
ศึกฟุตบอลคอนเฟดเดอเรชั่นส์ คัพ 2009 ที่ประเทศแอฟริกาใต้ ประจำวันพฤหัสบดีที่ 18 มิ.ย.นี้ เป็นการแข่งขันใน กลุ่มบี คู่แรก บราซิล แชมป์จากโซนละติน จะพบกับ สหรัฐอเมริกา แชมป์จากโซนคอนคาเคฟ เริ่มเตะกันในเวลา 21.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย ที่สนาม ลอฟตัส เวอร์สเฟลด์ สเตเดี้ยม เมือง ทีชวาน /เปรโตเรีย ส่วน คู่ที่สอง อิตาลี แชมป์โลก จะพบกับ อิยิปต์ แชมป์จากโซนแอฟริกา จะหวดกันในเวลา 01.30 น. ที่สนาม สนาม เอลลิส พาร์ค เมืองโยฮันเนสเบิร์ก
มาดูสภาพความพร้อมในคู่แรก บราซิล ของ คาร์ลอส ดุงกา ทีมอันดับ 2 ของกลุ่ม แม้จะคว้า 3 แต้มแรกได้สำเร็จ ในเกมเปิดสนาม แต่ก็ถือว่าฟอร์มการเล่นไม่ประทับใจเท่าใด กว่าจะเบียดเอาชนะ อียิปส์ แชมป์จาก ทวีปเอเชีย มาได้อย่างหืดจับ 4-3 จากลูกจุดโทษประตูชัยของ ริคาร์โด กาก้า เพลย์ เมกเกอร์ตัวใหม่ของ เรอัล มาดริด ทำให้ ดุงกา คงต้องมีการปรับทัพกันพอสมควร โดยเฉพาะแผงหลัง ที่หละหลวมเหลือเกิน แต่แนวรุก น่าจะยังคงใช้งาน กาก้า ประสานงานร่วมกับ โรบินโญ แข้งจาก แมนฯซิตี้ และ หลุยส์ ฟาเบียโน หอกจาก เซบียา เช่นเดิม
ทางด้าน สหรัฐอเมริกา ของกุนซือ บ๊อบ แบร๊ดลีย์ ต้อง รั้งบ๊วยของกลุ่ม หลัง เปิดฉากทัวร์นาเมนต์ด้วยความโชคร้าย ปราชัยให้กับ อิตาลี 3-1 โดยที่ต้องเหลือผู้เล่น 10 คนตั้งแต่ครึ่งแรก เนื่องจาก ริคาร์โด คลาร์ก มิดฟิลด์ตัวหลัก โดนใบแดงไล่ออก และส่งผลให้เขาต้องติดโทษแบน ชวดลงเล่นในการเจอกับทีมแชมป์โลก 5 สมัย ในวันนี้ ซึ่งคาดว่า เบนนี ไฟล์ฮาเบอร์ จะได้ลงเล่นแทน ขณะที่ เกมรุก ยังเป็นหน้าที่ของสตาร์กัปตันทีม แลนดอน โดโนแวน และ โจซี อัลติดอร์ หอกดาวรุ่งจาก บียาร์เรอัล
สำหรับ ทั้งสองทีม เคยพบกันมาทั้งหมด 13 ครั้ง โดยเป็น ขุนพล "แซมบ้า" ที่มีสถิติข่มมาโดยตลอด กวาดชัยชนะไปได้ 12 ครั้ง ซึ่รวมถึง การเล่นในศึกคอนเฟดเดอเรชั่น คัพ 2 ครั้ง ในปี 1999 และ 2003 ด้วย ซึ่ง บราซิล ชนะไปด้วยสกอร์ 1-0 ทั้งสองเกม ขณะที่ชัยชนะเพียงครั้งเดียวของ สหรัฐฯ ที่มีเหนือ ทีม "เซเลเซา" เกิดขึ้นในเกม คอนคาเคฟ โกลด์ คัพ ในปี 1998 โดยได้ประตูชัย 1-0 จาก เปรกี ซึ่งปัจจุบัน เป็นโค้ชให้กับสโมสร ชีวาส ทีมดังในเม็กซิโก
ส่วนคู่ที่ 2 ขุนพล "อัซซูรี่" ของ มาร์เชลโล ลิปปี กุนซือมาดมาเฟีย จ่าฝูงของกลุ่มในตอนนี้ เก็บ 3 แต้มได้ตามเป้า หลัง จูเซปเป รอสซี กอง หน้าดาวรุ่ง ลงมาเป็นซุปเปอร์ซัพ เหมาสองประตู ช่วยให้ทีมพลิกแซงเอาชนะจากการโดนนำไปก่อนในครึ่งแรก 1-0 ก่อนที่จะปิดเกม คว้าชัยมาครอง ได้สำเร็จ 3-1 โดยเกมนี้ อิตาลี น่าจะมีการปรับทัพ ในแผงหลังเล็กน้อย หลังจากได้ ฟาบิโอ คันนาวาโร เซน เตอร์ฮาล์ฟกัปตันทีมจาก เรอัล มาดริด หายเจ็บฟิตกลับมาพร้อมยืนคุมเกมรับได้อีกครั้ง ส่วน แดนหน้า อาจเปิดโอกาสให้ รอสซี ได้ออกสตาร์ทตั้งแต่ต้นเกม
ด้านทีมชาติอียิปส์ ของ ฮัสซัน เชฮาตา ทีมอันดับ 3 ของกลุ่ม จะต้องปราศจาก อาเหม็ด อัล มูฮามาดี ที่โดนใบแดงไล่ออกในนัดแรก แต่ไม่น่าเป็นปัญหานัก โดยคาดว่าจะยังคงยึดผู้เล่นแกนหลักชุดเดิมต่อไป เนื่องจาก ทำผลงานดี ในเกมแพ้ บราซิล แบบน่าประทับใจ โดยเฉพาะเกมรุก ยังเป็นหน้าที่ของ โมฮัมเหม็ด อบูตริกา กับ อาเหม็ด ฮัสซัน ที่จะสนับสนุนเกมบุกอยู่ข้างหลัง โมฮาเหม็ด ซีดาน ที่ยืนเป็นหัวหอกตัวเดียว
ทางด้านสถิติการพบกันของทั้งสองทีมนั้น ทั้งคู่เคยปะทะกันเพียง 2 ครั้ง ในทีมชุดใหญ่ ซึ่งต้องย้อนไปถึงปี 1954 โดยเป็นเกมฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซน ยุโรป ซึ่งขณะนั้น อียิปส์ ยังไม่ย้ายมาสังกัดในทวีปแอฟริกา และก็เป็นพลพรรคจากแดนมักกะโร ที่คว้าชัยมาครองได้ทั้งหมด นอกจากนี้ ในปี 1987 ทั้งสองทีมยังเคยเจอกันในศึกฟุตบอลโลก รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี และก็เป็น อิตาลีี ที่คว้าชัยได้เช่นเดิม
ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจาก