
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
เชลซี 1 - 1 เวสต์แฮม
ศึกลอนดอนดาร์บี้แมตช์ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ เชลซีมีโอกาสแซงลิเวอร์พูลกลับไปนำเป็นจ่าฝูงหากคว่ำเวสต์แฮมได้สำเร็จโดยเกมนี้หลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่ยังจัดให้ดิดิเยร์ ดร็อกบาเป็นเพียงตัวสำรองแม้จะพ้นโทษแบนแล้ว แต่ได้แฟร้งค์ แลมพาร์ดพ้นโทษแบนจากเกมในยุโรปลงฉะกับทีมเก่าเสียบแทนซาโลมง กาลู
ด้านเดอะ แฮมเมอร์สซึ่งมีจานฟรังโก้ โซล่าอดีตสตาร์ทีมสิงโตน้ำเงินครามคุมทีมกลับมาเยือนถิ่นเก่าพร้อมมือขวาสตีฟ คลาร์กปรับทีมสามรายจากนัดล่าสุดที่แพ้สเปอร์สคารังในดาร์บี้แมตช์เช่นกันโดยส่งแจ็ค คอลลิสัน , คาลั่ม ดาเวนพอร์ท และมาร์ค โนเบิ้ลลงบู๊ก่อนหน้าฌูเลียง โฟแบร์ , เฮย์เด้น มัลลินส์ และเจมส์ คอลลินส์
เริ่มเกมมาแค่ 30 วินาทีเศษๆ เวสต์แฮมก็เกือบแย่เมื่อคอลลิสันเจ็บเข่าขวาในจังหวะเข้าบล็อคลูกโยนของเดโก้แล้วโดนวางแข้งใส่ แต่ยังดีไม่ถึงกับหนักหนามากยังกัดฟันเล่นต่อได้ นานมาในนาทีที่ 7 เจ้าบ้านก็มีเสียวจากลูกชิ่งที่แลมพาร์ดจ่ายคืนให้โจ โคลหลุดเข้าเขตโทษด้านขวาไปกระทุ้งหมายพังประตูทีมเก่า แต่ถูกสก็อตต์ พาร์เกอร์ปรี่เข้ามาสกัดได้ทันบอลจึงเปลี่ยนทิศเฉี่ยวเสาแรกออกไป
เกมตกอยู่ในความครอบครองของทีมเงินถังแล้ว จากนั้นในนาทีที่ 16 แลมพาร์ดจอมยิงไกลก็ลองสับไกจากระยะ 25 หลาแต่ถูกดาเวนพอร์ทโขกทิ้งได้ก่อนที่บอลจะพุ่งเข้าหากรอบประตู
แต่แล้วถึงนาทีที่ 21 จอห์น โอบี มิเกลกองกลางเชลซีก็ประเดิมรับใบเหลืองก่อนเพื่อนข้อหารวบคาร์ลตัน โคลจากด้านหลัง และแม้จะพยายามเร่งเกมหวังเผด็จศึกผู้มาเยือน กลับเป็นเวสต์แฮมที่ได้เฮก่อนในนาทีที่ 33 จากลูกทุ่มด้านซ้ายที่โนเบิ้ลเกี่ยวเข้าเขตโทษได้จึงกระดกต่อให้เบลลามี่พักอกพร้อมทั้งตะบันเต็มเกือกระยะ 12 หลาเข้าตุงตาข่ายที่เสาแรกให้ทีมเยือนบุกมานำ 1-0 โดยนักเตะสิงห์บลูส์พยายามประท้วงว่าโนเบิ้ลใช้ไหล่คอนโทรลบอลฝ่าเข้าไปแต่ก็ไม่เป็นผล
ดวลกันใหม่มาถึงนาทีที่ 37 แอชลีย์ โคลก็โดนจดชื่อในจังหวะเข้าเสียบพาร์เกอร์ แต่อีกสามนาทีต่อมาคาร์ลตัน โคลก็รับใบเหลืองเช่นกันเนื่องจากโต้เถียงสิงห์เชิ้ตดำ
เชลซีหาโอกาสทำเสียวได้อีกครั้งในนาทีที่ 45 จากจังหวะซัลโวระยะ 18 หลาของนิโกล่าส์ อเนลก้า แต่บอลลอยเข้าซองโรเบิร์ต กรีนพอดีก่อนที่เคร็ก เบลลามี่จะรับใบเหลืองโทษฐานปะทะใส่จอห์น เทอร์รี่ จบครึ่งแรกจึงเป็นเวสต์แฮมที่แผลงฤทธิ์บุกมานำเชลซี 1-0
ครึ่งหลังเจ้าบ้านเปลี่ยนตัวทันทีโดยถอดมิชาเอล บัลลัคออกให้ดร็อกบาลงไปล่าตาข่าย และในนาทีที่ 51 สิงห์บลูส์ก็โชว์การประสานงานกันเป็นทอดๆไล่ตั้งแต่มิเกลจ่ายบอลขึ้นหน้า ดร็อกบาจึงตวัดต่อให้แลมพาร์ดแทงเข้าเขตโทษโดยมีอเนลก้าตามไปซัดแปดหลาผ่านกรีนเข้าประตูจนได้ทำให้สกอร์เปลี่ยนเป็น 1-1อย่างรวดเร็ว
ถึงตอนนี้มหาเศรษฐีมองหาประตูนำแล้ว แต่เวสต์แฮมช่วยกันกสัดกั้นได้อย่างน่าดูชมไม่ปล่อยให้เจ้าถิ่นได้ลุ้นมากเท่าที่ควร กระทั่งนาทีที่ 65 แลมพาร์ดก็ลองส่องไกลแต่ไม่เหนือบ่ากว่าแรงของกรีน จากนั้นอีกสองนาทีเชลซีก็ได้ลูกเตะมุมด้านขวาแล้วดร็อกบาโชว์ลีลาวอลเลย์ยัดใส่เสาแรกจากระยะ 12 หลาถูกกรีนขยับมาปัดทิ้งได้
นาทีที่ 72 เดอะ แฮมเมอร์สเปลี่ยนโนเบิ้ลออกส่งมัลลินส์ลงไปแทนที่ ขณะที่เชลซีดึงโจ โคลออกในนาทีที่ 75 โดยมีกาลูลงไปแทน แต่สุดท้ายขุนค้อนยันเกมรุกของเชลซีได้สำเร็จ จบเกมทั้งสองฝ่ายจึงเจ๊ากันไป 1-1 ทำให้เจ้าบ้านต้องเป็นรองจ่าฝูงตามเดิมโดยมีคะแนนตีตื้นลิเวอร์พูลเหลือหนึ่งแต้ม
รายชื่อผู้เล่น
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก, โชเซ่ โบซิงวา, อเล็กซ์, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล, จอห์น โอบี มิเกล, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, เดโก้, มิชาเอล บัลลัค, โจ โคล, นิโกล่าส์ อเนลก้า
สำรอง : ฮิลาริโอ, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, ชูเลียโน่ เบลเลตติ, เวย์น บริดจ์, เปาโล แฟร์ไรร่า, ซาโลมง กาลู, ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา
เวสต์แฮม : โรเบิร์ต กรีน, ลูคัส นีลล์, แม็ทธิว อัพสัน, คาลัม ดาเวนพอร์ท, เฮริต้า อิลุงก้า, แจ็ค คอลลิสัน, สกอตต์ พาร์เกอร์, มาร์ค โนเบิ้ล, วาลอน เบห์รามี่, เคร็ก เบลลามี่, คาร์ลตัน โคล
สำรอง : แยน ลาสทุฟก้า, ฌูเลียง โฟแบร์, เฮย์เด้น มัลลินส์, หลุยส์ บัว มอร์ต, เฟร็ด เซียร์ส, ดาวิด ดิ มิเคเล่, ดิเอโก้ ตริสตัน
พอร์ทสมัธ 0 - 3 นิวคาสเซิ่ล
ที่สนาม แฟร็ตตัน พาร์ค "เดอะ ปอมปีย์" พอร์ทสมัธ ทีมอันดับ 7 ของตาราง เปิดบ้านรับ "สาลิกาดง" นิวคาสเซิ่ล ทีมอันดับ 17 ของตาราง นัดนี้ โทนี่ อดัมส์ กุนซือเจ้าบ้านหมดสิทธิ์ใช้งาน ยูเนส กาบุล กับ ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า ที่เจ็บข้อเท้า ขณะที่ ปาปา บูบา ดิย็อป ติดโทษแบน แต่ได้ ริชาร์ด ฮิวจ์ส หายเจ็บข้อเท้าลงเป็นตัวจริง ร่วมกับ เจอร์เมน เดโฟ, ปีเตอร์ เคร้าช์
ด้าน โจ คินเนียร์ กุนซือทีมเยือน ส่ง นิคกี้ บัตต์, เซบาสเตียง บาสซง ที่ผ่านความฟิตลงเป็น 11 ตัวจริง แต่ยังไร้ โจอี้ บาร์ตัน ขณะที่ เดเมี่ยน ดัฟฟ์ กับ โชล่า อเมโอบี้ มีชื่อเป็นตัวสำรอง โดยสองกองหน้า ไมเคิ่ล โอเว่น จับคู่ โอบาเฟมี่ มาร์ตินส์
ช่วงต้นครึ่งแรก พอร์ทสมัธ ครองบอลมากกว่า แต่ว่า น.9 เป็น นิวคาสเซิ่ล ที่ทักทายก่อน มาร์ตินส์ ไหลเข้าเขตโทษทางขวาให้ ไมเคิ่ล โอเว่น สปีดไปตวัดยิงตามน้ำไหลผ่านหน้าประตูหลุดเสาสอง พอร์ทสมัธ เริ่มกดดัน นิวคาสเซิ่ล น.14 ปีเตอร์ เคร้าช์ ซัดด้วยเท้าขวาหน้าเขตโทษข้ามคาน จากนั้นนาทีเดียว เจอร์เมน เดโฟ ส่องด้วยเท้าซ้ายในกรอบติดเซฟ เชย์ กิฟเว่น นายทวารทีมเยือน
เกมแลกกันสนุก น.16 ซิลแว็ง ดิสแต็ง ไปทำฟาวล์ ไมเคิ่ล โอเว่น มุมธงทางขวา แดนนี่ กัทธรี เปิดมาหน้าประตูลงหัว อาบิ๊บ เบย์ เทกตัวโหม่งเช็ดหลุดเสาสองออกหลัง ถัดมาสามนาที นิวคาสเซิ่ล น่าจะพังประตูออกนำที่สุด เมื่อ โอบาเฟมี่ มาร์ตินส์ ได้โอกาสตะบันด้วยเท้าซ้ายหน้าเขตโทษทางขวา บอลพุ่งผ่าน เดวิด เจมส์ ที่ปัดไม่ถึงชนเสาแรกกระดอนออกมาอย่างน่าเสียดาย
น.25 "ปอมปีย์" มีลุ้นบ้าง จากลูกที่ นาดีร์ เบลฮาดจ์ ตักจากซ้ายข้ามมาเสาสองให้ เจอร์เมน เดโฟ วิ่งเข้าไปยิงเต็มเท้าขวาข้ามคานออกหลัง พอร์ทสมัธ กลับมาครองบอลมากกว่า น.29 โนเอ้ ปามาโร่ต์ ลากหนีกองหลังนิวคาสเซิ่ล จากขวามาไหลให้ นิโก้ ครานชาร์ ยิงด้วยเท้าขวาแฉลบเท้า ฟาบริซิโอ โกลอชชินี่ เปลี่ยนทางกำลังจะเสียบเสาแรก แต่ เชย์ กิฟเว่น ยังผวาไปปัดทัน
เกมยังผลัดกันรุกผลัดกันรับ น.38 โฮนาส กูเตียร์เรซ กระชากเข้าไปซัดด้วยอีซ้ายข้างถนัดในเขตโทษทางซ้ายกะให้เสียบสามเหลี่ยมเสาแรก แต่ เดวิด เจมส์ ไม่พลาดปัดทิ้งออกหลังปลายมือ
น.42 เป็นทีของเจ้าถิ่นอีกครั้ง ปามาโร่ต์ วางยาวเข้าเขตโทษ เคร้าช์ โหม่งตั้งให้ เดโฟ ยิงจากหัวกระโหลกหลุดกรอบออกหลังไป จบ 45 นาทีแรกทั้งสองทีมยังทำอะไรกันไม่ได้เสมอกัน 0-0
กลับมาครึ่งหลังแค่นาทีเดียว นิวคาสเซิ่ล ทักทาย พอร์ทสมัธ ทันทีจากลูกยิงไกลของ โฮนาส กูเตียร์เรซ ที่ซัดด้วยเท้าซ้ายไปตรงตัว เดวิด เจมส์ รับติดมือหนึบ ทว่า น.52 เป็น นิวคาสเซิ่ล ที่เฉียบคมกว่า เมื่อ กูเตียร์เรซ แทงเข้าเขตโทษทางซ้ายให้ ไมเคิ่ล โอเว่น แตะหนึ่งทีก่อนจะจิ้มด้วยขวาแฉลบเท้า โซล แคมป์เบลล์ ที่พุ่งสไลด์บอลลอยข้าม เดวิด เจมส์ ตุงตาข่ายทีมเยือนนำ 1-0
หลังเสียประตู พอร์ทสมัธ โหมบุกทันที น.54 นาดีร์ เบลฮาดจ์ เปิดมุมจากซ้ายมาหน้าประตู โนเอ้ ปามาโร่ต์ พุ่งโขกเช็ดตัดหน้า โกลอชชินี่ บอลลอยข้ามคานแบบสุดเสียว "ปอมปีย์" เริ่มบี้หนักถัดมาสามนาที เจอร์เมน เดโฟ พลิกพาบอลเข้าไปยิงด้วยเท้าขวาในกรอบเขตโทษทางขวาบอลถากเสาแรกออกหลังนิดเดียว
นิวคาสเซิ่ล รับแล้วรอสวนกลับ น.68 โอบาเฟมี่ มาร์ตินส์ หัวหอกไนจีเรีย ยิงด้วยเท้าขวาในกรอบทางซ้ายบอลโค้งน้อยไปข้ามคานออกหลัง อย่างไรก็ตาม น.77 "สาลิกาดง" ก็ทะยานนำห่าง 2-0 เมื่อ โฆเซ่ เอ็นริเก้ ลุยมาจากซ้ายขึ้นมาไหลเข้ากลางให้ โอบาเฟมี่ มาร์ตินส์ แปเน้นๆ 12 หลา เรียดผ่าน กิฟเว่น ซุกก้นตาข่าย
เท่านั้นยังไม่พอ น.89 นิวคาสเซิ่ล มายิงฝัง พอร์ทสมัธ เป็น 3-0 จากลูกยิงบนหัวกระโหลกทางขวาของ แดนนี่ กัทธรี จบเกม นิวคาสเซิ่ล บุกมาอัด พอร์ทสมัธ คาบ้าน 3-0 เก็บสามเพิ่มเป็น 19 คะแนน ขยับรั้งที่ 14
รายชื่อผู้เล่น
พอร์ทสมัธ : เดวิด เจมส์ - โนเอ้ ปามาโร่ต์, โซล แคมป์เบลล์, ซิลแว็ง ดิสแต็ง, นาดีร์ เบลฮาดจ์ - อาร์โนลด์ เอ็มวูเอ็มบ้า, ฌอน เดวิส, ริชาร์ดส์ ฮิวจ์ส, นิโก้ ครานชาร์ - เจอร์เมน เดโฟ, ปีเตอร์ เคร้าช์
นิวคาสเซิ่ล : เชย์ กิฟเว่น - อาบิ๊บ เบย์, เซบาสเตียง บาสซง, ฟาบริซิโอ โกลอชชินี่, โฆเซ่ เอ็นริเก้ - โฮนาส มานูเอล กูเตียร์เรซ, นิคกี้ บัตต์, แดนนี่ กัทธรี, ชาร์ลส์ เอ็นซ็อกเบีย - ไมเคิ่ล โอเว่น, โอบาเฟมี่ มาร์ตินส์
ภาพข่าวจาก http://sports.yahoo.com