
ที่สนามธันเดอร์โดม เมืองทองธานี นักเตะ กิเลนคู่ เมืองทองฯยูไนเต็ด เปิดบ้านรับการมาเยือนของทีมแชมป์เก่า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โดยครึ่งแรกทีมเมืองทองฯเป็นฝ่ายต่อบอลลุยบุกเข้าใส่ไฟฟ้าอย่างหนัก ขณะที่ทีมจอมช็อตอาศัยจังหวะโต้กลับเร็วสร้างความหวาดเสียวเป็นระยะ และในช่วงทดเจ็บ นาทีที่ 46 ทีมกิเลนคู่เจ้าถิ่น ก็มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากการซัลโวสุดสวยของ เจ้ามุ้ย ธีรศิลป์ แดงดา หัวหอกดาวรุ่งทีมชาติไทย ครึ่งหลังทั้งสองทีมเปิดเกมแลกแข้งกันอย่างดุเดือด และมีการกระทบกระทั่งจนผู้ตัดสินต้องชักใบเหลืองออกมาปราม
กระทั่งนาทีที่ 67 ทั้ง 2 ทีม ต่างเหลือผู้เล่น 10 คน ในสนาม เมื่อ วิศรุต พันนาสี กองหลังเมืองทองฯ ไปเตะใส่ ศัตรูพ่าย ศรีณรงค์ หัวหอกการไฟฟ้าฯทางด้านหลังอย่างจัง จนศัตรูพ่ายฉุนจัด หันมาผลักอก นักเตะรุ่นน้องด้วยความโมโห และนักบอลทั้งสองทีมก็หวิดจะมีเรื่องกัน ผู้ตัดสินจึงตัดสินใจชูใบแดงไล่ทั้ง ศัตรูพ่ายและวิศรุต ไปสงบสติอารมณ์นอกสนาม ท่ามกลางเสียงตะโกนโห่ฮาของกองเชียร์บนอัฒจันทร์ที่ฮึ่มฮั่มเข้า ใส่กันตลอดเวลา
ช่วงเวลาที่เหลือ การไฟฟ้าเปลี่ยนเอา ลำเนา สิงโต ศูนย์หน้าทีมชาติลาวลงมาเสริมความคม ขณะที่เมืองทองฯ ทิ้ง เมนนี มุสตาฟา กองหน้าไอวอรีโคสต์ ลงมากดดันผู้มาเยือน แต่สุดท้ายทั้งคู่ทำอะไรกันไม่ได้ หมดเวลา เมืองทองฯยูไนเต็ด ที่เสมอติดต่อกันมาแล้ว 3 นัดรวด พบชัยชนะเกมแรกในรอบ 4 นัด เหนือแชมป์เก่า ด้วยสกอร์ 1-0 บวกเพิ่มเป็น 12 แต้มขยับขึ้นมาอยู่ที่ 3 ของตาราง
ส่วนที่สนามสิรินธร อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เป็นศึกดาร์บี้แมตช์เมืองชล ซึ่งทีม มัจฉาน้ำเงิน ศรีราชา เอฟซีเล่นนัดเหย้า พบกับทีมพี่ ชลบุรี เอฟซี ซึ่งเกมนี้จบลงด้วยชัยชนะของทีมเยือน ฉลามชล หวุดหวิด 1-0 โดยได้ประตูชัยจากการโขกของ เจ้าคาร์ เกียรติประวุฒิ สายแวว ปราการหลังทีมชาติไทย ตั้งแต่ครึ่งแรก นาที ที่ 14
ซึ่งเกมในครึ่งหลังดุเดือด มีนักเตะโดนไล่ออกถึง 3 คน ไล่ตั้งแต่โคเน โมฮัมเหม็ด หัวหอกชลบุรี ที่โดน 2 เหลือง นาทีที่ 75 ตามมาด้วยอำไพ มุทาพร ของศรีราชา นาทีที่ 86 และมากิ ดรีมมี นาทีที่ 89 ทำให้ชลบุรีทำแต้มขึ้นมาเท่ากับจ่าฝูง บางกอกกล๊าส เอฟซี ที่ 13 คะแนน แต่ประตูได้เสียยังเป็นรอง จึงรั้งอยู่อันดับ 2
ที่สนามจุฬาฯ หญ้าเทียม แข้ง ตราพระเกี้ยว จุฬา ยูไนเต็ด แพ้คาบ้านตัวเองให้กับนครปฐม เอฟซี ผู้มาเยือน 1-3 โดยทีมเมืององค์พระได้ประตูจากเอกภูมิ โพธารุ่งโรจน์ นาทีที่ 38 วิมล จันทร์คำ นาทีที่ 46 และ ไมเคิล เบิร์นส์ นักเตะชาวเวลส์ นาทีที่ 80
ส่วนจุฬาฯตีไข่แตกได้จากกิตติภูมิ ปาภูงา นาทีที่ 86 ซึ่งเป็นการปราชัยนัดที่ 5 จาก 6 นัด เข้าให้แล้วสำหรับทีมจุฬาฯ ทำให้ สถานการณ์ของพวกเขายังคงจมบ๊วยอยู่ก้นตารางต่อไป และที่สนามกีฬากลาง จ.ระยอง ทีมตะหานน้ำ ราชนาวี ระยอง ยันเสมอบีอีซี เทโรศาสน ผู้มาเยือน ที่ ชนะต่อเนื่องมาแล้ว 3 แมตช์รวด แบบไร้สกอร์ 0-0 แบ่งกันไปทีมละแต้ม
ข้อมูลและภาพประกอบ เครดิตจาก : ไทยรัฐ