับ ยัง บอยส์
แต่ที่สำคัญเลยกับการที่เขามีข่าวเชื่อมโยงกับ ลิเวอร์พูล เป็นเพราะว่าด้วยอายุที่ยังน้อย และฝีมือในการคุมทีมถือว่าน่าสนใจ เพราะระบบของลิเวอร์พูลทั้งหน้าบ้านและหลังบ้าน เจอร์เก้น คล็อปป์ วางไว้ให้กับกุนซือคนใหม่ที่พร้อมคุมทีมในระยะยาวอยู่แล้ว ดังนั้น กุนซืออายุน้อยจึงตอบโจทย์ทีเดียว
5. ยูเลี่ยน นาเกลส์มันน์
อายุ : 36 ปี
สโมสรปัจจุบัน : ทีมชาติเยอรมนี
ระบบการเล่น : 4-2-3-1
สำหรับ นาเกลส์มันน์ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแคนดิเดตที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว เพราะด้วยอายุเพียงแค่ 36 ปี เท่านั้น แต่เขามีประสบการณ์มาแล้วอย่างมากในเยอรมนีกับทั้ง โฮฟเฟ่นไฮม์ (เริ่มคุมทีมชุดใหญ่ตอนอายุ 29 ปี), ไลป์ซิก หรือว่า บาเยิร์น มิวนิค และที่บาเยิร์นฯ เขากลายเป็นผู้จัดการทีมที่มีค่าตัวแพงที่สุดในโลกตลอดกาลไปเลย หลังจากพี่เสือไปฉีกสัญญามาจาก ไลป์ซิก ที่ 25 ล้านยูโร
ซึ่งเพียงแค่ฤดูกาลแรกเท่านั้น นาเกลส์มันน์ ก็นำบาเยิร์นฯ คว้าแชมป์บุนเดสลีกาได้เลยในทันที พร้อมด้วย เยอรมนี ซูเปอร์ คัพ อีก 2 สมัย ก่อนที่เขาจะโดนปลดในปี 2023 หลังจากผลงานไม่เข้าเป้า
โดยปัจจุบัน ยูเลี่ยน นาเกลส์มันน์ ได้รับการแต่งตั้งให้เข้ามารับงานคุมทีมชาติเยอรมนี เพื่อลุยฟุตบอลยูโร 2024 และสัญญาของเขาจะหมดลงภายหลังเสร็จสิ้นทัวร์นาเมนต์ นั่นหมายความว่า ลิเวอร์พูล จะสามารถเซ็นสัญญากับเขาได้ในทันทีหลังจบยูโร 2024 แถมยังไม่ต้องจ่ายค่าฉีกสัญญาอีกด้วย
ภาพข่าว : AFP
