
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันอาทิตย์ที่ 17 พฤษภาคม 2552
เวสต์บรอมวิช 0-2 ลิเวอร์พูล
ประตู : 0-1 เจอร์ราร์ด น.28,0-2 เคาท์ น.63
ไฮไลท์การทำประตูในเกมนี้
ครึ่งแรก
เริ่มเกมมา เป็นเจ้าถิ่น ที่บุกกดดันก่อน จนเกือบจะได้ประตูออกนำ ในนาทีที่ 4 จากจังหวะลูกเตะมุมนเข้ามา และโจนาธาน กรีนนิง ได้โอกาสซัดเหน่งๆ ข้างเสาประตู แต่ โฮเซ เรนา ยังใช้ขาเซฟออกมาได้
หลังจากเกมผ่านมา 10 นาที ลิเวอร์พูลยังตั้งเกมของตัวเองไม่ได้ และก็เป็น เวสต์บรอม ที่เป็นฝ่ายครองบอลและเดินบุกได้มากกว่า เข้าสู่นาทีที่ 22 อาจจะเป็นโอกาสแรกที่จะแจ้งของ ลิเวอร์พูล ก็ว่า ได้จากการยิงของ เฟอร์นานโด ตอเรซ ที่บอลไหลมาหาตรงข้างเสา ได้ซัดเต็ม แต่ ดีน ไคลี ยังเซฟออกมาได้ ก่อนที่ ลิเวอร์พูล จะได้จังหวะเตะมุมเปิดเข้ามา แต่ก็ไม่มีอะไร
ในนาทีที่ 25 กรีนนิง รับใบเหลืองเป็นคนแรกของเกม จากจังหวะทำฟาวล์ ลูคัส เลวา และทีม "หงส์แดง" จะฟรีคิกเปิดยาวกว่าครึ่งสนามขึ้น ก่อนที่บอลสุดท้ายจะไปตกที่ ตอร์เรส ได้โอกาสพลิกตัวตวัดยิงบอลจากนอกกรอบเขตโทษ แต่บอลเหินลอยไปไกล
และจากจังหวะพลาดของ เวสต์บรอมวิช ก็ทำให้ ลิเวอร์พูล ได้ประตูออกนำ 1-0 จนได้ จังหวะที่ สตีเวน เจอร์ราร์ด แย่งบอลมาจาก เชลตัน มาร์ติน โต้สวนกลับขึ้นมาจากกลางสนาม ก่อนที่จะชิปบอลด้วยขวา บอลผ่านตัว ไคลี เข้าประตูไปอย่างง่ายดาย ในนาทีที่ 29 สตีเวน เจอร์ราร์ด รับบอลมาจาก เดิร์ค เค้าท์ ก่อนที่จะได้ลองซัดไกล ในนาทีที่ 34 แต่บอลถาดเสาออกไปนิดเดียว
เข้าสู่ช่วง 5 นาทีสุดท้าย ลิเวอร์พูล ได้จังหวะเตะมุมสั้น ก่อนที่ เจอร์ราร์ด จะวางบอลยาวเข้ากลางมาให้ ตอร์เรส โหม่งเสยจากกลางประตู บอลเกือบจะหมุดลงใต้คานอยู่แล้ว แต่ ไคลี ยังไหวกระโดด ใช้ปลายมือปัดบอลออกมาได้อย่างหวุดหวิด ผู้เล่นเจ้า ถิ่น มาได้ใบเหลืองที่ 2 จากการที่ โยนาส โอลส์สัน ไปทำฟาวล์ ตอร์เรส ในนาทีที่ 43 และ ลิเวอร์พูล ได้ยิงฟรีคิกระยะ 25 หลา และ ดาเนียล แอ็กเกอร์ วิ่งมาซัดด้วยซ้าย บอลพุ่งเรียดเข้ากรอบ และไคลี รับบอลกระเชาะออกมา เบนายูน วิ่งมายิงซ้ำ แต่ผู้ตัดสิน เป่าล้ำหน้าไปก่อน หลังจากนั้น ทำอะไรกันไม่ได้ จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล บุกมานำเจ้าถิ่น 1-0
ครึ่งหลัง
เกมทั้งสองทีมยังไม่ค่อยหาจังหวะสุดท้าย ปิดสกอร์ได้มากนัก และ ทีมเยือน ขยับเปลี่ยนตัวเป็นคนแรก ในนาทีที่ 49 โดนส่ง ชาบี อลอนโซ ลงมาเล่นแทน ฮาเวียร์ มาสเคราโน ที่มีอาการบาดเจ็บรบกวน
อย่างไรก็ตาม เจ้าถิ่น ก็ยังคงเป็นฝ่ายบุกเพื่อหวังทวงประตูคืนให้ได้ และ ฮวน คาร์ลอส เมเซเกซ ได้โอกาสยิงได้ด้วยขวา แต่ เรนา ยังรับติดมือ หลังจากนั้น ในนาที 54 นาที ลิเวอร์พูล ได้สวนบ้าง จากจังหวะแทงบอลทะลุกองหลัง และเป็น ตอร์เรส ที่วิ่งสอดขึ้นมา ก่อนที่จะได้จังหวะยิงด้วยขวา แต่บอลเบาไป ไคลี รับติดมือสบาย
ถัดมาอีก 2 นาที เจ้าถิ่น เปลี่ยนตัวบ้าง โดนส่ง บอร์ฆา บาเลโร ลงมาเล่นแทน เมติส เพื่อเดินเกมรุกเต็มตัว ในนาทีที่ 60 เจ้าถิ่น พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูเสมอ เมื่อ กรีนนิง ได้จังหวะแทงบอลทะลุ มาให้ เมเซเกซ ที่ตบเข้ากลางมา แต่ ฟอร์ตูเน ที่ยืนอยู่หน้าปากประตู โดน ลูคัส เลวา วิ่งมากระแทกไว้ก่อน เลยยิงไม่ได้ บอลผ่านตัวไปอย่างน่าเสียดาย
เมื่อทำไม่ได้ ก็เป็นทีม "หงส์แดง" ที่ได้ประตูออกนำไปเป็น 2-0 ในจังหวะชิลชิลที่ เจอร์ราร์ด แทงบอลต่อมาให้ เค้าท์ ใช้ความสามารถเฉพาะตัว ลากบอลเลี้ยงหลบกองหลังเจ้าถิ่นถึง 3 คน ก่อนที่จะแต่งเข้าข้อ ยิงประตูผ่านมือไคลี เข้าไปตุงตาข่ายได้สำเร็จ ในนาทีที่ 62
อีกเพียง 1 นาที ทีมเยือน เกือบได้โอกาสนำเป็น 3-0 จากจังหวะที่ เจอร์ราร์ด แทงบอลขึ้นมา และ เลวา วิ่งหลุดกับดักล้ำหน้า ได้ บอลล็อกหลบกองหลัง เวสต์บรอม ที่สไลด์เข้ามา ก่อนที่จะแปด้วยขวา แต่บอลถากเสาออกไปนิดเดียว มาในนาทีที่ 67 เจ้าถิ่น เปลี่ยนตัวอีกครั้ง โดยส่งแนวรุกลงมาเพิ่ม ด้วยการส่ง ลุค มัวร์ ลงมาเล่นแทน ยูฟซุส มูลัมบา ขณะที่ ลิเวอร์พูล ก็ถอด ตอร์เรส ออกไปพัก และส่ง ไรอัน บาเบล ลงมายืดเส้นยืนสาย
หลังจากนั้นในนาทีที่ 72 ลิเวอร์พูล ส่ง ดาวิด เอ็นก็อก ลงมาเล่นแทน เบนายูน และเริ่มผ่อนเกมมากขึ้น โดยปล่อยให้ เจ้าถิ่น เป็นฝ่ายพยายามครองบอลทำเกมขึ้นมา และในนาทีที่ 76 เวสต์บรอม น่าจะได้โอกาสตีไข่แตกอย่างยิ่ง เมื่อ ลุค มัวร์ ยิงไปชนเสาเต็มๆ ถัดมาอีกเพียง 3 นาที ฟอร์ตูเน ได้โอกาสยิงบอลเข้าไปตุงตาข่าย แต่ผู้ตัดสินเป่าล้ำหน้าไปก่อน
ในนาทีที่ 84 ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสที่จะนำห่างเป็น 3-0 อย่างน่าเสียดาย เมื่อเพื่อนเปิดบอลเข้ากลางมา เค้าท์ ปล่อยบอลลอดขา มาให้ บาเบล ที่ได้ยืนโล่ง แต่ยิงหลุดกรอบไปแบบไม่ได้ลุ้น หลังจากนั้น ทั้งสองฝ่าย ทำประตูเพิ่มกันไม่ได้ ลิเวอร์พูล บุกมาทุบ "เดอะแบ็กกีส์" ไปแบบเบาะๆ 2-0 ยึดตำแหน่งรองแชมป์ในฤดูกาลนี้ เป็นการปลอบใจ ไปได้อย่างแน่นอน เช่นเดียวกับ เวสต์บรอม ที่ตกชั้นไปเล่นในแชมเปียนส์ชิพในฤดูกาลหน้า
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
เวสต์บรอมวิช : ดีน ไคลี่,ไรอัน ดองค์,เชลตัน มาร์ติส(บาเลโร่ น.57),โจนาส โอล์สสัน,จิอันนี่ ซูเวอร์ลูน,โจนาธาน กรีนนิ่ง,ยอสซุฟ มูลัมบู(มัวร์ น.68),คริส บรันต์,โรเบิร์ต โคเรน,มาร์ค อันตวง ฟอร์จูน,ฆวน คาร์ลอส เมนเซเกซ
ลิเวอร์พูล : โฆ เซ่ เรน่า,อัลบาโร่ อาร์เบลัว,เจมี่ คาร์ราเกอร์,ดาเนี่ยล แอกเกอร์,เอมิเลียโน่ อินซัว,ฮาเวียร์ มาสเคราโน่(อลอนโซ่ น.51),ลูคัส เลว่า,สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด,เดิร์ก เคาท์,ยอสซี่ เบนายูน(เอ็นก็อก น.73),เฟร์นานโด ตอร์เรส(บาเบิ้ล น.68)