ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทีม "เสือสามย่าน" จุฬา ยูไนเต็ด กลับทำได้แค่เพียงเสมอ สมุทรสงคราม ในบ้านตัวเองแบบไร้สกอร์ 0-0 ทำให้ทีมยังจมบ๊วยอยู่ก้นตารางต่อไป โดยล่าสุดทางรองประธานสโมสรจุฬา นายพันธ์เลิศ ใบหยก เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า ตนไม่ค่อยพอใจกับผลเสมอเมื่อวันเสาร์ เพราะเวลานี้ทีมเรามีขุมกำลังนักเตะที่ไม่เป็นรองสโมสรใดในไทยลีก ไม่ว่าจะเป็นการดึงตัว 2 แข้งบราซิล อย่าง เรจินัลโด กับ เนโต้ มาผนึกกำลังกับ อาริน ซิลวา
นอกจากนี้ กองหน้าตัวเก่ง อย่าง สมปอง สอเหลบ ก็หายเจ็บกลับมายืนประจำการในแดนหน้าได้เหมือนเดิม ดังนั้นเราควรจะเปิดเกมบุกแลกกับคู่ต่อสู้ได้แล้ว ไม่ใช่เน้นเกมตั้งรับแล้วสวนกลับเหมือนเลกแรกที่ผ่านมา ซึ่งตรงนี้ตนได้จับเข่าคุยกับ โจเซ่ แฟไรร่า กุนซือชาวแซมบ้าไปบ้างแล้ว
" ตอนนี้ผู้ใหญ่ในสโมสรทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้ทีมจุฬารอดพ้นตกชั้นให้ ได้ เรียกว่าเราเสริมทัพให้ทุกอย่างตมที่โค้ชต้องการ แต่ดูเหมือนเกมแรกกับสมุทรสงครามฟอร์มของทีมจะยังไม่ได้ดังใจ โค้ชโจเซ่เน้นเกมตั้งรับมากเกินไปจนน่าอึดอัด ต้องบอกว่าฟุตบอลสมัยใหม่ถ้าคุณเน้นตั้งรับก็เท่ากับรอเขามายิงประตูผลออกมา ก็คงได้แค่เสมอหรือแพ้เท่านั้น ตรงนี้ผมอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงของรูปแบบการเล่นใหม่ที่จะทำให้เราเก็บ 3 แต้มได้มากขึ้น ไม่ใช่เจอทีมใหญ่ก็เล่นอย่างนี้ ทีมเล็กก็แบบนี้ แล้วจะไปได้เรื่องอะไร อย่างนี้โทษคงนักบอลไม่ได้แล้ว ต้องยกความผิดให้กับโค้ชไปเต็มๆ" เสี่ยแดงกล่าวอย่างอึดอัด
รอง ประธานสโมสรเสือสามย่าน กล่าวต่อว่า สำหรับโค้ชโจเซ่ตนให้โอกาสเขาอีก 3 นัดนับจากนี้ หากจุฬายังชนะคู่ต่อสู้ไม่ได้ บางทีตนอาจต้องพิจาณาปลดเขาออกจากตำแหน่งแล้วหากุนซือคนใหม่เข้ามาแทน เพราะศักดิ์ศรีของทีมจุฬาแล้วเราต้องสู้เต็มที่เพื่อหนีการตกชั้นให้ได้ โดยทาง ดร.อดิศัย โพธารามิก ประธานสโมสรก็หนุนหลังนักเตะทุกคนอย่างเต็มร้อย ด้วยการประกาศอัดฉีดมาแล้ว 10 ล้านบาท หากเราหนีโซนอันตรายได้สำเร็จ ส่วนตำแหน่งผู้จัดการทีม "บิ๊กหอย" ธวัชชัย สัจจกุล ยังคงมีชื่อทำหน้าที่อยู่ แต่บทบาทอาจจะน้อยลงไปเพราะเจ้าตัวมีปัญหาเรื่องสุขภาพทำให้มาคุมทีมข้าง สนามได้ไม่บ่อยเหมือนก่อน ขณะเดียวกันตนก็ได้ดึงศิษย์เก่าจุฬาฯ
"หมอ เมา" ทพ.พิชัย ปิตุวงศ์ เข้ามาช่วยเป็นที่ปรึกษาใหญ่ด้านเทคนิคของทีมด้วย เช่นเดียวกับเร่ื่องของแฟนคลับสโมสรตนก็ให้น้องๆนิสิตคณะนิเทศศาสตร์ มาช่วยเป็นแกนนำ โดยดึงทั้งศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันของมหาวิทยาลัยมาเป็นแนวร่วม ภายใต้ชื่อกองเชียร์ "พิงค์แพนเตอร์" ซึ่งตอนนี้มีสมาชิกประมาณพันกว่าคนแล้ว และคาดว่าน่าจะมากขึ้นเรื่อยๆเพราะเรารณรงค์กันอย่างจริงจัง โดยได้แฟนบอลในแถบสามย่านมาแจมด้วย
