
ความเคลื่อนไหวของไอ้หนูนักเตะเยาวชนทีมชาติไทย ชุดอายุ 12 ปี ที่เดินทางมาทำศึกลูกหนัง ไซตามะ อินเตอร์ เนชั่นแนล จูเนียร์ ฟุตบอลทัวร์นาเมนต์ ไซตะมะ คัพ 2009 อยู่ที่เมืองไซตะมะ ประเทศญี่ปุ่น ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 ก.ค. ที่ผ่านมา นักเตะไทย ลงสนามฟาดแข้งในรอบชิงชนะเลิศ ที่สนามไซตามะ เวิลด์คัพ สเตเดียม พบกับ ทีมโตเกีย ทีมเต็ง 1 ของรายการนี้ ท่ามกลางกองเชียร์เจ้าถิ่นกว่าพันคนโดยผลงานก่อนหน้านี้ ทีมเยาวชนไทย 2 นัดในรอบแรก ประเดิมสนามชนะ คูมาโมโตะ 3-0 ,นัดสอง ชนะ คาวากูชิ 2-0 ,รอบ 8 ทีมสุดท้าย เอาชนะ โอกินาวา 1-0 และรอบตัดเชือก เฉือนชนะ ไอจิ 1-0 ส่วน โตเกียว นั้น 2 นัดรอบแรก เป็นที่ 1 สาย อี นัดแรก ชนะ อิบารากิ 3-0 ,นัดสอง ชนะ ไซตะมะ เวสต์ 3-0 , รอบก่อนรอง ฯ ชนะ ซากะ 3-0 , รอบรองฯ ชนะ ไซตะมะ ซิตี้ เซาต์ 2-0สำหรับทีมไทยเอง ครั้งนี้เป็นการเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศเป็นครั้งที่ 2 ในรายการนี้ซึ่งจัดมา 7 ครั้ง
ซึ่ง 11 คนแรกของทีมไทย ที่ลงสนามในรอบชิงชนะเลิศ ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู ณัฐสูต บุญส่งสุข กองหลัง 4 คน แบ็คซ้าย ภูษิต ศรีดอกพุฒ แบคขวา เต็มติวิทย์ ชิตกุล คู่เซนเตอร์ฮาฟ ปวริศ ยงค์ตระกูล , ชาติชาย แสงดาว ,กองกลาง 4 รายปีกซ้าย, สรวิทย์ พานทอง ปีกขวา ปวเรศ อาจวิบูลย์พร , มิดฟิลด์คู่กลาง ศิวกร แสงวงศ์, ชนน ลีลานุเกษมพงศ์ , กองหน้าคู่เป็น พีรณัฐ ซื่อมาก กับ สรรเสริญ ลิ้มวัฒนะผลปรากฎว่า ในเวลาปกติ 40 นาที (ครึ่งละ 20นาที) และ ต่อเวลาพิเศษอีก 10 นาที (ครึ่งละ 5 นาที) ทั้ง 2 ทีมยังยิงกันไม่ได้ เสมอกัน 0-0 ทั้งๆที่เด็กไทยครองบอลได้น้อยกว่าทีมโตเกียว ทำให้ต้องตัดสินด้วยการดวลลูกโทษที่จุดโทษ และก็เป็นเด็กไทยที่ยิงแม่นกว่าเอาชนะไปได้อย่างหวุดหวิด 4-3 ส่งผลให้ทีมไทยสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์รายการนี้มาครองเป็นครั้งแรกได้สำเร็จ นอกจากนี้ สรรเสริญ บารมี กองหน้าของทีมยังได้รับรางวัลนักเตะทรงคุณค่าประจำทัวร์นาเมนต์ไปด้วย
ซึ่งบรรยากาศหลังเกมเป็นไปอย่างชื่นมื่นสำหรับทีมยช. 12 ปีไทยที่เฮฮากันสุดเหวี่ยง ผิดกับทีมยช. 12 ปีโตเกียวที่ซึมเศร้านักเตะทั้งทีมถึงกับแสดงความผิดหวังด้วยการหลั่งน้ำตาออกมาอย่างไม่อายใคร
หลังจบเกม เสี่ยชาติ ศุภชาติ อาจวิบูลย์พร ผจก.ทีมกล่าวว่า ถือว่าเราทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ เพราะตั้งแต่เริ่มเตรียมทีมไล่มาตั้งแต่คัดเลือกตัวเริ่มฝึกซ้อมนั้นเป้าหมายของผมที่เพิ่งเข้ามาช่วยเหลืองานให้กับสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยในฐานะของผจก.ทีมยช. 12-14 ปีนั้นคือต้องการคว้าแชมป์รายการนี้ให้เป็นประวัติศาสตร์ให้ได้ซึ่งทุกคนก็ช่วยกันทำงานจนลุล่วงไปด้วยดี สำหรับตนเองพร้อมจะช่วยเหลืองานในฐานะผจก.ทีมระดับรุ่นอายุ 12-14 ปีให้กับสมาคมฟุตบอลฯต่อไป และเชื่อว่าเด็กชุดนี้หลายๆคนอนาคตจะได้ติดทีมรุ่นอายุที่สูงไปกว่านี้ได้อย่างแน่นอน
ด้าน โค้ชต้อม ณรงค์ สุวรรณโชติ กล่าวว่า า จริงแล้วเกมวันนี้เด็กเราเล่นกันได้ไม่ดีเลย แต่ก็ต้องชมเด็กทุกคนที่ช่วยกันทำหน้าที่ของตัวเองป้องกันไม่ให้เสียประตูจนถึงช่วงต่อเวลาพิเศษและเอาชนะจุดโทษได้ ก็รู้สึกดีใจมาเพราะมาครั้งนี้หวังแชมป์สำหรับการได้รับโอกาสทำทีมชาติไทยครั้งแรกของตน แม้จะเป็นการเริ่มต้นที่ระดับเยาวชนก็ตาม
สรุปผลงานของทีมยช. 12 ปีที่ได้แชมป์สมัยแรกรายการ ไซตะมะ คัพ 2009 ครั้งนี้ลงเตะทั้งหมด 5 เกมชนะรวด และไม่เเสียประตูให้ทีมใดเลย โดย รอบแรก นัดแรก ชนะ คูมาโมโตะ 3-0 ,นัดสอง ชนะ คาวากูชิ 2-0 ,รอบก่อนรอง ฯ ชนะ โอกินาว่า 1-0 , รอบรองฯ ชนะ ไอจิ 1-0 และ รอบชิงชนะดวลจุดโทษโตเกียวสกอร์รวม 4-3 หลังเสมอในช่วงต่อเวลา 0-0
อนึ่งทีมยช. 12 ปีไทยมีกำหนดเดินทางกลับถึงไทยด้วยสายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ ในวันจันทร์ที่ 27 ก.ค.นี้ ด้วยเที่ยวบินที่ ยูเอ 891 ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลาประมาณ 23.15 น.
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
