
ฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
เอฟเวอร์ตัน 0 - 0 เชลซี
"ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน ต้องชวดใช้งาน ยาคูบู อเย็กเบนี่ กับ เจมส์ วอห์น สองกองหน้าที่พักยาว รวมทั้งขาด หลุยส์ ซาฮา กับ วิคเตอร์ อนิเชเบ้ ที่ไม่ฟิตส่งผลให้ ทิม เคฮิลล์ ต้องดันขึ้นไปเล่นกองหน้าต่อไปเหมือนนัดที่แล้ว ทางด้าน "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ไม่มี ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ เซนเตอร์ฮาล์ฟทีมชาติโปรตุเกส ที่ไม่ฟิต รวมทั้งขาด มิชาเอล เอสเซียง ที่เจ็บเข่า และ ฟรังโก้ ดิ ซานโต เจ็บเอ็นหลังหัวเข่า ต้องพักยาวต่อไป โดยวาง นิโกล่าส์ อเนลก้า เล่นเป็นหัวหอกตัวเป้า
ออกสตาร์ทครึ่งแรกได้แค่ 2 นาที แอชลี่ย์ โคล วิงแบ็คของเชลซี พาบอลขึ้นมาซัดด้วยเท้าซ้าย แต่ไม่ผ่านการป้องกันของ ทิม ฮาวเวิร์ด นายทวารเอฟเวอร์ตัน ที่ปัดไว้ได้ หลังจากนั้น 5 นาที ฟิล เนวิลล์ กระชากบอลขึ้นมาทางขวา ก่อนจะอัดด้วยเท้าซ้ายจากระยะ 30 หลา ทว่า ปีเตอร์ เช็ก นายทวารของเชลซี เซฟไว้ได้สบาย
เกมผ่านมาถึงนาทีที่ 12 มารูยาน เฟลไลนี่ โหม่งจากทางซ้ายระยะแค่ 12 หลา ไม่ผ่านการเซฟของ ปีเตอร์ เช็ก นายทวารสิงห์บลูส์ เชลซี น่าจะได้ประตูขึ้นนำในนาทีที่ 18 เมื่อ โจ โคล ครอสจากขวาเข้ามาให้กับ อเล็กซ์ โหม่งไปชนเสากระดอนออกมาอย่างน่าเสียดายบอลมาเข้าทาง นิโกล่าส์ อเนลก้า กองหน้าชาวฝรั่งเศส แต่ผู้ตัดสินเป่าเป็นลูกล้ำหน้าไปก่อนแล้ว
สองนาทีต่อมา เชลซี ทำเสียวกันอีกครั้ง เดโก้ รับบอลทางซ้ายก่อนลากตัดเข้ามายิงด้วยขวาแฉลบไปเข้าทาง นิโก้ อเนลก้า แต่โดนประกบจากด้านหลังจึงคืนให้ แฟร็งค์ แลมพาร์ด วิ่งมากดทันทียังดีที่ ฟิล ยาเกียลก้า พุ่งทิ้งตัวโขกสกัดออกหลังได้ทัน
ขยับมาถึงนาทีที่ 22 โชเซ่ โบซิงวา แบ็คขวาของเชลซี พาบอลขึ้นมากระทุ้งด้วยขวาจากระยะร่วม 30 หลา แต่โดน เฟลไลนี่ กองกลางเจ้าบ้านทิ้งตัวบล็อคไว้ได้ เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 35 เชลซี ต้องเหลือผู้เล่นแค่ 10 คน เมื่อ จอห์น เทอร์รี่ กองหลังกัปตันทีมทุ่มเทเกินเหตุขึ้นมาสไลด์สองเท้าหงายปุ่มใส่ ลีออน ออสแเมน มิดฟิลด์ของเอฟเวอร์ตันจนตัวลอย เลยโดน ฟิล ดาวด์ ผู้ตัดสินชักใบแดงไล่ออกทันที
ก่อนหมดครึ่งแรกแค่ 2 นาที เอฟเวอร์ตัน ได้ฟรีคิกริมเขตโทษด้านซ้ายระยะอันตราย มิเกล อาร์เตต้า ปั่นติดกำแพง แต่ มารูยาน เฟลไลนี่ โขกชงเข้าไปทางขวาให้ โจเซฟ โยโบ กลับตัววอลเลย์จากระยะ 12 หลา แต่ ปีเตอร์ เช็ก ล้มตัวเซฟได้หมดครึ่งแรกเสมอกันไปก่อน 0-0
เข้าสู่ครึ่งหลังสิงห์บูลส์ เปลี่ยนแปลงทีมทันที่ โดยเอา นิโกล่าส์ อเนลก้า กับ โจโคล ออก แล้วส่งดีดิเย่ร์ ดร็อกบา กับ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช ลงมาแทน โดยผ่านไปเพียง 3 นาที เชลซี ที่ผู้เล่นน้อยกว่า กลับเป็นฝ่ายได้เสียว จากจังหวะที่ จอห์น โอบี มิเกล จับบอลได้หน้ากรอบเขตโทษ ก่อนจะตะบันเต็มเท้า ลูกหลุดกรอบแบบได้ลุ้น
เอฟเวอร์ตัน ไม่ยอมตั้งรับเพียงฝ่ายเดียว นาทีที่ 52 มารูยาน เฟลไลนี่ ได้โอกาสโขกจากระยะ 12 หลา แต่ก็ยังไปติดมือ ปีเตอร์ เช็ก ที่ป้องกันเอาไว้ได้
นาทีที่ 80 เอฟเวอร์ตัน น่าจะได้ประตูชัยอย่างที่สุด จากจังหวะที่เลย์ตัน เบนส์ ตัวสำรองกระชากมาถึงเส้นหลังฝั่งซ้าย และเปิดกลับมาหน้าปากประตู เป็นมารูยาน เฟลไลนี่ ที่วิ่งโฉบมาดีดด้วยส้นเท้า บอลพุ่งเฉียดโคนเสาสองออกไปนิดเดียว จากนั้นอีก 4 นาทีต่อมา เจ้าถิ่นส่งลูกเข้าสู่ก้นตาข่ายได้แล้ว จากสตีเว่น พีน่าร์ แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงเป็นลูกล้ำหน้าไปก่อน และพีน่าร์ก็ไปเตะลูกจากมือปีเตอร์ เช็ก ที่รับไว้ได้ก่อนแล้ว
ช่วงเวลาที่เหลือ เจ้าถิ่นอาศัยตัวผู้เล่นที่มากกว่า เดินเกมกดดันเป็นระยะๆ แต่ไม่สามารถทำอะไรทีมเยือนที่เหลือ 10 คนได้ จบเกมเอฟเวอร์ตัน เสมอเชลซี ไปอย่างจืดชืด 0-0 แบ่งกันไปทีมล่ะคะแนน ทำให้เชลซีขึ้นนำจ่าฝูงไม่สำเร็จ
รายชื่อผู้เล่น
เอฟเวอร์ตัน : ทิม ฮาวเวิร์ด - โทนี่ ฮิบเบิร์ต, โจเซฟ โยโบ, ฟิล ยาเกียลก้า, โจลีออน เลสค็อตต์ - ฟิล เนวิลล์ - ลีออน ออสแมน, มิเกล อาร์เตต้า, มารูยาน เฟลไลนี่, สตีเว่น พีน่าร์ - ทิม เคฮิลล์
สำรอง : คาร์โล แนช (ผู้รักษาประตู) - เลห์ตัน เบนส์, แอนดี้ ฟาน เดอร์ เมย์เด้, แจ็ค ร็อดเวลล์, ลูคัส จุทคีวิคซ์, แดน กอสลิ่ง, จอห์น คิสซ็อค
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก -โชเซ่ โบซิงวา, อเล็กซ์, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล - จอห์น โอบี มิเกล - โจ โคล, มิชาเอล บัลลัค, แฟร้งค์ แลมพาร์ด จูเนียร์ส, เดโก้ ซูซ่า - นิโกล่าส์ อเนลก้า
สำรอง : คาร์โล คูดิชินี่ (ผู้รักษาประตู) - บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา, ฟลอร็องต์ มาลูด้า, เวย์น บริดจ์, ซาโลมง กาลู, ชูเลียโน่ เบลเล็ตติ
ภาพข่าวจาก http://sports.yahoo.com