ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2 - 1 สเปอร์ส
อีกเกมที่ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ แมนฯ ซิตี้ซึ่งฟอร์มในระยะหลังแผ่วลงไปขาดสองกองหลังทั้งไมกาห์ ริชาร์ดส์และไมเคิ่ล บอลล์ที่บาดเจ็บ ยังดีที่ริชาร์ด ดันน์เช็คฟิตผ่าน ส่วนสเปอร์สยังมีสภาพทีมที่น่าพอใจขาดเพียงเล็ดลีย์ คิงที่ไม่สมบูรณ์
เรือใบสีฟ้าเน้นเดินเกมรุกตั้งแต่ต้น แต่ผ่านมาสี่นาทีเกือบโดนทะลวงตาข่ายก่อนจากจังหวะโต้เร็วของทีมตราไก่ที่ร็อบบี้ คีนวิ่งไปรับลูกผ่านในกรอบเขตโทษด้านขวาพร้อมทั้งโชว์ชั้นเชิงพลิกหนีเนดุม โอนัวฮาได้ก่อนจะตัดสินใจยิงปั่นไซด์ก้อยมุมแคบ แต่บอลพุ่งผ่านปากประตูออกไป
ทำไปทำมาเกมกลับจืดลงทุกที ต้องรอจนกระทั่งนาทีที่ 27 กว่าที่แมนฯ ซิตี้จะได้เสียวบ้างในจังหวะที่ไมเคิ่ล จอห์นสันได้ตะบันในเขตโทษถูกไมเคิ่ล ดอว์สันทิ้งตัวบล็อคทัน เอลาโน่จึงตามไปเก็บตกตั้งป้อมยิงปั่นโค้งมาจากมุมเขตโทษด้านซ้ายผ่านพอล โรบินสันไปแล้ว แต่ยังมีดอว์สันเจ้าเก่าโขกทิ้งได้ก่อนที่บอลจะหลุดเข้าตุงตาข่าย
อย่างไรก็ดี เป็นไก่เดือยทองที่นำไปก่อนในนาทีที่ 32 เมื่อเวดราน ชอร์ลูก้าจ่ายบอลแย่ถูกปาสกาล ชิมบงด้าดักได้ ดาวเตะผิวสีจึงพาบอลขึ้นไปไหลเข้าเขตโทษด้านซ้ายให้คีนวิ่งหนีกับดักเช็คออฟไซด์เข้ากดผ่านแสกหน้าของโจ ฮาร์ทปะทะตาข่ายที่เสาไกลอย่างเด็ดขาดยังผลให้แชมป์คาร์ลิ่ง คัพนำไปก่อน 1-0
พอเสียความบริสุทธิ์ เจ้าถิ่นก็โหมบุกอย่างบ้าคลั่งและเกือบทวงคืนได้ทันควันในนาทีที่ 38 เมื่อเอลาโน่ได้โอกาสซัลโวในกรอบเขตโทษด้านซ้ายระยะ 12 หลาทว่าโรบินสันผวาปัดได้สำเร็จ
แมน ฯซิตี้ยังไม่ท้อง่ายๆ เน้นส่งบอลให้เนรี่ คาสติลโญ่อาศัยความเร็วเล่นงานชิมบงด้าเป็นหลัก แต่กองหลังไก่ยังถูไถรับมือได้ จบครึ่งแรกทีมจากเมืองหลวงจึงนำอยู่ 1-0
ครึ่งหลังสเปอร์สเปลี่ยนทอม ฮัดเดิลสตันลงไปแทนอาร่อน เลนน่อน แต่ถึงนาทีที่ 53 เบนจานี่ เอ็มวารูวารีก็วิ่งไปรับลูกผ่านที่สุดเส้นหลังด้านขวาแล้วป้ายเข้ามาเสาแรกให้คัสติลโญ่กระทุ้งระยะ 5 หลา แต่ถูกโรบินสันทิ้งตัวใช้ขาสกัดได้หวุดหวิด
ทีมตราเรือใบเริ่มบุกได้อย่างอันตรายมากขึ้นทุกที และในที่สุดนาทีที่ 59 เด็กๆของเฮียเถิกก็ทำให้สาวกได้แฮปปี้จากการลุยขึ้นกราบซ้ายโดยมีเอ็มวารูวารีจ่ายบอลเข้าเขตโทษไปเสาไกลให้คัสติลโญ่วอลเลย์ติดบล็อคแล้วบอลทะลักมาหน้าประตู เอลาโน่จึงได้โดดโขกจากระยะ 12 หลาส่งบอลลอยไปเข้าทางให้สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ที่ยืนล้ำหน้าอยู่เข่นตุงตาข่าย แต่ไลน์แมนทำหน้าที่พลาดไม่ได้ยกธงทีมตราไก่จึงโชคร้ายถูกตีเสมอเป็น 1-1จนได้
เป็นอย่างนี้ทีมจากลอนดอนจึงปรับหมากสู้เปลี่ยนคีนออกให้ดาร์เรน เบนท์ลงไปแทนในนาทีที่ 68 ทำเอากัปตันไก่ไม่สบอารมณ์เดินออกมาขว้างเสื้อวอร์มที่สต๊าฟฟ์ส่งให้สวมทิ้งลงกับพื้นขณะที่เจมี่ โอฮาร่าก็ถูกเปลี่ยนลงไปแทนสตีด มัลบร็องค์
ด้านเรือใบสีฟ้าก็เปลี่ยนตัวสำรองตามมาในอีกสามนาทีให้หลังโดยมีดาริอุส วาสเซลล์ลงไปแทนคัสติลโญ่ และนาทีต่อมานาทีที่ 72 ก็แซงนำทันทีจากลูกเตะมุมด้านขวาที่โอนัวฮาได้โขกเต็มๆระยะ 8 หลาโดยชิมบงด้าไม่ได้กระโดดประกบทำให้สกอร์พลิกเป็นแมนฯ ซิตี้นำ 2-1
ผลลัพธ์บังคับให้สเปอร์สต้องกางตำราสู้เต็มสูบแล้ว ก่อนที่เจ้าบ้านจะปล่อยเฟลิเป้ ไซเซโด้ลงไปแทนเอลาโน่อีกรายในนาทีที่ 76 และยังเล่นกันได้ดีไม่ปล่อยให้ทีมตราไก่พังประตูเพิ่มได้ ครบ 90 นาทีเรือใบจึงทำลายอาถรรพ์พิชิตสเปอร์สในบ้านได้เป็นครั้งแรกในรอบ 14 ปีด้วยการกำชัย 2-1
รายชื่อผู้เล่น
แมนฯ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท, เวดราน ชอร์ลูก้า, ริชาร์ด ดันน์, เนดุม โอนูโอฮา, ฆาเบียร์ การ์รีโด้, เกลสัน เฟอร์นันเดส, ไมเคิ่ล จอห์นสัน, สตีเฟ่น ไอร์แลนด์, เอลาโน่, เนรี่ กาสตีโย่, เบนจามิน เอ็มวารูวารี
สำรอง : อันเดรียส อิซัคส์สัน, ซุน จีไห่, โจวานนี่, ดาริอุส วาสเซลล์, เฟลิเป้ ไซเซโด้
สเปอร์ส : พอล โรบินสัน, อลัน ฮัตตัน, ไมเคิ่ล ดอว์สัน, โจนาธาน วู้ดเกต, ปาสกาล ชิมบงด้า, อารอน เลนน่อน, เจอร์เมน จีนัส, ดีดิเย่ร์ โซโกร่า, สตีด มัลบร็องก์, ดิมิตาร์ เบอร์บาตอฟ, ร็อบบี้ คีน
สำรอง : ราเด็ค แชร์นี่, ตีมู ไตนิโอ, ทอม ฮัดเดิลสตัน, เจมี่ โอฮาร่า, ดาร์เรน เบนท์
วีแกน แอธเลติก 1 - 0 โบลตัน วันเดอเรอร์ส
"เดอะ ลาติกส์" วีแกน แอธเลติก เปิดสนาม เจเจบี สเตเดี้ยม รับมือ "เดอะ ทร็อตเตอร์ส" โบลตัน วันเดอเรอร์ส งานนี้สำคัญอย่างยิ่งเพราะทั้งคู่ต่างลุ้นหนีตกชั้นด้วยกัน เจ้าถิ่น สภาพทีมโอเคทีเดียว มี เฮมิล เอสกี้ กับ มาร์ลอน คิง ยืนล่าตาข่ายคู่กัน ด้านทีมเยือน แกรี่ เม็กสัน เพิ่งพาทีมตกรอบ ยูฟ่า คัพ มาหมาดๆด้วยน้ำมือของ สปอร์ติ้ง ลิสบอน งานนี้เขายังมี เอล- ฮัดจิ ดิยุฟ กับ เควิน เดวี่ส์ ในแดนหน้าเหมือนเคย
ออกสตาร์ตไปแค่ 5 นาทีเจ้าถิ่นก็ต้องเหลือแค่ 10 คนเมื่อ เจสัน คูมาส เข้าไปยัน แกรี่ เคฮิลล์ ถือเป็นการทำโปรเฟสชั่นแนล ฟาวล์ จึงโดนใบแดงจากผู้ตัดสิน สตีฟ แทนเนอร์ ทันที เกมแทบจะไม่มีลุ้นอะไรเลยกว่าจะได้เสียวกันต้องรอนาทีที่ 20 เมื่อ วีแกน บุกขึ้นมา อันโตนิโอ วาเลนเซีย ตักให้ เอมิล เฮสกี้ โหม่งไม่ถึงสิบหลาหลุดกรอบออกไป
น.27 วีแกน ที่มีตัวน้อยกว่าได้ลุ้นทำประตูขึ้นนำเมื่อ วิลสัน ปาลาซิออส ได้สับไกด้วยอีขวานอกเขตโทษด้านซ้าย บอลพุ่งเฉี่ยวเสาซ้ายมือแบบน่าหวาดเสียว โบลตัน ก็ได้ลุ้นเช่นเดียว กันหลังผ่านครึ่งชั่วโมงไปไม่นาน จากลูกโหม่งของ เอล-ฮัดจิ ดิยุฟ ที่หลุดกรอบไปนิดเดียว
แล้วก็เป็นเจ้าบ้านที่นำก่อน น.34 จากลูกทุ่มที่ มาริโอ เมลชอต ยัดไปที่ เอมิล เฮสกี้ ที่วอลเล่ย์ด้วยอีขวาเต็มๆบอลพุ่งผ่าน อาลี อัล ฮับซี่ ตุงตาข่ายเด็ดขาด วีแกน นำ 1-0 ก่อนหมด เวลาครึ่งแรก 3 นาที ทาเมียร์ โคเฮน เจ็บ โบลตัน ต้องส่ง เกรกอร์ซ ราเซี๊ยค ลงไปแทน ลงไปไม่นาน ราเซี๊ยค ได้พุ่งโหม่งเกือบเข้าแต่ คริส เคิร์กแลนด์ เซฟไว้ได้ ครบ 45 นาที วีแกน 10 คน นำ 1-0
ครึ่งหลัง โบลตัน เปลี่ยนตัวเพิ่มหนึ่งตำแหน่งโดยเป็น โจอี้ โอ ไบรอัน ที่ได้แทน ดิยุฟ ออกสตาร์ตไม่นาน โบลตัน เกือบตีเสมอได้จาก เควิน โนแลน แต่ คริส เคิร์กแลนด์ เซฟได้สวย ผ่านถึง น.54 โบลตัน เกือบได้ลูก 1-1 เมื่อ พอล ชาร์เนอร์ สกัดผิดเหลี่ยมเกือบเข้าประตูตัวเอง ถึงตรงนี้เกมของ เดอะ ทร็อตเตอร์ส ดีกว่าเจ้าถิ่นชัดเจน
เควิน เดวี่ส์ มีลุ้นตีเสมอให้ทีมเยือนหลังจากนั้น 4 นาที เมื่อเขาเก็บตกบอลที่เจ้าถิ่นเคลียร์ออกมา ด้วยการซัดแบบไม่ต้องจับ แต่บอลข้ามคานออกไป เกมผ่านถึง น.66 โบลตัน ร้องจะเอาจุดโทษเมื่อ โนแลน โหม่งลงพื้นไปโดนแขน ไมเคิ่ล บราวน์ บนเส้น นักเตะทีมเยือนร้องจะเอาจุดโทษแต่ก็ไม่ได้อะไร เกวิน แม็คแคนน์ ตัวสำรอง โบลตัน ต้องรับใบเหลืองไปตามระเบียบ หลังสอย มาริโอ เมลชอต น่าเกลียดบริเวณกลางสนาม
เหลืออีก 9 นาที วีแกน ลุ้นประตูที่ 2 เมื่อมีจังหวะสับไก 25 หลา บอลแฉลบผู้เล่น โบลตัน ออกหลังแบบมีเสียว โบลตัน เกือบตีเสมอได้ น.88 เมื่อ อีบัน คัมโป้ ทุ่มให้ ริคาร์โด้ การ์ดเนอร์ โหม่ง 10 หลาโด่งข้ามคานออกไป ช่วงเวลาที่เหลือ วีแกน คุมเอาไว้ได้หมด ครองเกมฆ่าเวลาขณะที่ โบลตัน แทบจะไม่มีฮึดเลย ยกเว้นช่วงทดเวลาบาดเจ็บที่ โนแลน โหม่งจะเข้าอยู่แล้ว แต่ เอ๊ดแมน โหม่งเคลียร์มาได้จากบนเส้น จบเกม วีแกน ชนะหวุดหวิด 1-0 เก็บ 3 แต้มสำคัญได้สำเร็จ
รายชื่อผู้เล่น
วีแกน : คริส เคิร์กแลนด์, มาริโอ เมลชอต, เอ็มเมอร์สัน บอยซ์, พอล ชาร์เนอร์, เอริค เอ๊ดแมน, อันโตนิโอ วาเลนเซีย, วิลสัน ปาลาซิออส, ไมเคิ่ล บราวน์, เจสัน คูมาส, เอมิล เฮสกี้, มาร์ลอน คิง
โบลตัน : อาลี อัล ฮับซี่, เกรตาร์ ราฟน์ สเตนส์สัน, แอนดี้ โอ ไบรอัน, แกรี่ เคฮิลล์, ริคาร์โด้ การ์ดเนอร์, เควิน โนแลน, อีบัน คัมโป้, ทาเมียร์ โคเฮน, เอล-ฮัดจิ ดิยุฟ, เควิน เดวี่ส์, แม็ทธิว เทย์เลอร์