อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีม อาร์เซน่อล ออกโรงทำนายถึงทิศทางความเป็นไปของศึก พรีเมียร์ลีก ว่าในอนาคตอันใกล้นี้ จะถึงกาลสิ้นสุดยุคทองของ "บิ๊ก 4" ที่มีแค่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, อาร์เซน่อล, เชลซี และ ลิเวอร์พูล ครอบครองความยิ่งใหญ่ผลัดกันคว้าถ้วยรางวัลรายการต่างๆ มาครองชนิดผูกขาดอย่างแน่นอน
กุนซือ "เดอะ กันเนอร์ส" กล่าวว่า "สำหรับผม สิ่งที่เราเรียกกันว่า "บิ๊ก4" กำลังจะถึงการเปลี่ยนแปลง มันจะคงอยู่ต่อไปอีกไม่นานแล้ว พรีเมียร์ลีก ในปีนี้มันมีหลายอย่างเปลี่ยนไป ซึ่งจริงๆ แล้วก็ถือว่าเป็นเรื่องดีสำหรับเกมฟุตบอลด้วย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เฉือนชนะ ซันเดอร์แลนด์ ได้ในนาทีสุดท้ายเท่านั้น แล้วก็มาเสมอ สเปอร์ส อีก ส่วนเราก็แพ้ทั้ง สโต๊ค และ ฮัลล์ เลย"
"แนวโน้มแบบนี้มันจะเป็นต่อไปจนกระทั่งเดือน มี.ค. ที่หลายๆ ทีมสามารถการันตีรอดจากการตกชั้นแล้ว ขณะที่ไม่ต้องสู้เพื่อโควต้าไปเตะยุโรป ซึ่งพวกเขาก็คงจะผ่อนๆ เครื่องลงบ้าง แต่ในแง่ของเทคนิคแล้ว ลีกของเรากำลังยกระดับขึ้นอย่างมาก เพราะนักเตะหลายคนถูกดึงมาจากที่ต่างๆ และนำเอาเทคนิคความสามารถใหม่ๆ มาด้วย"
"ผมยกตัวอย่างอีกเรื่องนะ มีอยู่วันหนึ่ง วีแกน มีนักเตะอย่าง เควิน คิลเบน, เจสัน คูมาส และ อาเมอร์ ซากี้ อยู่บนม้านั่งสำรองพร้อมกัน นี่คือเรื่องที่ผมประหลาดใจมากเลย"
กุนซือชาวฝรั่งเศสยังให้ความเห็นอีกว่าช่วงตลาดนักเตะรอบสองนี้อาจจะไม่มีการย้ายทีมที่สร้างความฮือฮาเกิดขึ้น เนื่องจากพิษเศรษฐกิจที่เล่นงานไปทั่วโลกได้ส่งผลกระทบถึงแวดวงฟุตบอลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน
"ผมมาจากหมู่บ้านเกษตรกรรมเล็กๆ ในฝรั่งเศสซึ่งผมถูกสอนมาว่า หากคุณมีรายได้ 100 ปอนด์ คุณต้องไม่ใช้ไปทั้งหมด 100 ปอนด์ และหากคุณหาเงินได้ 100 ปอนด์ แต่ใช้ไปตั้ง 110 ปอนด์ คุณก็คือคนโง่ สโมสรฟุตบอลจะต้องยืนหยัดด้วยตัวเอง อย่าไปเฝ้าหวังจะได้รับการสนับสนุนภายนอก"
"พิษเศรษฐกิจตอนนี้ทำให้ทุกๆ สโมสรต้องหันกลับมาทบทวนแนวทางการดำเนินงาน ดูเหมือนจะมีการเข้าใจกันว่าวงการฟุตบอลอยู่ในอีกโลกหนึ่งที่มีแต่ความเฟื่องฟู ไม่ต้องมาเจอวิกฤติทางการเงินกับเขาด้วย แต่ผมขอบอกว่าวงการฟุตบอลอยู่ได้ด้วยเรื่องของการตลาด, เงินสนับสนุนจากสปอนเซอร์, ลิขสิทธิ์โทรทัศน์ ซึ่งทุกส่วนนี่ก็กำลังย่ำแย่จากวิกฤติเศรษฐกิจอยู่ทั้งนั้น"
"แน่นอน หลายสโมสรต้องเจอผลกระทบแน่ ต้องมีการปรับลดค่าเหนื่อยลง, งบประมาณซื้อตัวก็ลดลง และจะมีไม่กี่ทีมหรอกที่อยู่นอกเหนือวงจรนี้แบบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้" เวนเกอร์ ซึ่งจบปริญญโทด้านเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยโรแบร์ ชูม็อง ในบ้านเกิด ร่ายยาว
ภาพข่าวจาก http://sports.yahoo.com
