ฟุตบอล ยูฟ่า คัพ รอบแบ่งกลุ่ม
กลุ่ม เอ
ชาลเก้ 04 0 - 2 แมนเชสเตอร์ ซิตี้
"ราชันสีน้ำเงิน" ชาลเก้ เปิดรังพบ แมนฯซิตี้ เจ้าถิ่นวางชุดใหญ่ทั้ง เควิน คูรานี่, เจฟเฟอร์สัน ฟาร์ฟาน และ ฮาลิล อัลตินท็อป ส่วนทีมเยือนพัก โรบินโญ่ ไว้เตรียมทำศึกใหญ่สุดสัปดาห์กับแมนฯยูไนเต็ด แต่ยังมี เบนจานี่ กับ สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ คอยเดินเครื่อง
เปิดฉากครึ่งแรกชาลเก้ครองเกมได้เหนือกว่า นาที 9 มีจังหวะเข้าทำครั้งแรก เจอร์เมน โจนส์ ลองยิงไกล ทว่าลูกตรงตัว โจ ฮาร์ท มาถึงนาที 20 ชาลเก้ยังบุกต่อเนื่อง และเจอร์เมน โจนส์ ได้ลุ้นอีกครั้ง คราวนี้หลุดเข้าไปยิงในกรอบเขตโทษ โจ ฮาร์ท ยังไวพุ่งปัดออกหลัง
อย่างไรก็ตามผ่านมาถึงนาที 32 กลายเป็นทีมเยือนที่บุกมานำก่อน ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ได้บอลกราบซ้ายก่อนจะเปิดไปเสาสองให้ เบนจานี่ ชาร์จเหน่งๆไม่มีเหลือ 1-0
พอขึ้นนำเรือใบสีฟ้าเริ่มมั่นใจมากขึ้น นาที 39 สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ ล็อคหลบสองกองหลังเจ้าบ้านก่อนจะยิงจากระยะ 20 หลา มานูเอล นอยเออร์ ปัดข้ามคาน จบครึ่งแรกอาคันตุกะนำ 1-0
กลับมาเล่นต่อครึ่งหลังแมนฯซิตี้ยังคุมเกมไว้ดีกว่า นาที 56 ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ กระชากเข้าเขตโทษก่อนยิงด้วยขวา ติดมือ มานูเอล นอยเออร์ สิบนาทีต่อมาสาวกทีมเยือนกระโดดเฮอีก สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ ทำชิ่งกับ เบนจานี่ ก่อนจะหลุดเข้าเขตโทษและแปบอลผ่านมือนอยเออร์ง่ายๆ 2-0
ช่วงสิบห้านาทีสุดท้ายเจ้าบ้านเริ่มเร่งเครื่อง นาที 76 เกรัลด์ อซาโมอาห์ ตัวสำรองสปีดเข้ายิงในรอบเขตโทษแต่ยังไม่พ้นมือ โจ ฮาร์ท ท้ายเกมยังดาหน้าบุกต่อไปแต่ไม่ประสบผล จบ 90 นาที แมนฯซิตี้ บุกมายำ ชาลเก้ แบบนิ่มๆ 2-0
รายชื่อผู้เล่น
ชาลเก้ : มานูเอล นอยเออร์, ราฟินญ่า, มาร์เซโล บอร์ดอน, ไฮโค เวสเตอร์มันน์, คริสเตียน พานเดอร์, ออร์ลันโด อิงเกลาร์, เจอร์เมน โจนส์, อิวาน ราคิติช, เจฟเฟอร์สัน ฟาร์ฟาน, เควิน คูรานี่, ฮาลิล อัลตินท็อป
สำรอง : มาธิอัส โชเบอร์, เบเนดิคท์ โฮว์เดส, คาร์ลอส ซัมบราโน่, เลวาน โคเบียชวิลี่, ฟาเบียน แอร์นทส, เกรัลด์ อซาโมอาห์, บิเซนเต้ ซานเชซ
แมนฯซิตี้ : โจ ฮาร์ท, ไมกาห์ ริชาร์ดส, แวงซองต์ กองปานี, ริชาร์ด ดันน์, ฮาเบียร์ การ์รีโด้, ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์, ดีทมาร์ ฮามันน์, สตีเฟ่น ไอร์แลนด์, ดาริอุส วาสเซลล์, เบนจานี่ เอ็มวารูวารี, ดาเนี่ยล
สเตอร์ริดจ์
สำรอง : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล, ไมเคิ่ล บอลล์, ทาล เบน-ฮาอิม, เลอันโดร เกลาแบร์, เชลุม โลแกน, โช, เชด อีแวนส์
กลุ่มอี
พอร์ทสมัธ 2 - 2 เอซี มิลาน
พอร์ทสมัธ เปิดรัง แฟร็ตตัน พาร์ค รับมือยักษ์ใหญ่ เอซี มิลาน โดยเจ้าถิ่นเพิ่งลงเล่นนัดเดียวแพ้ บราก้า มา 0-3 ขณะที่ มิลาน คว้าชัยชนะมาแล้ว 2 นัด หากชนะอีกนัดก็จะลอยลำเข้ารอบทันที ปอมปีย์ ส่ง เอ็นวานโก้ คานู จับคู่กับ ปีเตอร์ เคร้าช์ ในแดนหน้า ขณะที่ทีมเยือน ปีศาจแดง-ดำ ใช้ กาก้า เป็นเพลย์เมคเกอร์ อยู่ข้างหลังคู่หน้า อังเดร เชฟเชนโก้ กับ ฟิลิปโป้ อินซากี้
เริ่มเกมขึ้นมา 11 นาที มิลาน น่าได้ประตูขึ้นนำเป็นอย่างยิ่ง เมื่อมาได้ลูกฟรีคิกระยะ 30 หลา อังเดร เชฟเชนโก้ กดเต็มเท้าแฉลบกำแพงเข้าทางปืน ฟิลิปโป้ อินซากี้ ตวัดยิงด้วยซ้ายตามน้ำ บอลโดนไม่เต็มเท้าแต่ก็ยังค่อยๆ กลิ้งไปชนเสากระดอนขนานเส้น เดวิด เจมส์ เลยพุ่งรับเข้ามือ
นาทีที่ 15 เป็นโอกาสลุ้นของ พอร์ทสมัธ บ้าง เมื่อ เกล็น ลิตเทิ่ล หยอดบอลจากกราบขวาไปที่เสาสองให้ ปีเตอร์ เคร้าช์ ลอยตัวโหม่งเต็มๆ แต่บอลติดศีรษะกองหลังมิลานหวุดหวิด
ปอมปีย์ ครองบอลบุกได้ไม่เป็นรอง แต่เป็น มิลาน ที่เกือบได้ประตูนำอีกครั้งในนาทีที่ 26 อินซากี้ หลุดเดี่ยวเข้าไปกระดกบอลข้ามตัว เดวิด เจมส์ ที่พุ่งออกมาตัด แต่ให้น้ำหนักแรงเกินไป บอลเช็ดคานออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
ถัดจากนั้น 2 นาที ทีมเยือนก็ยังทิ้งโอกาสไปอีกหน จากลูกชุลมุนในเขตโทษเข้าทางปืน กาก้า หวดตูมเดียวด้วยเท้าซ้ายขึ้นอัฒจันทร์ไปไกล จบครึ่งแรก ทั้งสองทีมยังเสมอกัน 0-0
ครึ่งหลัง พอร์ทสมัธ เกือบได้ประตูขึ้นนำในนาทีที่ 52 เอ็นวานโก้ คานู บรรจงหยอดบอลจากกราบซ้าย บอลเลยข้ามหัว ปีเตอร์ เคร้าช์ ไปที่เสาสอง เกล็น ลิตเทิ่ล สอดขึ้นมาแปด้วยขวาหลุดเสาแรก เจ้าบ้านเดินเครื่องบุกอย่างต่อเนื่อง นาทีที่ 62 ปอมปีย์ ก็มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จนได้ จากจังหวะที่ เกล็น จอห์นสัน เปิดบอลจากกราบขวาเข้าหัว ยูเนส กาบุล ที่เติมขึ้นมาโหม่งเหน่งๆ เสียบตาข่าย
พอได้ประตูนำ รูปเกมก็ยังตกเป็นของ พอร์ทสมัธ หมด มิลาน จึงต้องส่ง คลาเรนซ์ เซดอร์ฟ ลงไปแทน กัตตูโซ่ ในนาทีที่ 66 ส่วน ปอมปีย์ ก็ส่ง อาร์กโนลด์ เอ็มวูเอ็มบ้า แทน ลิตเทิ่ล
นาทีที่ 73 พอร์ทสมัธ มาได้ประตูหนีห่าง 2-0 จากความสามารถเฉพาะตัวของ เกล็น จอห์นสัน ล้วนๆ ที่เลี้ยงบอลหลบแนวรับมิลานถึงสองด่าน ก่อนเปิดเรียดไปหน้าประตูให้ เอ็นวานโก้ คานู ล้มตัวแปจ่อๆ เสยเพดานตาข่ายเข้าไป
ถัดจากนั้นนาทีเดียว มิลาน ส่ง โรนัลดินโญ่ กับ อเล็กซานเดร ปาโต้ ลงไปแทน กาก้า กับ เชฟเชนโก้ และก็เป็นผลทันที เมื่อโรนัลดินโญ่ โดนทำฟาวล์นอกกรอบเขตโทษก่อนจะลุกขึ้นมารับหน้าที่ปั่นลูกฟรีคิกบอลเสียบสามเหลี่ยมอย่างสุดสวยให้มิลานไล่มาเป็น 1-2
จากนั้นมิลาน บุกอย่างหนักจนเกมเข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บและเกมทำท่าว่าจะจบเพียงเท่านี้แต่แล้ว ก็เป็นมิลานที่มาได้ประตูตีเสมอ 2-2 จาก ฟิลิปโป้ อินซากี้
จบเกม เอซี มิลาน ตีเสมอ พอร์ทสมัธ อย่างหวุดหวิด 2-2 แบ่งแต้มกันไป
รายชื่อผู้เล่น
พอร์ทสมัธ : เดวิด เจมส์, เกล็น จอห์นสัน, ยูเนส กาบุล, ซิลแว็ง ดิสแต็ง, นาเดียร์ เบลฮัดจ์, เกล็น ลิตเทิ่ล, ปาป้า บูบ้า ดิย็อป, ริชาร์ด ฮิวจ์ส, อาร์กม็องด์ ตราโอเร่, เอ็นวานโก้ คานู, ปีเตอร์ เคร้าช์
สำรอง : เจมี่ แอชดาวน์, เฮอร์มัน ไฮร์ดาร์สสัน, โนเอ้ ปามาโร่ต์, อาร์กโนลด์ เอ็มวูเอ็มบ้า, ฌอน เดวิส, มาร์ค วิลสัน
เอซี มิลาน : ดิด้า, ลูก้า อันโตนินี่, ฟิลิปป์ เซนเดอรอส, จูเซ็ปเป้ ฟาวัลลี่, จานลูก้า ซัมบร็อตต้า, เจนนาโร่ กัตตูโซ่, เอเมอร์สัน, มาติเยอ ฟลามินี่, กาก้า, อังเดร เชฟเชนโก้, ฟิลิปโป้ อินซากี้
สำรอง : เซลจ์โก้ คาลัช, คาค่า คาลัดเซ่, ดานิเอเล่ โบเนร่า, คลาเรนซ์ เซดอร์ฟ, อันเดรีย ปิร์โล่, โรนัลดินโญ่, อเล็กซานเดร ปาโต้
กลุ่มดี
เอ็นอีซี ไนจ์เมเก้น 0 - 1 สเปอร์ส
เอ็นอีซี ไนจ์เมเก้น เปิดบ้านรับมือ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ โดยเจ้าถิ่นเพิ่งเล่นไปนัดเดียว และแพ้ ดินาโม ซาเกรบ ขณะที่ทีมเยือนเล่นไปแล้ว 2 นัด ชนะ 1 เสมอ 1 ส่วน ไก่เดือยทอง ปรับทีมเล็กน้อย ให้โอกาส คริส กุนเทอร์, เจมี่ โอฮาร่า และ เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์ ได้ลงตัวจริง ขณะที่ เวดราน ชอร์ลูก้า กับ โรมัน พาฟลิวเชนโก้ หมดสิทธิ์เล่นในรายการนี้
เริ่มเกมขึ้นมา 14 นาที สเปอร์ส มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ แกเร็ธ เบล เปิดบอลจากกราบซ้ายให้ เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์ พุ่งเข้าชาร์จจ่อๆ ไปชนคานกระดอนออกมา เจมี่ โอฮาร่า พุ่งเข้าโหม่งซ้ำไม่เหลือ นาทีที่ 23 เป็นโอกาสที่น่าได้ประตูคืนของ เอ็นอีซี เช่นกัน มอสตาฟา เอล คาเบียร์ กลับตัวซัดด้วยซ้ายระยะ 8 หลา เอเรลโญ่ โกเมส พุ่งปัดออกมาได้ทัน
ก่อนจบครึ่งแรกนาทีเดียว ทีมเยือนก็เกือบได้ประตูที่สอง เจมี่ โอฮาร่า ตั้งป้อมหวดด้วยซ้ายเต็มเหนี่ยว กาบอร์ บาบอส ต้องออกแรงพุ่งเซฟออกมา จบครึ่งแรก สเปอร์ส นำ 1-0
ครึ่งหลัง ไก่เดือยทอง ยังเปิดเกมรุกเข้าใส่มากกว่าเหมือนเดิม นาที 48 เดวิด เบนท์ลี่ย์ โยนจากกราบขวาให้ ดาร์เรน เบนท์ พุ่งโหม่งเต็มๆ แต่ บาบอส เหินปัดข้ามคานออกไปได้เยี่ยม
ช่วงเวลาที่เหลือ ทีมเยือนจากอังกฤษยังคงครองบอลเอาไว้ได้หมด จนกระทั่งจบเกม สเปอร์ส บุกชนะ เอ็นอีซี ไนจ์เมเก้น หวุดหวิด 1-0 เพียงพอต่อการเก็บ 6 คะแนนจาก 3 นัด โอกาสเข้ารอบต่อไปสูง ขณะที่เจ้าถิ่นแพ้สองนัดรวด
รายชื่อผู้เล่น
เอ็นอีซี ไนจ์เมเก้น : กาบอร์ บาบอส, ดานี่ เฟร์นานเดซ, ปีเตอร์ วิสเกอร์ฮอฟ, รามอน โซเมอร์, ยุสเซฟ เอล-อัคชาอุย, อาร์คาดิอุส ราดอมสกี้, บาส ซิบุม, ลอเรนโซ่ ดาวิดส์, ลาสเซ่ โชน, ยอห์น ฟาน เบอเคริ่ง, มอสตาฟา เอล คาเบียร์
สำรอง : เรอิน บาร์ต, โดมินิก คิวูวู, แพทริค โพทุยเซ่น, มาร์ค อ็อตเท่น, ราชิด บูอัวซาน, ทิม วิเธลมุส ยานส์เซ่น, โจเอล ชิบัมบ้า
สเปอร์ส : เอเรลโญ่ โกเมส, คริส กุนเทอร์, ไมเคิ่ล ดอว์สัน, โจนาธาน วู้ดเกต, แกเร็ธ เบล, เดวิด เบนท์ลี่ย์, ดีดิเย่ร์ โซโกร่า, ทอม ฮัดเดิ้ลสตัน, เจมี่ โอฮาร่า, ดาร์เรน เบนท์, เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์
สำรอง : เซซ่าร์ ซานเชซ, อารอน เลนน่อน, เบอนัวต์ อัสซู-เอก็อตโต้, จอห์น บอสต็อค, อดัม สมิธ, ไรอัน เกล็น เมสัน, โจนาธาน โอบิก้า
สรุปผลทุกคู่
กลุ่มเอ
ชาลเก้ (เยอรมัน) แพ้ แมนฯ ซิตี้ (อังกฤษ) 0-2
ปารีส แซงต์ แชร์กแมง (ฝรั่งเศส) เสมอ ราซิ่ง ซานตานแดร์ (สเปน) 2-2
กลุ่มบี
กาลาตาซาราย (ตุรกี) แพ้ เมตาลิสต์ (ยูเครน) 0-1
โอลิมเปียกอส (กรีซ) ชนะ เบนฟิก้า (โปรตุเกส) 5-1
กลุ่มซี
ซามพ์โดเรีย (อิตาลี) เสมอ สตุ๊ตการ์ท (เยอรมัน) 1-1
ปาร์ติซาน เบลเกรด (เซอร์เบีย) แพ้ สตองดาร์ ลีแอช (เบลเยียม) 0-1
กลุ่มดี
เอ็นอีซี ไนจ์เมเก้น (ฮอลแลนด์) แพ้ สปอร์ส (อังกฤษ) 0-1
ดินาโม ซาเกร็บ (โครเอเชีย) แพ้ สปาร์ตัค มอสโก (รัสเซีย) 0-1
กลุ่มอี
พอร์ทสมัธ (อังกฤษ) เสมอ เอซี มิลาน (อิตาลี) 2-2
บราก้า (โปรตุเกส) แพ้ โวล์ฟบวร์ก (เยอรมัน) 2-3
กลุ่มเอฟ
เอ็มเอสเค ซิลิน่า (สโลวาเกีย) เสมอ สลาเวีย ปราก (เช็ก) 0-0
ฮัมบูร์ก (เยอรมัน) แพ้ อาแจ็กซ์ (ฮอลแลนด์) 0-1
กลุ่มจี
คลับ บรูช (เบลเยียม) เสมอ แซงต์ เอเตียน (ฝรั่งเศส) 1-1
โรเซนบอร์ก (นอร์เวย์) แพ้ บาเลนเซีย (สเปน) 0-4
กลุ่มเอช
ซีเอสเคเอ มอสโก (รัสเซีย) ชนะ เลช พอซนัน (โปแลนด์) 2-1
เดปอร์ติโบ ลา กอรุนญ่า (สเปน) ชนะ เฟเยนูร์ด (ฮอลแลนด์) 3-0
ภาพข่าวจาก http://sports.yahoo.com