ฟุตบอลยูฟ่า คัพ รอบ 32 ทีมสุดท้าย นัดสอง
เอซี มิลาน 2 - 2 เบรเมน
(รวมผลสองนัดเสมอ 3-3 เบรเมนเข้ารอบด้วยกฎยิงประตูทีมเยือน)
"ปีศาจแดงดำ" เอซี มิลาน ลงสนามพบ เบรเมน หลังจากนัดแรกบุกไปยันเสมอมา 1-1 เกมนี้เจ้าบ้านใช้ อเล็กซานเดร ปาโต้ ยืนคู่ ฟิลิปโป้ อินซากี้ ฝั่งทีมเยือนมี เคลาดิโอ ปิซาร์โร่ กับ ดิเอโก้ นำทัพ เปิดฉากครึ่งแรดเบรเมนมาดีกว่า นาที 8 อเล็กซานดรอส ซิโอลิส เปิดบอลจากด้านขวาให้ เคลาดิโอ ปิซาร์โร่ ขึ้นโหม่ง ไปตรงตัว ดิด้า
โอกาสแรกของเจ้าบ้านเกิดขึ้นในนาที 14 เดวิด เบ็คแฮม เปิดลูกมุมไปเสาแรกให้ ฟิลิปป์ เซนเดอรอส โฉบเข้าโหม่งหลุดเสาสอง จังหวะต่อมา เมซุต โอซิล ขวางบอลออกด้านซ้าย ดิเอโก้ หักเข้ากลางกดด้วยขวา ดิด้า รับเข้าซองไม่มีกระฉอก
กระนั้น นาที 26 มิลานขึ้นนำก่อน เบ็คแฮม ยิงฟรีคิกไปโดนแขน ทอร์สเท่น ฟริงก์ส ในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าให้จุดโทษทันที และ อันเดรีย ปิร์โล่ สังหารอย่างเฉียบขาด 1-0
ห้านาทีต่อมาสาวกเจ้าบ้านเฮอีกดอก เปาโล มัลดินี่ เปิดบอลให้ อเล็กซานเดร ปาโต้ กระชาก เกือบครึ่งสนาม ไปยิงตรงกรอบเขตโทษลูกพุ่งเสยเพดานตาข่ายสุดงาม 2-0
เบรเมนยิ่งลุยมากขึ้น นาที 41 ฮูโก้ อัลเมด้า ตะบันด้วยซ้ายนอกกรอบเขตโทษ ดิด้า ปัดด้วยปลายนิ้ว และจากลุกเตะมุม อเล็กซานดรอส ซิโอลิส ขึ้นโหม่งเหน่งๆตรงตัวดิด้าอีก จบครึ่งแรกมิลานนำ 2-0
กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง มิลานเริ่มผ่อนเกมลงเรื่อยๆ ขระที่เบรเมนเน้นครองบอลตรงกลาง แต่จังหวะยิงยังหาไม่ได้ กระทั่งนาที 68 เบรเมนตีไข่แตกสำเร็จ ดิเอโก้ หยอดฟรีคิกเข้าเขตโทษ เคลาดิโอ ปิซาร์โร่ สะบัดโหม่งเสียบเสาแรก ไล่มา 1-2
เบรเมนกลายเป็นบอลได้ใจ โหมอย่างหนักนาที 71 ดิเอโก้ ไหลบอลให้ เซบาสเตียน เบอนิช ตัวสำรองอัดด้วยขวาเลยคานนิดเดียว สามนาทีต่อมา ทอร์สเท่น ฟริงก์ส วางบอลให้ เคลาดิโอ ปิซาร์โร่ พักอกก่อนหมุนตัวยิงด้วยขวาแบบจ่อๆ ติดบล็อค ดิด้า อย่างน่าเสียดาย
นาที 78 นางนวลตีเสมอสำเร็จ เซบาสเตียน เบอนิช เปิดบอลเข้าเขตโทษให้ เคลาดิโอ ปิซาร์โร่ คนเดมโหม่งย้อนศรเสียบตาข่าย 2-2
ท้ายเกมไม่มีประตูเพิ่มเติม จบ90 นาที เบรเมน ตีเสมอมิลาน 2-2 รวมผลสองนัดเสมอ 3-3 เบรเมนเข้ารอบด้วยกฎยิงประตูทีมเยือน
รายชื่อผู้เล่น
มิลาน : เนลสัน ดิด้า, จานลูก้า ซามบร็อตต้า, ฟิลิปป์ เซนเดอรอส, เปาโล มัลดินี่, จูเซ็ปเป้ ฟาวัลลี่, เดวิด เบ๊คแฮม, อันเดรีย ปิร์โล่, มัสซิโม อัมโบรซินี่, คลาเรนซ์ เซดอร์ฟ, อเล็กซานเดร ปาโต้, ฟิลิปโป้ อินซากี้
สำรอง : คริสเตียน อับเบียติ, คาค่า คาลัดเซ่, มาเร็ค ยานคูลอฟสกี้, ดานิเอเล่ โบเนร่า, ลูก้า อันโตนินี่, มาติเยอ ฟลามินี่, อังเดร เชฟเชนโก้
เบรเมน : คริสเตียน ฟานเดอร์ , เคลเมนส์ ฟริตซ์, แพร์ แมร์เตซัคเกอร์, นัลโด้, เพทรี พาซาเน่น, อเล็กซานดรอส ซิโอลิส, ทอร์สเท่น ฟริงก์ส, เมซุต โอซิล, ดิเอโก้, ฮูโก้ อัลเมด้า, เคลาดิโอ ปิซาร์โร่
สำรอง : เซบาสเตียน มีลิตซ์, เซบาสเตียน เพรอเดิ้ล, เซบาสเตียน เบอนิช, แฟร้งค์ เบามันน์, ดาเนี่ยล เยนเซ่น, มาร์คุส โรเซนเบิร์ก, มาร์ติน ฮาร์นิค
ซีเอสเคเอ มอสโก 2 - 0 แอสตัน วิลล่า
(รวม 2 นัด ซีเอสเคเอ เข้ารอบด้วยประตูรวม 3-1)
เกมที่ ลุซนิกิ สเตเดี้ยม ซีเอสเคเอ มอสโก ขนชุดใหญ่นำโดย ว้ากเนอร์ เลิฟ กองหน้าตัวเก่ง เปิดบ้านต้อนรับ แอสตัน วิลล่า ที่พักตัวหลักถึง 8 คน แล้วจัดผู้เล่นสำรองและดาวรุ่งหลายคนมาเยือน หลังจากนัดแรกทั้งคู่เสมอกันมา 1-1 ที่ วิลล่า พาร์ค
ในครึ่งแรกทั้งสองทีมยังไม่ใส่เกมรุกกันเต็มที่นัก นาทีที่ 18 ว้ากเนอร์ เลิฟ เรียกฟรีคิกระยะ 25 หลาให้เจ้าถิ่น แต่ อลัน ซาโกเยฟ ก็ปั่นโค้งหลุดกรอบออกไป นาทีที่ 32 เป็นโอกาสของ ซีเอสเคเอ อีกครั้ง มิลอส คราซิช เปิดเตะมุมฝั่งขวาให้ วาซิลี่ เบเรซุตสกี้ เทกตัวโหม่งกลางประตูถากเสาสองออกไปอีกครั้ง
แม้จะครองเกมมากกว่า แต่เจ้าถิ่นก็ยังไม่คายพิษสงในจังหวะเข้าทำออกมาให้เห็นมากนัก ท้ายครึ่งแรก ว้ากเนอร์ เลิฟ พลิกบอลหลอกผู้เล่นวิลล่าสองด่าน แล้วกดด้วยเท้าซ้ายระยะ 22 หลากลางประตู หลุดเสาออกไปอีก จบครึ่งแรก ยังเจ๊ากันอยู่ที่ 0-0
ครึ่งหลัง วิลล่า เปลี่ยนตัวก่อน ส่ง มาร์ลอน แฮร์วูด ลงไปแทน มุสตาฟา ซาลิฟู นาทีที่ 48 ทั้งสองทีมมีโอกาสฝ่ายละครั้ง วิลล่า ได้ก่อนเมื่อ เคร็ก การ์ดเนอร์ ได้พักอกแล้ววอลเล่ย์ในเขตโทษไปตรงตัว อิกอร์ อคินเฟเยฟ
ส่วนเจ้าถิ่นมีลุ้นจากจังหวะสวนกลับ มิลอส คราซิช หลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษด้านซ้าย แต่ดันแปบดไปเข้าซอง แบร๊ดลี่ย์ กูซาน ง่ายๆ เจ้าบ้านทิ้งโอกาสทองไปอีกในนาทีที่ 54 ยูริ เซียร์คอฟ วิ่งสอดขึ้นมาจากกลางสนามแล้วหลุดเดี่ยวทะลุเข้าเขตโทษ แต่เลี้ยงไปหามุมแคบเลยยิงไปติดบล็อค กูซาน
ซีเอสเคเอ บุกหนักจนกระทั่งนาทีที่ 60 ก็มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากลูกสูตรฟรีคิกริมกรอบเขตโทษฝั่งขวา อลัน ซาโกเยฟ ไหลเรียดเข้ากลางให้ ยูริ เซียร์คอฟ กดด้วยซ้ายตรงเส้นเขตโทษพอดี ส่งบอลผ่าน กูซาน ที่ถูกเพื่อนร่วมทีมยืนบังเข้าไปได้สำเร็จ
หลังจากนั้น เจ้าถิ่นยังมีโอกาสเพิ่มประตูที่สองหลายครั้ง แต่ ว้ากเนอร์ เลิฟ หลุดไปยิงในนาทีที่ 74 ออกเสาสองไม่ได้ลุ้น เช่นเดียวกับ 3 นาทีต่อมา มิลอส คราซิช ก็หลุดไปจิ้มบอลตรงตัว กูซาน อีก ช่วงทดเจ็บนาที 93 ซีเอสเคเอ มาได้ประตูฝังเป็น 2-0 ว้ากเนอร์ เลิฟ หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงผ่าน กูซาน เสียบเสาสอง
จบเกม ซีเอสเคเอ มอสโก เอาชนะ แอสตัน วิลล่า ไป 2-0 รวมผลสองนัด ซีเอสเคเอ เข้ารอบด้วยประตูรวม 3-1
รายชื่อผู้เล่น
ซีเอสเคเอ มอสโก : อิกอร์ อคินเฟเยฟ, วาซิลี่ เบเรซุตสกี้, เซอร์เก อิ๊กนาเชวิช, อเล็กซี่ เบเรซุตสกี้, จอร์จี้ เชนนิคอฟ, มิลอส คราซิช, เอลเวียร์ ราฮิมิช, ไดวิดาส เซมเบราส, ยูริ เซียร์คอฟ, อลัน ซาโกเยฟ, ว้ากเนอร์ เลิฟ
สำรอง : เยฟเจนี่ โปมาซาน, ชิดี้ โอดิอาห์, ดาเนี่ยล คาร์วัลโญ่, พาเวล มามาเยฟ, กาเนอร์ เออร์กิน, รามอน, ริคาร์โด้ เฮซุส
แอสตัน วิลล่า : แบร๊ดลี่ย์ กูซาน, ลุค ยัง, แซต ไนท์, เคอร์ติส เดวี่ส์, นิคกี้ ชอรี่ย์, มาร์ค อัลไบรท์ตัน, เคร็ก การ์ดเนอร์, มุสตาฟา ซาลิฟู, สตีฟ ซิดเวลล์, แบร์รี่ แบนแนน, นาธาน เดลฟอนโซ่
สำรอง : สจ็วร์ต เทย์เลอร์, เอริค ลิชาจ, เคียแรน คล้าร์ก, อิไซอาห์ ออสบอร์น, เชน โลว์รี่, มาร์ลอน แฮร์วูด
แมนฯ ซิตี้ 2 - 1 โคเปนเฮเก้น
(รวม 2 นัด แมนฯ ซิตี้ เข้ารอบด้วยประตูรวม 4-3)
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดสนาม ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ สเตเดี้ยม รับมือ โคเปนเฮเก้น หลังจากเสมอกันมา 2-2 ในนัดแรกที่เดนมาร์ก สภาพทีมเกมนี้ เจ้าบ้านขนชุดใหญ่ลงครบ แนวรุกใช้ โรบินโญ่ กับ เคร็ก เบลลามี่ ลงล่าตาข่าย ขณะที่ทีมเยือนก็จัดทัพแข็งแกร่งมาเยือนเช่นกัน
ในครึ่งแรก เรือใบสีฟ้า ทำเกมรุกได้เหนือกว่า และมีโอกาสลุ้นทำประตูขึ้นนำบานเบอะ เริ่มจากโอกาสสองครั้งติดๆ ในนาทีที่ 20 ของ โรบินโญ่ ครั้งแรกกองหน้าทีมชาติบราซิลยิงไปชนคาน ส่วนโอกาสอีกครั้ง โรบินโญ่ โชว์ลีลาโยกหลอกแนวรับทีมเยือนจนหลังหัก แต่ยิงมุมแคบติด เยสเปอร์ คริสเตียนเซ่น อีก
นาทีที่ 36 แมนฯ ซิตี้ พลาดโอกาสขึ้นนำไปอีกหน โรบินโญ่ อีกแล้ว ที่ได้หาจังหวะยิงแต่ก็ยังไม่ผ่านมือ คริสเตียนเซ่น ก่อนจบครึ่งแรกนาทีเดียว เจ้าบ้านก็ยังไร้โชคในการทำประตูอีกตามเคย เคร็ก เบลลามี่ หลุดเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายเข้าไปยิงด้วยซ้ายผ่าน คริสเตียนเซ่น ไปแล้ว แต่บอลพุ่งชนเสาสองกระดอนออกมา จบครึ่งแรก สกอร์ยังเสมอกันอยู่ 0-0
ครึ่งหลัง แมนฯ ซิตี้ ยังคงลุยหนักเหมือนเดิม นาทีที่ 50 ได้ลูกฟรีคิกระยะ 25 หลา เคร็ก เบลลามี่ ปั่นโค้งข้ามกำแพงไปแล้ว แต่ คริสเตียนเซ่น ปัดบอลออกมาได้
ถัดจากนั้น 3 นาที เรือใบสีฟ้า ทิ้งโอกาสทองไปแบบไม่น่าให้อภัย เมื่อ ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ หลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษโล่งๆ และมีเวลาเหลือเฟือ แต่กลับเลือกจ่ายให้ สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ ซึ่งเติมขึ้นมาแต่ไม่ทัน แหย่บอลสุดเท้าก็ยังไม่ถึง ในที่สุด แมนฯ ซิตี้ ก็มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จนได้ในนาทีที่ 73 จากบอลยาวแดนตัวเอง กองหลังโคเปนเฮเก้นบังบอลไม่ดี แถมยังเตะสกัดพลาด เลยเสร็จ เคร็ก เบลลามี่ ฉกเข้าไปยิงผ่าน คริสเตียนเซ่น เข้าไปไม่เหลือ
นาทีที่ 77 เจ้าบ้านทำโอกาสหลุดลอยไปอีก โรบินโญ่ หลุดเดี่ยวยิงระยะแค่ 5 หลาชนเสาหน้าตาเฉย นาทีที่ 80 เรือใบ ก็มาได้ประตูหนีไปเป็น 2-0 จากจังหวะ โรบินโญ่ กระชากมาทางฝั่งซ้ายถึงเส้นหลังก่อนเปิดเข้ามาให้ เคร็ก เบลลามี่ ซัดเข้าไปไม่เหลือ
ช่วงท้ายเกมนาทีที่ 90 โคเปนเฮเก้น มาได้ประตูตีไข่แตกเป็น 1-2 จาก มาร์ติน วินการ์ด แต่ไล่ไม่ทัน จบเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เอาชนะ โคเปนเฮเก้น ไป 2-1 ผ่านเข้าสู่รอบต่อไปด้วยสกอร์รวม 4-3
รายชื่อผู้เล่น
แมนฯ ซิตี้ : เชย์ กิฟเว่น, ไมกาห์ ริชาร์ดส์, ริชาร์ด ดันน์, เนดุม โอนูโอฮา, เวย์น บริดจ์, ปาโบล ซาบาเลต้า, แว็งซ็องต์ ก็อมปานี, สตีเฟ่น ไอร์แลนด์, ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์, โรบินโญ่, เคร็ก เบลลามี่
สำรอง : โจ ฮาร์ท, ฆาเบียร์ การ์รีโด้, เกลอแบร์, เอลาโน่, ดาริอุส วาสเซลล์, เฟลิเป้ ไซเซโด้, เชด อีแวนส์
โคเปนเฮเก้น : เยสเปอร์ คริสเตียนเซ่น, ซเดเน็ค พอสเปช, มิคาเอล อันทอนส์สัน, มาเธียส ยอร์เกนเซ่น, ออสการ์ เวนด์ท, วิลเลี่ยม ควิสท์, โธมัส คริสเตนเซ่น, ฮาลเต้ นอร์รีการ์ด, อติบ้า ฮัตชินสัน, ไอลตัน อัลเมด้า, ดาเม่ เอ็นโดเย่
สำรอง : นาธาน โค, นิคลาส เยนเซ่น, อุลริค เลาร์เซ่น, เยสเปอร์ กรุนชาร์, มาร์ติน วินการ์ด, ลิบอร์ ซิออนโก้, มอร์เท่น นอร์ดสตรานด์
สรุปผลฟุตบอลยูฟ่า คัพ รอบ 32 ทีมสุดท้าย นัดสอง
ซีเอสเคเอ มอสโก (รัสเซีย) ชนะ แอสตัน วิลล่า (อังกฤษ) 2-0
(รวมสองนัด ซีเอสเคเอ เข้ารอบด้วยประตูรวม 3-1)
เมตาลิสต์ คาร์เคียฟ (ยูเครน) ชนะ ซามพ์โดเรีย (อิตาลี) 2-0
(รวมสองนัด เมตาลิสต์ เข้ารอบด้วยประตูรวม 3-0)
ฮัมบูร์ก (เยอรมัน) ชนะ ไนจ์เมเก้น (ฮอลแลนด์) 1-0
(รวมสองนัด ฮัมบูร์ก เข้ารอบด้วยประตูรวม 4-0)
ทเวนเต้ (ฮอลแลนด์) แพ้ มาร์กเซย (ฝรั่งเศส) 0-1
(รวมสองนัดเสมอ 1-1 ต่อเวลาเสมอ 1-1, มาร์กเซย ชนะจุดโทษ 7-6)
โวล์ฟสบวร์ก (เยอรมัน) แพ้ เปแอสเช (ฝรั่งเศส) 1-3
(รวมสองนัด เปแอสเช เข้ารอบด้วยประตูรวม 5-1)
กาลาตาซาราย (ตุรกี) ชนะ บอร์กโดซ์ (ฝรั่งเศส) 4-3
(รวมสองนัด กาลาตาซาราย เข้ารอบด้วยประตูรวม 4-3)
เอซี มิลาน (อิตาลี) เสมอ เบรเมน (เยอรมัน) 2-2
(รวมสองนัดเสมอ3-3 เบรเมน เข้ารอบด้วยกฎยิงประตูทีมเยือน)
อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม (ฮอลแลนด์) เสมอ ฟิออเรนติน่า (อิตาลี) 1-1
(รวมสองนัด อาแจ็กซ์ เข้ารอบด้วยประตูรวม 2-1)
แมนฯ ซิตี้ (อังกฤษ) ชนะ เอฟซี โคเปนเฮเก้น (เดนมาร์ก) 2-1
(รวมสองนัด แมนฯ ซิตี้ เข้ารอบด้วยประตูรวม 4-3)
สตองดาร์ ลีแอช (เบลเยียม) เสมอ บราก้า (โปรตุเกส) 1-1
(รวมสองนัด บราก้า เข้ารอบด้วยประตูรวม 4-1)
อูดิเนเซ่ (อิตาลี) ชนะ เลช พอชนัน (โปแลนด์) 2-1
(รวมสองนัด อูดิเนเซ่ เข้ารอบด้วยประตูรวม 4-3)
สตุ๊ตการ์ท (เยอรมัน) แพ้ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก (รัสเซีย) 1-2
(รวมสองนัด เซนิต เข้ารอบด้วยประตูรวม 4-2)
แซงต์ เอเตียน (ฝรั่งเศส) ชนะ โอลิมเปียกอส (กรีซ) 2-1
(รวมสองนัด แซงต์ เอเตียน เข้ารอบด้วยประตูรวม 5-2)
เดปอร์ติโบ ลา กอรุนญ่า (สเปน) แพ้ อัลบอร์ก (เดนมาร์ก) 1-3
(รวมสองนัด อัลบอร์ก เข้ารอบด้วยประตูรวม 6-1)
สเปอร์ส (อังกฤษ) เสมอ ชัคเตอร์ โดเนทส์ค (ยูเครน) 1-1
(รวมสองนัด ชัคเตอร์ เข้ารอบด้วยประตูรวม 3-1)
บาเลนเซีย (สเปน) เสมอ ดินาโม เคียฟ (ยูเครน) 2-2
(รวมสองนัดเสมอ 3-3 ดินาโม เคียฟ เข้ารอบด้วยกฏประตูทีมเยือน)
ภาพข่าวจาก http://sports.yahoo.com