เชลซี 1-2 อาร์เซนอล
สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์
ประตู : 1-0 โยฮัน โฌรู (เข้าประตูตัวเอง) น.31,1-1 โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ น.59,1-2 โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ น.62
ผู้ชม : 41,760 คน
ศึกซูเปอร์ลอนดอนดาร์บี้แมตช์ เป็นการพบกันระหว่าง "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี และ "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล โดยฝ่ายแรกต้องการเก็บชัยชนะเพื่อรักษาตำแหน่งจ่าฝูงและเขี่ยทีมเยือนให้หลุดวงโครจรลุ้นแชมป์อย่างถาวร ขณะที่เหล่ากันเนอร์ส ต้องการรักษาความหวังในการลุ้นแชมป์อันน้อยนิดเอาไว้ เกมนี้ทางเชลซี ได้ทั้งเดโก้ และโจ โคล กลับมาลงเล่นอีกครั้งโดยดร็อปฟลอร็องต์ มาลูด้า ไว้ข้างสนาามแทนขณะที่ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ติดโทษแบน
ส่วนอาร์เซนอล ที่ตามหลังจ่าฝูง 10 แต้มได้ทั้งซามีร์ นาสรี่ และเอ็มมานูเอล อเดบายอร์ หายเจ็บกลับมาช่วยทีมได้อีกครั้ง เปิดเกมมาเชลซี เจ้าบ้านก็บุกทันทีโดยเป็นฝ่ายที่ครองเกมได้มากกว่า ต่อบอลได้ดีกว่า และดูจะสร้างสรรค์โอกาสได้เยอะกว่าทางด้านอาร์เซนอล อยู่พอสมควร
อย่างไรก็ดี กันเนอร์ส ทำได้ใกล้เคียงกับโอกาสแรกที่ได้ทักทายปีเตอร์ เช็ก บ้าง จากลูกยิงของเซสก์ ฟาเบรกาส กัปตันคนใหม่ที่โดนใช้ขาเซฟเอาไว้ได้อย่างหวุดหวิด ก่อนที่อเดบายอร์ จะไหลให้เดนิลสัน ซัดข้ามคานออกไป
แต่จากนั้นเชลซี ที่อาศัยการเติมเกมทางริมเส้นของแบ็กสองข้างทั้งแอชลี่ย์ โคล และโฮเซ่ โบซิงวา ก็มาได้ประตูขึ้นนำในนาทีที่ 31 จากลูกที่โบซิงวา เปิดไปติดจังหวะแรกแต่ยังเปิดเรียดวัดใจมาอีกทีที่หน้าปากประตู และเป็นฌูรู ที่ทำพลาดแหย่ขาสกัดบอลเข้าประตูตัวเองไป ให้เจ้าบ้านนำ 1-0 กันเนอร์ส พยายามจะลุ้นตีเสมอให้ได้ ฟาน เพอร์ซี่ มีโอกาสที่จะเบียดแย่งโหม่งในเขตโทษกับอิวาโนวิช ก่อนจะยิงด้วยขวาลูกเรียดและโดนปีเตอร์ เช็ก ล้มตัวปัดออกไปได้หวุดหวิด ก่อนที่เกมจะจบลงในครึ่งแรกด้วยสกอร์นำของเจ้าบ้าน
ครึ่งหลัง เชลซี ดูจะเล่นได้ดีกว่าและสามารถบงการเกมได้มากกว่า นาทีที่ 51 แลมพ์ยังได้ลองยิงถากเสาไปนิดเดียวเท่านั้น ขณะที่อาร์เซนอล ยิ่งเล่นก็ยิ่งดูไร้วี่แววที่จะกลับมาสู่เกมได้ แต่จู่ๆความผิดพลาดของไลน์แมนก็ทำให้กันเนอร์ส พลิกสถานการณ์ได้ในนาทีที่ 59
เมื่ออาร์เซนอล โต้กลับเร็วมาและเป็นลูกจ่ายของเดนิลสัน ให้ฟาน เพอร์ซี่ ที่ยืนล้ำหน้าชัดเจนได้อัดเต็มข้อด้วยขวา ลูกพุ่งเข้าแสกหน้าปีเตอร์ เช็ก เสยตาข่ายแบบสุดมัน ให้สกอร์กลับมาเท่ากันที่ 1-1 เกมยังพลิกผันต่อเนื่องหลังจากนั้น 3 นาที ฟาน เพอร์ซี่ คนเดิมก็ทำประตูแซงนำให้ทีมได้สำเร็จ เมื่ออเดบายอร์ โขกเช็ดจากลูกฟรีคิกเข้ามาให้กองหน้าชาวดัตช์ วิ่งตั้งป้อมก่อนตวัดยิงด้วยซ้ายเสียบเสาไกลเข้าไปอย่างสวยงาม
2 ประตูที่เกิดขึ้นต่อเนื่องกันได้ทำให้อาร์เซนอล กลายเป็นทีมที่เล่นกันด้วยความมั่นใจแบบผิดหูผิดตาไปเลย ขณะที่เชลซี ยังคงเล่นตามมาตรฐานและพยายามจะทำประตูตีเสมอให้ได้ เพียงแต่ก็ไม่เฉียบคมพอที่จะทำอะไรกันเนอร์สได้อีก จึงจบเกมลงด้วยความปราชัยคาสแตมฟอร์ด บริดจ์ เป็นนัดที่สองในฤดูกาลนี้
รายชื่อผู้เล่น
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก, โฮเซ่ โบซิงวา, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล, มิเคล (ฟลอร็องต์ มาลูด้า น.69), เดโก้ (มิโรสลาฟ สตอช น.81), มิชาเอล บัลลัค, แฟรงค์ แลมพาร์ด, ซาโลมง กาลู, นิโกล่าส์ อเนลก้า
อาร์เซนอล : มานูเอล อัลมูเนีย, บาการี่ ซาญ่า, วิลเลี่ยม กัลลาส, กาแอล กลิชี่, เดนิลสัน, เซสก์ ฟาเบรกาส, อเล็กซานเดอร์ ซง, ซามีร์ นาสรี่, เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ (นิคลาส เบนดท์เนอร์ น.83), โรบิน ฟาน เพอร์ซี่
