
ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้(31 พ.ค.) ที่สโมสรบางกอกกล๊าส (รังสิต คลอง 3) นายปวิณ ภิรมย์ภักดี ประธานสโมสรฟุตบอล บางกอกกล๊าส เอฟซี ทีมจ่าฝูงของศึกลูกหนังไทยพรีเมียร์ลีก 2009 ได้แถลงข่าวเปิดตัวกุนซือคนใหม่ เดอะง้วนสุรชัย จตุรภัทรพงศ์ ที่จะเข้ามาคุมทีมกระต่ายแก้วลุยแข้งล่าแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ต่อ จาก มร.ฮานส์ อาร์ เอ็มเซอร์ เฮดโค้ชชาวเยอรมัน ที่ขอถอยตัวเองลงไปทำหน้าที่ดูแลนักเตะเยาวชนของสโมสรตามเดิม
บิ๊ก น้อยชัยโชค พุ่มพวง อุปนายกอาวุโสสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในฐานะที่ปรึกษาใหญ่ทีมบางกอกกล๊าส กล่าวว่า สำหรับการเข้ามารับงานโค้ชใหญ่ของทีมกระต่ายแก้วของ เดอะง้วนในครั้งนี้ ตนเป็นผู้ดำเนินการเจรจาให้กับทางสโมสรทั้งหมด เพราะเห็นว่าสุรชัยหมดสัญญากับทีมโฮม ยูไนเต็ด พอดี และเขาก็อยากกลับบ้านมาทำทีมในเมืองไทย
ซึ่งในส่วนค่าตอบแทนนั้นยืนยันว่าบางกอกกล๊าสจ่ายให้มากกว่าที่สุรชัยรับที่ สิงคโปร์แน่นอน โดยล่าสุดโฮมจ่ายให้เขาเดือนละ 1.2 แสนบาทรวมทั้งสวัสดิการต่างๆก็เหนือกว่าที่แดนลอดช่อง ซึ่งทางเราจะเซ็นสัญญากับเดอะง้วนเป็นเวลา 3 ปีต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นมาตรฐานของฟุตบอลอาชีพเมืองไทย ที่ปรึกษาใหญ่ทีมกระต่าย แก้ว กล่าวอีกว่า สำหรับเป้าหมายในการดึงสุรชัยมาคุมทีมในครั้งนี้ ทางสโมสรเองไม่ได้ตั้งเป้าหรือกดดันการทำงานของเจ้าตัวแต่อย่างใด เพราะจุดมุุ่งหมายที่แแท้จริงของเราคือการยกระดับให้ฟุตบอลเมืองไทยก้าวไป สู่ความเป็นอาชีพอย่างเต็มตัว
โดย เดอะง้วนจะเข้ามาทำงานร่วมกับ คาร์ลอส โรเบอร์โต คาวัลโญ อดีตกุนซือทีมชาติไทยชาวบราซิล ที่ถูกแต่งตั้งให้ทำหน้าที่ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคของทางสโมสรขณะเดียวกันนอก จากภารกิจในการคุมทีมบางกอกกล๊าสลุยศึกไทยพรีเมียร์ลีกแล้ว สุรชัยยังต้องพาทีมไปเตะในรอบ 8 ทีมสุดท้ายของฟุตบอล สิงคโปร์คัพ 2009 ที่ประเทศสิงคโปร์ ในช่วงปลายเดือน ก.ย.นี้ ซึ่งทีมกระต่ายแก้ว โคจรเข้าไปพบกับสโมสร พนมเปญ เอ็มไพร์ แชมป์ของลีกประเทศเขมร โดยจะเตะกัน 2 นัด ในวันที่ 25 ก.ย.และ 1 ต.ค.
ส่วนอีกทีมตัวแทนประเทศไทย คือ ทีทีเอ็ม-สมุทรสาคร จะพบกับ ดีพีพีเอ็ม แชมป์ประเทศบรูไน ในวันที่ 28 ก.ย. และ 2 ต.ค. สำหรับประวัติของ เดอะง้วนสุรชัย จตุรภัทรพงศ์ อดีตมิดฟิลด์กัปตันทีมจอมทุ่มเทของทีมชาติไทย เกิดเมื่อวันที่ 21 พ.ย. 2512 เป็นชาวกรุงเทพมหานคร โดยกำเนิด ปัจจุบันอายุ 40 ปี สร้างชื่อจากการเป็นกองกลางจอมทัพของทีม แบงก์รวงข้าว ธนาคารกสิกรไทย ยุครุ่งเรืองที่ก้าวไปถึงขั้นเป็นแชมป์สโมสรเอเชีย จากนั้นย้ายมาอยู่ทีมตลาดหลักทรัพย์ ก่อนจะไปบินไปค้าแข้งในเอสลีกสิงคโปร์กับ กอมบัก ยูไนเต็ด และปิดฉากชีวิตนักฟุตบอลกับสโมสรโฮม ยูไนเต็ด
เมื่อปี 2005 ส่วน เกียรติประวัติในการรับใช้ทีมชาติไทย คือการคว้าแชมป์ไทเกอร์คัพ 3 สมัย เหรียญทองซีเกมส์ 4 สมัย และเคยได้รับตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยม เอ็มวีพีของเกมนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรเอเชีย เอเชียนคลับปี 1994 และเป็นนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของเอสลีกปี 2004 นอกจากนี้สุรชัยยังถือเป็นนักเตะคนแรกที่สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยจัดเกม เกียรติยศ เทสติโมเนียลแมตช์ อำลาสนามอย่างเป็นทางการให้อย่างยิ่งใหญ่ด้วย ด้าน"เดอะง้วนสุรชัย ยอมรับว่า รู้สึกกดดันไม่น้อยกับการเข้ามาคุมทีมบางกอกกล๊าส ที่กำลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม
แต่อย่างไรก็ตามตนจะนำประสบการณ์ ควมรู้ความสามารถทั้งหมดที่ไปผจญภัยอยู่ต่างแดนนำมาปรับใช้กับทีมกระต่าย แก้วอย่างเต็มที่ และเชื่อมั่นว่าเราจะประสบความสำเร็จได้ในท้ายที่สุด ต่อ ข้อถามที่ว่าหากทางสมาคมฟุตบอลฯทาบทามให้ไปช่วยเป็นสตาฟฟ์โค้ชของทีมชาติไทย จะตัดสินใจอย่างไร เจ้าตัวกล่าวว่าหากเป็นช่วงที่ว่างเว้นจากงานสโมสรก็อาจจะปลีกตัวไปช่วยทีม ชาติ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องได้รับไฟเขียวจากทางสโมสรบางกอกกล๊าสด้วย ว่าเหมาะสมหรือไม่
ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจาก
