ฟุตบอลยูฟ่าคัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดแรก
ฮัมบูร์ก 3 - 1 แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ฮัมบูร์ก ทีมฟอร์มแรงของเยอรมัน เปิดบ้านรับมือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยเกมนี้เจ้าบ้านได้ มลาเด้น เพทริช ฟิตกลับมาลงล่าตาข่ายคู่กับ อิวิก้า โอลิช ขณะที่ทีมเยือนก็ขนชุดใหญ่มาบู๊ มีสามประสานแดนหน้า โรบินโญ่, เบลลามี่ และ สเตอร์ริดจ์
เริ่มเกมขึ้นมาไม่ถึง 1 นาที เรือใบสีฟ้า ได้ประตูออกนำ 1-0 อย่างรวดเร็ว จากจังหวะวางบอลยาวของ สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ ไปให้ โรบินโญ่ ดึงบอลลงแล้วลากตัดเข้ากลาง ก่อนไหลเข้าเขตโทษคืนให้ ไอร์แลนด์ ที่วิ่งทะลุขึ้นมาจากกลางสนาม แปด้วยขวาเรียดเบียดเสาเข้าไปอย่างสวยงาม เป็นประตูขึ้นนำตั้งแต่ 29 วินาทีแรก
แต่ สิงห์เหนือ ก็สามารถทวงประตูตีเสมอ 1-1 คืนได้รวดเร็วเช่นกันเพียงแค่นาทีที่ 9 จากลูกเตะมุมฝั่งซ้าย ปิโอเตอร์ โทรชอฟสกี้ เปิดไปที่เสาแรกให้ ยอริส มาไธจ์เซ่น โหม่งเช็ดเล่นเสาสอง เชย์ กิฟเว่น ปัดโดนเพียงแค่เฉี่ยวๆ เปลี่ยนทางบอลเสียบมุมเข้าไป ทั้งที่ถ้าไม่ปัด ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ ตัวคุมเส้น น่าจะเตะสกัดได้อยู่แล้ว
พอตีเสมอได้ ฮัมบูร์ก เริ่มรัวกระสุนเข้าใส่เป็นชุดๆ นาทีที่ 19 ปิโอเตอร์ โทรชอฟสกี้ ได้ยิงในเขตโทษฝั่งซ้าย เชย์ กิฟเว่น ต้องออกแรงเซฟออกมา นาทีต่อมา เจ้าบ้านมีลุ้นอีกครั้ง จากบอลโยนทางกราบซ้ายไปที่เสาสอง โจนาธาน ปิตรอยป้า ขึ้นโหม่งย้อนกลับมาที่เสาแรก แต่บอลย้อยไปชนคานกระดอนออกมา
นาทีที่ 31 ยังเป็นจังหวะลุ้นของ ฮัมบูร์ก อีกครั้ง แต่ โทรชอฟสกี้ ก็ยังยิงไม่ผ่านมือ กิฟเว่น อยู่ดี จบครึ่งแรก ทั้งสองทีมเสมอกันอยู่ 1-1
ครึ่งหลัง เรือใบสีฟ้า เปลี่ยนตัวคนแรกส่ง ฆาเบียร์ การ์รีโด้ ลงไปแทน เวย์น บริดจ์ ฮัมบูร์ก บุกหนักตั้งแต่ต้น นาทีที่ 60 จากเตะมุมของ โทรชอฟสกี้ ไปให้ ปิตรอยป้า โหม่งที่เสาแรก แต่ถูก ไรท์-ฟิลลิปส์ เตะสกัดออกมาได้จากเส้นประตู
นาทีที่ 62 แมนฯ ซิตี้ ส่ง เบนจานี่ ลงไปแทน ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ อีกคน และจากนั้น สิงห์เหนือ มาได้ลูกจุดโทษในนาทีที่ 63 จากจังหวะที่ อิวิก้า โอลิช วอลเล่ย์ด้วยซ้ายในเขตโทษ ไมกาห์ ริชาร์ดส์ ยกแขนสองข้างขึ้นมาบล็อคบอลเต็มๆ ผู้ตัดสินจึงเป่าให้จุดโทษทันที และเป็น ปิโอเตอร์ โทรชอฟสกี้ สังหารจุดโทษเสียบมุมเด็ดขาด ฮัมบูร์ก พลิกนำ 2-1
หลังจากนั้น เจ้าบ้านมีโอกาสได้ประตูที่สามหลายครั้ง นาทีที่ 66 มาร์เซลล์ แยนเซ่น ส่องด้วยซ้ายเฉี่ยวเสาออกไป ขณะที่ 3 นาทีต่อมา อิวิก้า โอลิช ก็ยิงไปติดบล็อคกองหลังทีมเยือนอีก
นาทีที่ 79 ทีมสิงห์เหนือ ก็ได้ประตูย้ำชัยอีกลูกเมื่อ เปาโล เกร์เรโร่ หลุดการล้ำหน้า ไปล่อเป้าผ่านมือ เชย์ กิฟเว่น ไปอย่างง่ายดาย จบเกม ฮัมบูร์ก เฉือนชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไป 3-1 ต้องไปเล่นกันต่อในนัดสองที่ ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ สเตเดี้ยม บ้านเรือใบสีฟ้า
รายชื่อผู้เล่น
ฮัมบูร์ก : แฟร้งค์ โรสต์, คอลลิน เบนจามิน, ไมเคิ่ล กราฟการ์ด, ยอริส มาไธจ์เซ่น, เดนนิส อโอโก้, โจนาธาน ปิตรอยป้า, ดาวิด ยาโรลิม, ปิโอเตอร์ โทรชอฟสกี้, มาร์เซลล์ แยนเซ่น, มลาเด้น เพทริช, อิวิก้า โอลิช
สำรอง : โวลฟ์กัง เฮเซิล, มาร์เซล เอ็นเจง, โทมัส รินคอน, โวลเกอร์ ชมิดท์, ตูนาย โตรุน, โฮเซ่ เปาโล เกร์เรโร่
แมนฯ ซิตี้ : เชย์ กิฟเว่น, ไมกาห์ ริชาร์ดส์, ริชาร์ด ดันน์, เนดุม โอนูโอฮา, เวย์น บริดจ์, ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์, ปาโบล ซาบาเลต้า, สตีเฟ่น ไอร์แลนด์, โรบินโญ่, เคร็ก เบลลามี่, ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์
สำรอง : โจ ฮาร์ท, เอลาโน่, ฆาเบียร์ การ์รีโด้, มาร์ติน เปตรอฟ, เกลสัน แฟร์นันเดส, เบนจามิน เอ็มวารูวารี, เกลอแบร์
แวร์เดอร์ เบรเมน 3 - 1 อูดิเนเซ่
แวร์เดอร์ เบรเมน เปิดรัง เวเซอร์สตาดิโอน ต้อนรับการมาเยือนของ อูดิเนเซ่ โดยเกมนี้เจ้าถิ่นจัดชุดใหญ่ส่ง ดิเอโก้, ฮูโก้ อัลเมด้า และ เคลาดิโอ ปิซาร์โร่ เป็นตัวรุก ขณะที่ทีมเยือนใช้สามหอก ซิโมเน่ เปเป้, ฟาบิโอ กวายาเรลล่า และ อเล็กซิส ซานเชซ
ช่วงต้นเกมทั้งสองทีมยังไม่มีจังหวะลุ้นทำประตูกันมากนัก เบรเมน มีเพียงลูกยิงไกลของ ดิเอโก้ ในนาทีที่ 9 ที่ไปแฉลบกองหลังอูดิเนเซ่ จากนั้นก็มีจังหวะสวนกลับงามๆ เช่นกันในนาทีที่ 29 จากจังหวะตักฟรีคิกเร็วออกทางซ้ายให้ ฟาบิโอ กวายาเรลล่า เลี้ยงจี้ตัดเข้ามาในเขตโทษแล้วยิงบดด้วยเท้าขวา บอลเรียดไม่ผ่านมือ ทิม วีเซ่
เจ้านกนางนวล เกือบได้ประตูขึ้นนำในนาทีที่ 30 จากการถ่ายบอลไปมาหลายจังหวะ สุดท้าย นัลโด้ เซนเตอร์ฮาล์ฟบราซิเลี่ยน เลยเติมขึ้นมาเองจากกลางสนาม แล้วส่องไกลด้วยเท้าขวาจากระยะเกิน 30 หลา บอลพุ่งไปชนคานกระดอนออกมา เคลาดิโอ ปิซาร์โร่ ขึ้นโหม่งแย่งกับ ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช ก่อนที่ ปิซาร์โร่ จะยิงเข้าไป แต่ผู้ตัดสินเป่าเป็นจังหวะฟาวล์
นาทีที่ 34 เบรเมน มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จนได้ จากจังหวะถ่ายบอลกลางสนามของ เมซุต โอซิล ไปให้ ดิเอโก้ ลากบอลขึ้นมาเรื่อยๆ จนถึงกรอบเขตโทษด้านขวาแล้วยิงด้วยขวาเรียดเล่นทางเสียบเสาสองเข้าไปอย่างแม่นยำ จบครึ่งแรก เบรเมน นำ 1-0
กลับมาเล่นครึ่งหลัง อูดิเนเซ่ พลาดโอกาสทองที่จะตีเสมอไปอย่างไม่น่าเชื่อตั้งแต่นาทีที่ 47 ฟาบิโอ กวายาเรลล่า รับบอลหลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายคนเดียวแล้ว แต่กระดกบอลข้ามตัว ทิม วีเซ่ หลุดเสาสองออกไปนิดเดียว
พอไม่เสียประตูตีเสมอ เบรเมน ก็มีฮึดกลับมาบุกหนักอีกครั้ง และมาได้ประตูหนีห่าง 2-0 ในนาทีที่ 67 จากจังหวะที่ เมซุต โอซิล ได้บอลในเขตโทษฝั่งซ้าย แล้วไหลให้ ดิเอโก้ ที่วิ่งเติมขึ้นมา โยกหลอกเข้าเท้าขวาแล้วปั่นด้วยขวาเสียบเสาสองเข้าไปอย่างหมดจด
สกอร์เปลี่ยนเป็น 3-0 สำหรับเจ้าถิ่นในอีก 2 นาทีต่อมา จากการตักบอลยาวให้ ฮูโก้ อัลเมด้า หลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษ แล้วซัดด้วยซ้ายเสียบเสาสองไม่เหลือ
แต่แล้ว ทีมจากแดนมะกะโรนี ก็ได้ประตูปลอบขวัญ เมื่อเกิดลูกชุลมุนกันหน้าประตูของ ทีมนกนางนวล ก่อนมาเข้าทางปืนของ ฟาบิโอ กวายาเรลล่า ในนาทีที่87 จบเกม แวร์เดอร์ เบรเมน ไล่ถล่ม อูดิเนเซ่ ไปเละเทะ 3-1 ทำให้นัดสองที่อิตาลีเป็นงานง่ายสำหรับเจ้านกนางนวลแล้ว
รายชื่อผู้เล่น
แวร์เดอร์ เบรเมน : ทิม วีเซ่, คลีเมนส์ ฟริตซ์, เพอร์ แมร์เตซัคเกอร์, นัลโด้, เซบาสเตียน โบนิช, อเล็กซานดรอส ซิโอลิส, ทอร์สเท่น ฟริงก์ส, เมซุต โอซิล, ดิเอโก้, ฮูโก้ อัลเมด้า, เคลาดิโอ ปิซาร์โร่
สำรอง : คริสเตียน ฟานเดอร์, เปตรี้ ปาซาเน่น, แฟร้งค์ เบามันน์, ยูริก้า วรันเยส, อารอน ฮันท์, เซบาสเตียน โพรเดิ้ล, ปีเตอร์ นีเมเยอร์
อูดิเนเซ่ : ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช, คริสเตียน ซาปาต้า, เมาริซิโอ โดมิซซี่, เฟลิเป้, โจวานนี่ ปาสกวาเล่, โกคาน อินเลอร์, เกตาโน่ ดากอสติโน่, ควัดโว่ อซาโมอาห์, ซิโมเน่ เปเป้, ฟาบิโอ กวายาเรลล่า, อเล็กซิส ซานเชซ
สำรอง : เอมานูเอเล่ เบลาร์ดี้, คริสเตียน โอโบโด้, เมาริซิโอ อิสล่า, นิกิ ซิมลิง, อเล็กซานเดอร์ ลูโควิช, อันโตนิโอ ฟลอโร่ ฟลอเรส, ลุยจิ ซาล่า
สรุปผลทุกคู่
ชัคเตอร์ โดเน็คส์ (ยูเครน) ชนะ มาร์กเซย (ฝรั่งเศส) 2-0
ฮัมบูร์ก (เยอรมัน) ชนะ แมนฯ ซิตี้ (อังกฤษ) 3-1
ปารีส แซงต์ แชร์กแมง (ฝรั่งเศส) เสมอ ดินาโม เคียฟ (ยูเครน) 0-0
แวร์เดอร์ เบรเมน (เยอรมัน) ชนะ อูดิเนเซ่ (อิตาลี) 3-1
ภาพข่าวจาก http://sports.yahoo.com