
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
เอฟเวอร์ตัน 2 - 3 แอสตัน วิลล่า
เอฟเวอร์ตัน เปิดรัง กูดิสัน พาร์ค รับมือกับ แอสตัน วิลล่า ผู้มาเยือน ด้วยการประสบปัญหาในแดนหน้าอย่างหนักเหลือ วิคเตอร์ อนิเชเบ้ หัวหอกดาวรุ่งชาวไนจีเรีย เป็นกองหน้าคนเดียวของทีม ทำให้ต้องใส่ชื่อ จอห์น พอล คิสซ็อค ดาวรุ่งวัย 19 ปีไว้เป็นตัวสำรอง ขณะที่ทีมเยือนส่ง กาเบรียล อั๊กบอนลาฮอร์ ลงเป็นหน้าเป้าเหมือนเดิม พร้อมทั้งมี แอชลี่ย์ ยัง และ เจมส์ มิลเนอร์ ทำเกมรุกขนาบข้าง
เริ่มเกมมาได้แค่ 36 วินาที ทีมเยือนก็ออกนำไปก่อนอย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่ ลุค ยัง ตัดบอลได้ก่อนฝากให้ เจมส์ มิลเนอร์ ป้ายจังหวะเดียวย้อนคืนมาให้ สตีฟ ซิดเวลล์ กระหน่ำตูมเดียวจากระยะ 25 หลาลูกพุ่งผ่านหน้า ทิม ฮาวเวิร์ด เข้าไปจมตาข่ายอย่างสวยงามให้ "สิงห์ผงาด" ออกนำ 1-0
หลังจากโดนนำไปก่อนเจ้าถิ่นพยายามโหมบุกเพื่อทำประตูตีเสมอให้เร็วที่สุด แต่เกมรุกยังไม่ปะติดปะต่อแถมยังไม่มีโอกาสจบสกอร์จังๆสักครั้ง มิหน้ำซ้ำยังถูกผู้มาเยือนคอยสวนกลับเป็นระยะๆ โดยอาศัยความเร็วของ กาเบรียล อั๊กบอนลาฮอร์ คอยป่วน โจเซฟ โยโบ และ ฟีล จากีลก้า คู่เซนเตอร์ฮาล์ฟ ของเจ้าถิ่น
25 นาทีผ่าน โอกาสครั้งแรกของเจ้าถิ่นก็มาถึงจากจังหวะบอลหนุนจากกลางสนาม ทิม คาฮิลล์ กลับตัวไปเจอบอลก่อนตัวประกบ และได้จังหวะวอลเล่ย์เต็มๆด้วยซ้ายจากระยะ 12 หลา แต่ แบร๊ด ฟรีเดล เซฟไว้ได้เยี่ยม ก่อนที่อีก 1 นาทีถัดมา เอฟเวอร์ตัน มามีโอกาสอีกครั้ง มิเกล อาร์เตต้า โยนลูกเตะมุมจากฝั่งซ้ายให้ มารูยาน เฟลไลนี่ วิ่งเข้ามาโขก แต่ ฟรีเดล ก็เซฟไว้ได้อีกครั้ง
หลังจากพยายามบุกอยู่นานสองนานในที่สุดเจ้าถิ่นก็ตีเสมอได้สำเร็จในนาทีที่ 30 จากจังหวะฟรีคิกทางฝั่งซ้าย อาร์เตต้า รับอาสาโยนเข้ามา ลีออน ออสแมน โฉบเข้ามาโหม่งเช็ดบอลเลยมาถึง โจลีออน เลสค็อตต์ พุ่งชาร์ตเข้าไปให้เจ้าถิ่นตามตีเสมอสำเร็จ 1-1
เจ้าถิ่นเริ่มได้ใจ 5 นาทีต่อมาเกือบออกนำเป็น 2-1 ลุค ยัง เคลียร์บอลไม่ดีไม่ติดตัว ออสแมน ก่อน ออสแมน ลากไปถึงเส้นหลังแล้วปาดเร็วเข้ามาหน้าประตูให้ วิคเตอร์ อนิเชเบ้ ทิ้งตัวชาร์ตแต่เข้าไม่ถึงบอลอย่างน่าเสียดาย
ก่อนหมดเวลาครึ่งแรกทั้งสองทีมมีโอกาสที่จะได้ประตูกันทีมละหนึ่งครั้ง นาทีที่ 42 เจ้าถิ่นได้โอกาสก่อนจากลูกโขกของ เฟลไลนี่ ที่กำลังจะย้อยเสียบสามเหลี่ยม แต่ การ์ลอส กูเอย่าร์ รออยู่บนเส้นโขกเคลียร์ทิ้งไปได้ทัน และในช่วงทดเวลา แอชลี่ย์ ยัง ได้ซัดฟรีคิกระยะอันตรายให้กับทีมเยือนบ้างแต่บอลไปเข้ามือ ฮาวเวิร์ด หลังจากนั้นไม่มีใครทำประตูได้ จบครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 1-1
กลับมาเล่นในครึ่งหลัง เจ้าบ้านเปิดฉากลุยแหลก นาทีที่ 47 เฟลไลนี่ น่ามีชื่อเป็นผู้ทำสกอร์เป็นที่สุดเมื่อโขกลูกเตะมุมทางด้านขวาเต็มๆ ลูกกำลังจะเข้าประตู แต่ ฟรีเดล ใช้ปลายมือปัดไปชนคานอย่างน่าเสียดาย แต่ในขณะที่ เอฟเวอร์ตัน กำลังลุยแหลกอยู่ดีๆ ก็ต้องช็อกในนาทีที่ 54 เมื่อ ฟิล จากีลก้า ดันจ่ายคืนหลังพลาดกลายเป็นใส่พานทองให้ แอชลี่ย์ ยัง วิ่งเข้าไปยิงสวนตัว ฮาวเวิร์ด แบบหมูๆ ให้ วิลล่า นำ 2-1
หลังเสียประตูแบบไม่น่า เอฟเวอร์ตัน ก็พยายามโจมตีจากทางกราบ แต่แนวรับ วิลล่า ก็ยังสกัดกั้นได้ดี โดยในช่วงนาทีที่ 60-70 ปรากฏว่า เจ้าบ้านครองบอลได้มากถึง 73% เลยทีเดียว ช่วงเวลาที่เหลือ เด็กๆ ของ มอยส์ เดินหน้าบดขยี้อย่างหนัก และในที่สุดก็มาได้ประตูตีเสมอ 2-2 จนได้ในช่วงทดเจ็บนาทีที่ 92 จากจังหวะชุลมุนหน้าประตูแล้วก็เป็น โจลีออน เลสค็อตต์ คนเดิมที่ตวัดยิงบอลเต็มข้อส่งลูกตุงตาข่ายอย่างสุดสวย
แต่เจ้าถิ่นก็ดีใจได้ไม่นาน เมื่อ แอสตัน วิลล่า ได้ประตูพลิกขึ้นนำอีกครั้งทันควันในนาทีที่ 93 จากจังหวะสวนกลับเร็ว แล้วก็เป็น เลสค็อตต์ กองหลังเอฟเวอร์ตันที่เช็คลายพลาดปล่อยให้ แอชลี่ย์ ยัง แตะบอลหนึ่งจังหวะก่อนสปีดขึ้นไปยิงผ่านมือ ทิม ฮาวเวิร์ด ให้ทีมขึ้นนำ 3-2
จากนั้น กรรมการเป่านกหวีดหมดเวลาการแข่งขัน วิลล่า เอาชนะ เอฟเวอร์ตัน สุดมันส์ 3-2 ขยับรั้งอันดับ 5 ของตารางคะแนน
รายชื่อผู้เล่น
เอฟเวอร์ตัน : ทิม ฮาวเวิร์ด, ฟิล เนวิลล์, โจเซฟ โยโบ, ฟีล จากีลก้า, โจลีออน เลสค็อตต์, ลีออน ออสแมน, มารูยาน เฟลไลนี่, มิเกล อาร์เตต้า, สตีเว่น พีนาร์, ทิม คาฮิลล์, วิคเตอร์ อนิเชเบ้
สำรอง : คาร์โล แนช, เลย์ตัน เบนส์, แอนดี้ ฟาน เดอร์ เมย์เด้, เซกุนโด้ คาสตินโญ่, ลูคัส ยุตคีวิคซ์, แดน กอซลิ่ง, จอห์น พอล คิสซ็อค
แอสตัน วิลล่า : แบร๊ด ฟรีเดล, การ์ลอส กูเอย่าร์, มาร์ติน เลาร์เซ่น, เคอร์ติส เดวี่ส์, ลุค ยัง, แกเร็ธ แบร์รี่, สตีฟ ซิดเวลล์, สติลิยัน เปตรอฟ, แอชลี่ย์ ยัง, เจมส์ มิลเนอร์, กาเบรียล อั๊กบอนลาฮอร์
สำรอง : แบร๊ด กูซาน, มาร์ลอน แฮร์วู้ด, นาธาน เดลฟูเนโซ่, แซต ไนท์, ไนเจล รีโอ-โคเกอร์, นิคกี้ ชอว์รี่ย์, เคร็ก การ์ดเนอร์
เวสต์บรอมวิช 1 - 1 พอร์ทสมัธ
ที่สังเวียนเดอะ ฮอว์ธอร์นส์ เวสต์บรอมวิชทีมบ๊วยยืนหยัดใช้งานทีมชุดเดิมเป็นหนแรกในรอบ 11 นัดแม้จะพ่ายวีแกน 2-1 เมื่อสัปดาห์ก่อนโดยหวังพึ่งความคมในการล่าตาข่ายของ อิสมาเอล มิลเลอร์ ต่อไป
สำหรับพอร์ทสมัธซึ่งหมดสิทธิ์ผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ถ้วยยูฟ่าคัพไปแล้วเปลี่ยนทีมสามตำแหน่งจากเกมปราชัยโวล์ฟสบวร์ก 3-2 โดยมี ปีเตอร์ เคร้าช์, โนเอ้ ปามาโร่ต์ และ ปาปา บูบา ดิย็อป ได้ลงเล่นแทน ริชาร์ด ฮิวจ์ส, อาร์โนลด์ เอ็มวูเอ็มบ้า และ อาร์กม็องด์ ตราโอเร่ ซึ่งเจ็บจากเกมกลางสัปดาห์
เกมเป็นไปอย่างด้อยคุณภาพตามคาดไม่มีโอกาสทำเสียวกันแม้แต่น้อย และกว่าจะมีลุ้นหนแรกก็ต้องรอจนกระทั่งนาทีที่ 23 เมื่อ เจมส์ มอร์ริสัน กองกลางเจ้าบ้านหลุดขึ้นมาตะบันแถวริมเขตโทษด้านขวา แต่ส่งบอลถากเสาสองออกไป
จากนั้นอีกสองนาที เดอะ แบ็กกี้ส์ ก็น่าจะได้ประตูอีกหน คราวนี้มิลเลอร์ปั้นบอลให้ คริส บรันท์ ได้สับไกปั่นโค้งไซด์โป้งด้วยเท้าซ้ายจากระยะ 20 หลาแต่ยังไม่เฉียบคมพอ บอลลอยเฉี่ยวกรอบประตูออกไป
ผ่านมาถึงนาทีที่ 39 ผู้ตัดสินก็เป่าให้ฟาวล์แก่เวสต์บรอมวิชหน้าเขตโทษโดยระบุว่า โซล แคมป์เบล์ กัปตันปอมปีย์เหนี่ยวมิลเลอร์ในจังหวะดวลลูกโหม่ง บรันท์จึงรับหน้าที่ตะบันลูกฟรีคิกระยะ 22 หลาพุ่งไปชนคาน แต่ โจนาธาน กรีนนิ่ง กัปตันเจ้าบ้านปรี่เข้าซ้ำแปดหลาได้ทันจึงเป็นอันว่าทีมน้องใหม่ผงาดนำ 1-0
สู้กันใหม่มาจนถึงนาทีที่ 42 ดิย็อปก็โดนจดชื่อข้อหาเสียบใส่ โรเบิร์ต โคเรน และเมื่อครบ 45 นาทีจึงเป็นอันว่าเดอะ แบ็กกี้ส์นำไปก่อน 1-0
เข้าสู่ครึ่งหลังนาที 49 เจ้าบ้านได้ลุ้นก่อน จากการเข้าไปยิงในเขตโทษของ มิลเลอร์ แต่ติดเซฟของ เจมส์ พอร์ทสมัธ ที่บุกน้อยกว่าดันตีเสมอได้จากโอกาสจะจะครั้งแรกนาที 58 ฌอน เดวิส จ่ายบอลให้ ปีเตอร์ เคร้าช์ จับบอลแล้วกดเต็มข้อเข้าไปอย่างงาม เสมอกัน 1-1
เวสต์บรอมวิช เกือบนำอีกครั้งนาที 65 มิลเลอร์ ลากบอลจากครึ่งสนามเข้าไปในเขตโทษ ก่อนจะยิงมุมแคบ แต่โดน เจมส์ เซฟไว้ได้ นาทีถัดมา พอร์ทสมัธ เกือบแซงนำ เจอร์เมน เดโฟ ได้เข้าไปยิงในเขตโทษ แต่บอลออกไปไม่มีลุ้น
เจ้าบ้านน่าได้ประตูนาที 70 มิลเลอร์ คนเดิม ได้ทะลุไปในเขตโทษ แต่จังหวะยิงโดนเบียดไว้บอลเลยออกไปน่าเสียดาย ทีมเยือนพลาดโอกาสทองนาที 72 เกล็น จอห์นสัน ทะลวงเข้าไปในเขตโทษ ได้ยิงเหน่งๆ แต่บอลเหินข้ามคานออกไป
ช่วงเวลาที่เหลือแม้ว่าทั้งสองทีมจะพยายามเปิดเกมรุกเข้าใส่กันเพื่อหวังชัยชนะแต่จังหวะสุดท้ายยังขาดๆ เกินๆ ทำให้จบเกมแข่งขันเสมอกัน 1-1 แบ่งแต้มกันไป
รายชื่อผู้เล่น
เวสต์บรอมวิช : สกอตต์ คาร์สัน, จานนี่ ซุยเวอร์ลูน, อับดูลาย เมอิเต้, โยนาส โอลส์สัน, พอล โรบินสัน, เจมส์ มอร์ริสัน, บอร์ฆา บาเลโร่, โรเบิร์ต โคเรน, คริส บรันท์, โจนาธาน กรีนนิ่ง, อิชมาเอล มิลเลอร์
สำรอง : ดีน ไคลี่, มาเร็ค เช็ก, ลีออน บาร์เน็ตต์, โรมัน เบ็ดนาร์, คิม โด-เฮือน, ลุค มัวร์, ฟิลิเป้ เตยเซยร่า
พอร์ทสมัธ : เดวิด เจมส์, เกล็น จอห์นสัน, โซล แคมป์เบลล์, ซิลแว็ง ดิสแต็ง, โนเอ้ ปามาโร่ต์, ฌอน เดวิส, นาดีร์ เบลฮาดจ์, ปาปา บูบา ดิย็อป, นิโก้ ครานชาร์, เจอร์เมน เดโฟ, ปีเตอร์ เคร้าช์
สำรอง : เจมี่ แอชดาวน์, เฮอร์มัน ฮไรดาร์สสัน, เดวิด นิวเจนท์, อาร์โนลด์ เอ็มวูเอ็มบ้า, เกล็น ลิตเติ้ล, เอ็นวานโก้ คานู, มาร์ค วิลสัน
ภาพข่าวจาก http://sports.yahoo.com