ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก
อาร์เซน่อล 1 - 0 โรม่า
อาร์เซน่อล ยักษ์ใหญ่พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เปิดเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม พบ โรม่า ทีมดังแห่งกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก
อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีมชาวฝรั่งเศสของอาร์เซน่อลส่ง นิคลาส เบนด์ทเนอร์ กับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ เป็นตัวหลักแดนหน้า ส่วน ลูเซียโน่ สปัลเล็ตติ กุนซือโรม่าส่ง ฟรานเชสโก้ ต็อตติ กัปตันทีม, ชูลิโอ บั๊ปติสต้า ประสานงานแดนหน้า โดยมี ซิโมเน่ แปร์ร็อตต้านำเกมรุก
เกมครึ่งแรก อาร์เซน่อลบุกกดดันได้ดีในช่วง 10 นาทีแรก และนาที 14 เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ มิดฟิลด์เดอะ กันเนอร์สโดนใบเหลืองเป็นคนแรก หลังจากทำฟาวล์ ฟิลิปป์ เม็กแซส นาที 17 มาร์โก ม็อตต้า แบ็กขวาโรม่ายิงฟรีคิกระยะ 25 หลา มานูเอล อัลมูเนีย นายทวารเจ้าถิ่นปัดออกเส้นหลังไปได้ โดยนาทีต่อมา เกมยังเป็นของโรม่า จากลูกยิงของ ฟรานเชสโก้ ต็อตติ ทว่าบอลเหินข้ามคาน
จนกระทั่งเกมผ่านมาถึงนาที 36 ฟิลิปป์ เม็กแซส เซนเตอร์ฮาล์ฟฝรั่งเศสของโรม่าเสียบสกัด โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ทางด้านหลังในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสิน เคล้าส์ โบ ลาร์เซ่น จากเดนมาร์ก เป่าให้เจ้าถิ่นได้ลูกจุดโทษทันที และเป็น โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ สังหารจุดโทษเข้าประตูไปให้ อาร์เซน่อลนำ 1-0
เจ้าถิ่นเกือบได้ประตูที่สอง ในนาที 39 ฟาน เพอร์ซี่ พาบอลหนี ซิโมเน่ ลอเรีย ก่อนจ่ายให้ นิคลาส เบนด์ทเนอร์ ยิงไปติด มาร์โก ม็อตต้า แบ็กขวาโรม่าสกัดบอลออกไปได้อย่างหวุดหวิด
นาที 42 ดานิเอเล่ เด รอสซี่ มิดฟิลด์โรม่าโดนใบเหลือง หลังจากทำฟาวล์ ซามีร์ นาสรี่ ทำให้ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2 ที่โรม่าจะเป็นเจ้าบ้าน ทาง เด รอสซี่ จะติดโทษแบน เนื่องจากสะสมใบเหลืองครบตามโควตา จบครึ่งแรก อาร์เซน่อลนำ 1-0
ครึ่งหลัง นาทีที่ 54 อาร์เซน่อลน่าได้เพิ่มอีกครั้ง เมื่อฟาน เพอร์ซี่ จับบอลไม่ดี ไหลมาถึง เบนท์เนอร์ ซัดจ่อๆ บอลข้ามคานอย่างน่าเหลือเชื่อ นาทีที่ 66 ปืนโต บุกมาอีกคำรบ กลิชี่ วางยาวจากแดนหลังขึ้นหน้า มาร์โก ม็อตต้า โขกบอลพลาดไปเข้าเท้า เอบูเอ้ ที่อยู่โล่งๆ แต่เจ้าตัวดันยิงเฉี่ยวแรกเสาเด้งไปเข้าหลังประตูเหลือเชื่อ
จากนั้น 4 นาที โรม่า พยายามเอาคืน ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ เติมเกมมายิงไกล ทว่าบอลหลุดเป้าไป ช่วงเวลาที่เหลือ อาร์เซน่อล เล่นดีกว่าแต่ยังทำประตูเพิ่มไม่ได้ จบเกมเอาชนะโรม่า ไป 1-0
รายชื่อผู้เล่น
อาร์เซน่อล : มานูเอล อัลมูเนีย - บาการี่ ซาญ่า, วิลเลี่ยม กัลลาส, โคโล ตูเร่ (กัปตันทีม), กาแอล กลิชี่ - เอ็มมานูเอล เอบูเอ้, เดนิลสัน, อาบู ดิยาบี้, ซามีร์ นาสรี่ - นิคลาส เบนด์ทเนอร์, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่
สำรอง : ลูคัสซ์ ฟาเบียนสกี้ (ผู้รักษาประตู), คาร์ลอส เวล่า, อารอน แรมซี่ย์, อเลซ็องดร์ ซง, โยฮัน ฌูรู, คีแรน กิ๊บบ์ส, ฟราน เมริด้า
โรม่า : โดนี่ - มาร์โก ม็อตต้า, ซิโมเน่ ลอเรีย, ฟิลิปป์ เม็กแซส, ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ - โรดริโก้ ทาดเด, ดานิเอเล่ เด รอสซี่, มัตเตโอ บรีกี - ซิโมเน่ แปร์ร็อตต้า - ฟรานเชสโก้ ต็อตติ (กัปตันทีม), ชูลิโอ บั๊ปติสต้า
สำรอง : อาร์เทอร์ (ผู้รักษาประตู), ดาวิด ปิซาร์โร่, มีร์โก วูซินิซ, ฟิลิเป้, ซูเลย์มาน ดิยามูแตน, แม็กซ์ โตเน็ตโต้, วินเซนโซ่ มอนเตลล่า
โอลิมปิก ลียง 1 - 1 บาร์เซโลน่า
โอลิมปิก ลียง จ่าฝูงลีก เอิง ฝรั่งเศส เปิดสต๊าด เดอ แชร์กล็องด์ ปะทะ บาร์เซโลน่า จ่าฝูงลา ลีกา สเปน ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก โคล้ด ปูแอล เทรนเนอร์ลียงได้ จอห์น เมนซ่าห์ กองหลังกาน่า พ้นโทษแบนกลับมายืนแบ็กขวา จูนินโญ่ แปร์นัมบูกาโน่ กัปตันทีม, คาริม เบนเซม่า ดาวยิงเลส์ เบลอส์, โฮโนราโต้ เอแดร์สัน ปีกซ้ายบราซิล, ฟาบิโอ กรอสโซ่ แบ็กซ้ายอิตาลี, อับดุลกาแดร์ เกอิต้า ปีกขวาโก๊ต ดิวัวร์ กลับมาลงตัวจริง หลังจากทั้งหมดเป็นตัวสำรองในนัดบุกไปปราบ น็องซี่ 2-0 ในลีก เอิง เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
ส่วนโจเซฟ กวาร์ดิโอล่า เทรนเนอร์บาร์ซ่าส่ง ลีโอเนล เมสซี่ สตาร์ตัวเก่งทีมชาติอาร์เจนติน่า, ซามูแอล เอโต้ ดาวซัลโวสูงสุด ลา ลีกา ที่ยิงไปแล้ว 23 ประตู และ เธียร์รี่ อองรี ดาวยิงทีมชาติฝรั่งเศสนำทัพ
เกมครึ่งแรก เพียงนาทีที่ 2 บาร์เซโลน่าทักทายก่อนอย่างรวดเร็ว เธียร์รี่ อองรี จ่ายบอลให้ ชาบี เอร์นานเดซ ยิงไปติด อูโก้ โยริส นายทวารลียง และนาทีที่ 6 ดาเนี่ยล อัลเวส แบ็กขวาบาร์ซ่า ทำฟาวล์ ฟาบิโอ กรอสโซ่ ผู้ตัดสินโวล์ฟกัง สตาร์ค จากเยอรมันเป่าให้เจ้าถิ่นได้ฟรีคิกนอกกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย และก็เป็น จูนินโญ่ แปร์นัมบูกาโน่ กัปตันทีมยิงฟรีคิกสุดสวยเข้าประตูไปให้ ลียงขึ้นนำ 1-0 อย่างรวดเร็ว นับเป็นลูกฟรีคิกลูกที่ 43 ของจูนินโญ๋ในชุดทีมลียง
บาร์ซ่ามีลุ้นที่จะได้ประตูนาที 14 ลิโอแนล เมสซี่ จ่ายบอลให้ ซามูแอล เอโต้ ยิงชนเสาอย่างจัง โดยนาทีต่อมา ลียงเกือบได้ประตูที่สอง เมื่อ คาริม เบนเซม่า เปิดบอลจากริมเส้นฝั่งซ้ายให้ อับดุล กาแดร์ เกอิต้า ปีกขวาโก๊ต ดิวัวร์ ยิงถากเสาไม่กี่หลา
ลียงน่าได้ประตูอีกครั้งนาที 26 ฌอง มากูน มิดฟิลด์แคเมอรูน เปิดบอลยาวมาเข้าทาง คาริม เบนเซม่า ซัดเต็มเท้า บอลชนเสาอย่างน่าเสียดาย จากนั้น ทีมแชมป์ลีก เอิง 7 ปีซ้อนบุกอย่างต่อเนื่อง นาที 32 ฟาบิโอ กรอสโซ่ ทำชิ่งให้ เกอิต้า ยิงระยะเพียง 6 หลา ติด บิคตอร์ บัลเดส นายทวารบาร์ซ่า
ท้ายเกมครึ่งแรก นาที 39 เป็นโอกาสของทีมเยือน เมสซี่ พาบอลขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนจ่ายให้ เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ ซัลโวข้ามคานไม่กี่หลา จบครึ่งแรก โอลิมปิก ลียง นำ 1-0
กลับมาเล่นครึ่งหลังนาที 54 จูนินโญ่ แปร์นัมบูกาโน่ ลองยิงไกลทดสอบบิคตอร์ บัลเดส แต่คราวนี้โดนป้องกันได้ อีกสี่นาทีต่อมาทีมเยือนได้โอกาสตีเสมอจากลูกฟรีคิกของชาบี เอร์นานเดซ แต่ตรงตัว อูโก้ โยริส นายด่านมือ 1 ของลียง จนกระทั่งนาที 67 บาร์ซ่าตามตีเสมอ 1-1 จากที่ ลิโอแนล เมสซี่ เปิดลูกคอนเนอร์เข้ามา ราฟาเอล มาร์เกซ โหม่งเช็ดมาที่เสาสองแล้วเป็น เธียร์รี่ อองรี โขกซ้ำอีกหนเสียบตาข่าย
สิบนาทีต่อมา บาร์ซ่าแก้เกมด้วยการถอด เซร์กี้ บุสเก็ตส์ ตัวรับออกแล้วส่งเซย์ดู เกอิต้า ตัวรุกลงเล่นเพื่อหมายทำประตูให้ได้ ขณะที่ ลียงเปลี่ยนด้วย คิม คัลล์สตรอม ดาวเตะสวีดิช เล่นแทน จูนินโญ่ แปร์นัมบูกาโน่ จากนั้นไม่มีอะไรเกิดขึ้น หมดเวลาการแข่งขัน ลียง เสมอ บาร์เซโลน่า 1-1 โดยนัดสองเจ้าบุญทุ่มได้เปรียบหลังบุกมายิงประตูทีมเยือนได้
รายชื่อผู้เล่น
โอลิมปิก ลียง : อูโก้ โยริส - จอห์น เมนซ่าห์ คริส, ฌอง-อแล็ง บูมซง, ฟาบิโอ กรอสโซ่ - ฌอง มากูน, เฌเรมี่ ตูลาล็อง, จูนินโญ่ แปร์นัมบูกาโน่ (กัปตันทีม) - อับดุล กาแดร์ เกอิต้า, คาริม เบนเซม่า, โฮโนราโต้ เอแดร์สัน
สำรอง : เรมี่ แวร์กกู้ทร์ (ผู้รักษาประตู), คิม คัลล์สตรอม, มิราเลม เปยานิซ, เซซ่าร์ เดลกาโด้, อองโตนี่ มูนิเย่ร์, ลามีน กัสซาม่า, เฟรเดริก ปิกิยอนน์
บาร์เซโลน่า : บิคตอร์ บัลเดส - ดาเนี่ยล อัลเวส, เคราร์ด ปีเก้, ราฟาเอล มาร์เกซ, การ์เลส ปูโยล (กัปตันทีม) - ชาบี เอร์นานเดซ, ยาย่า ตูเร่, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ - ลีโอเนล เมสซี่, ซามูแอล เอโต้, เธียร์รี่ อองรี
สำรอง : โฆเซ่ ปินโต้ (ผู้รักษาประตู), มาร์ติน คาเซเรส, ไอเดอร์ กุ๊ดยอห์นเซ่น, โบยัน เกร์กิซ, เซย์ดู เกต้า, ซิลวินโญ่, อเล็กซานเดอร์ เคล็บ
ผู้ตัดสิน : โวล์ฟกัง สตาร์ค (เยอรมัน)
แอต.มาดริด 2 - 2 ปอร์โต้
เกมนี้เจ้าถิ่นแอต. มาดริด ปรับจากเกมนัดล่าสุดที่แพ้ต่อเซบีย่า 0-1 โดยส่งเซร์คิโอ อเกวโร่ กับ มักซี่ โรดริเกวซ กลับมาลงตัวจริง ส่วนทีมเยือนปอร์โต้ แชมป์โปรตุเกส ได้ตัว ฟูซิเล่ หายเจ็บ แล้ววาง3 หอก ฮัลค์, คริสเตียน โรดริเกซ และ ลิซานโดร โลเปซ ทำหน้าที่
เริ่มต้นครึ่งแรกแค่ 3 นาที ทีมตราหมีทะยานออกนำ 1-0 อย่างรวดเร็วจากจังหวะ เซร์คิโอ อเกวโร่ กุน ได้บอลแล้วเลี้ยงจี้ขึ้นมาจนถึงหน้ากรอบเขตโทษแล้วจ่ายต่อให้ ดิเอโก้ ฟอร์ลัน แม้ว่าบอลย้อนหลัง แต่ยังมาเข้าทาง มักซี่ โรดริเกวซ ที่วิ่งเข้ามาจิ้มบอลผ่าน เฮลตัน นายด่านปอร์โต้เข้าไป
แต่ปอร์โต้ไม่ยอมแพ้ เน้นเกมรุกมากขึ้น มีโอกาสลุ้นถึงสองครั้งติดต่อกันจากลูกยิงในกรอบของ ฮัลค์ และ ลูกโหม่งของ มาเรียโน่ กอนซาเลซ แต่ยังไม่เข้าเป้า นาที 17 ปอร์โต้เกือบได้ลูกตีเสมอจาการเปิดลูกฟรีคิกยาวมาที่ในกรอบเขตโทษแล้วราอูล เมเรยเลส โหม่งชงต่อให้ ลิซานโดร โลเปซ เอี้ยวตัวยิงเรียดส่งบอลเสียบตาข่าย แต่โดนจับว่าเป็นลูกล้ำหน้าเสียก่อน
อย่างไรก็ดีอีกห้านาทีต่อมา ปอร์โต้ ตีเสมอ 1-1 สมใจจากลูกโยนโต้กลับของ ราอูล เมเรยเลส แล้วปาโบล อิบานเญซ แนวรับตราหมีขึ้นโหม่งพลาด บอลทะลักถึง ลิซานโดร โลเปซ ที่รอบอลตก 1 จังหวะแล้ววางเท้ายิงด้วยซ้าย บอลลอดใต้แขน ลีโอ ฟรังโก้ เข้าไปอย่างเฉียบขาด เป็นลูกที่ 5 ในรายการนี้ของดาวยิงลิซานโดรด้วย
เกมของปอร์โต้ดูดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดแล้วเกือบได้ลูกพลิกนำด้วยจากที่ คริสเตียน โรดริเกวซ ตัวรุกของทีมได้บอลทางด้านซ้าย เลี้ยงหลบแนวรับตราหมีถึงสองคนแล้วเปิดเข้ากลางให้ ลิซานโดร โลเปซ ตวัดยิงด้วยซ้ายทันที ทว่าโดน ลีโอ ฟรังโก้ ใช้ขาขวาเซฟอย่างน่าเสียดาย
อีกไม่กี่นาทีต่อมา ฮัลล์ ได้หลุดดวลเดี่ยวกับ ลีโอ ฟรังโก้ แต่ไม่เฉียบขาดพอ ยิงไปติดตัวนายด่านมือ 1 ตราหมีแบบน่าเขกกระโหลก
บอลของปอร์โต้บุกได้น้ำได้เนื้อมากกว่าแต่เกือบต้องเสีย ลิซานโดร โลเปซ หัวหอกตัวเก่งออกจากสนามเนื่องจาดเจ็บเล็กน้อยหลังโดนแนวรับตราหมีรุมเตะซะน่วม แต่ยังดีที่เจ้าตัวฝืนกลับมาเล่นได้ตามเดิม
กระนั้นในช่วงท้ายครึ่งแรก ตราหมีได้ลูก 2-1 อย่างโชคช่วยเล็กน้อยเมื่อ ดิเอโก้ ฟอร์ลัน กองหน้าอุรุกวัย เลี้ยงจี้ขึ้นมาถึงหน้ากรอบเขตโทษแล้วลองยิงทันทีด้วยเท้าขวา บอลตรงตัว เฮลตัน แต่นายด่านมือ 1 ของปอร์โต้ ดันติดประมาทปล่อยลูกลอดหว่างแขนอย่างน่าเกลียด ทั้งๆที่วิถีของลูกบอลไม่ได้อันตรายอะไรเลย จบครึ่งแรก แอต.มาดริดนำปอร์โต้ 2-1
กลับมาเล่นต่อครึ่งหลังทั้งสองทีมยังไม่มีการเปลี่ยนตัว นาที 48 ปอร์โต้ เกือบตีเสมอได้จากลูกเตะมุมแล้วเป็น ลิซานโดร โลเปซ ขึ้นโหม่งเหนือแนวรับตราหมี บอลข้ามตัวนายทวาร ลีโอ ฟรังโก้ แล้ว แต่ปาโบล อิบานเญซ ยังสกัดทิ้งคาบเส้นได้หวุดหวิด แก้ตัวจากที่พลาดในช่วงครึ่งแรก
ปอร์โต้มาได้โอกาสอีกครั้งในนาที 54 เมื่อแนวรับตราหมีปั๊มบอลพลาดมาเข้าทาง คริสเตียน โรดริเกวซ ที่วิ่งมาทางกราบซ้ายแล้วเปิดให้ ลีซานโดร โลเปซ ยิงแบบไม่ต้องจับโล่งๆคนเดียว แต่ดันช้อนใต้ลูกมากเกินไปบอลข้ามคาน
ไม่กี่จังหวะต่อมา อเบล โรซิโน่ เทรนเนอร์ตราหมีแก้เกมด้วยการส่งฟลอร็องต์ ซิมาม่า ปงโกลล์ กองหน้าเฟร้นช์แมนลงมาเล่นแทน เซร์คิโอ อเกวร์โร่ แต่เกมของเจ้าถิ่นไม่ได้เหนือกว่าทีมเยือนมากนักมีการเปลี่ยนตัวอีกหนในนาที 65 โดยเป็น ริเบยโร่ มานิช เล่นแทน ราอูล การ์เซีย
กระทั่งนาที 72 ปอร์โต้ ตามตีเสมอสำเร็จจากที่ คริสเตียน โรดริเกวซ แทงทะลุช่องให้ อาลี ซิสโซโก้ แบ๊กซ้ายเติมเกมขึ้นมาจนถึงสุดเส้นหลังแล้วเปิดมาตรงกลางที่จุดนับพบ ลิซานโดร โลเปซ วิ่งเข้ามาแปเสียบตาข่ายอย่างงายด่าย เป็นลูกที่ 6 ใน 7 เกมของลิซานโดรและขึ้นนำดาวซัลโวของรายการนี้ด้วย
จากนั้นรูปเกมค่อนข้างสูสีคู่คี่กัน จบเกม 90 นาที แอต.มาดริด เสมอ ปอร์โต้ อย่างสนุก 2-2 แต่โอกาสของทีมจากโปรตุเกสดีกว่าเนื่องจากยิงประตูทีมเยือนถึงสองเม็ด
รายชื่อนักเตะ
แอต.มาดริด : เลโอ ฟรังโก้, ยูร์คาส ไซตาริดิส, ปาโบล อิบานเญซ, โทมัส อูฟาลูซี่, อันโตนิโอ โลเปซ, เปาโล อาสซุนเซา, ราอูล การ์เซีย, ซิเมา ซาโบรซ่า, มักซี่ โรดริเกวซ, เซร์คิโอ อเกวร์โร่, ดีเอโก้ ฟอร์ลัน
สำรอง : เกรกอรี่ กูเป้ต์, มาเรียโน่ เปร์เนีย, จอห์นนี่ ไฮติงก้า, ฟลอร็องต์ ซิมาม่า ปงโกลล์, ริเบยโร่ มานิช, มิเกล มอนเตยโร่, อิ๊กนาซิโอ กามาโช่
ปอร์โต้ : เอลตัน, ฮอร์เก้ ฟูซิเล่, โรลันโด้ ฟอนเซก้า, บรูโน่ อัลเวส, อาลี ซิสโซโก้, แฟร์นานโด, ลูโช่ กอนซาเลซ, ราอูล เมยเรเลส, ลิซานโดร โลเปซ, ฮัลค์, คริสเตียน โรดริเกซ
สำรอง : นูโน่, เปโดร เอมานูเอล, มาเรียโน่ กอนซาเลซ, ทาริค เซ็คติอุย, เออร์เนสโต้ ฟาเรียส, ทามาส คอสต้า, คริสเตียน ซาปูรานู
ภาพข่าวจาก http://sports.yahoo.com
