สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ประกาศถึงแฟนบอลที่จะเดินทางไปชมเกม ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 ที่ ทีมชาติไทย จะเปิดบ้านพบ อิรัก วันอังคารที่ 8 กันยายน นี้ ห้ามนำพลุหรือดอกไม้ไฟเข้าสนามโดยเด็ดขาด หากฝ่าฝืนนอกจากจะโดนห้ามเข้าชมและจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยมีบทลงโทษทั้งจำคุกและปรับเงิน
จากกรณีเหตุการณ์กองเชียร์ไทยก่อเหตุวุ่นวายที่สนามกีฬาแห่งชาติลาว ในระหว่างเกมชิงชนะเลิศ ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียนชุดอายุต่ำกว่า 19 ปี "เอเอฟเอฟ ยู-19 แชมเปี้ยนชิพ 2015" ระหว่างทีมชาติไทยพบเวียดนาม เมื่อช่วงค่ำวันศุกร์ที่ 4 กันยายน 2558 จนกลายเป็นประเด็นใหญ่ที่แฟนบอลทั่วอาเซียนพูดถึงกัน โดยเฉพาะในประเทศไทยเองที่มีแฟนบอลจำนวนมากไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว (อ่านข่าว ฉาวอีก ! รวบ 25 กองเชียร์ไทย ก่อเหตุวุ่นวาย งัดข้อตำรวจลาวจุดพลุฉลองในสนาม)
ล่าสุด นรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ ประธานฝ่ายกฏหมายสมาคมฟุตบอลไทย ได้เตือนแฟนบอลที่เดินทางไปเดินไปชมเกม ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก ระหว่างไทยกับอิรักที่ราชมังคลากีฬาสถาน ว่าฝ่ายจัดการแข่งขันและเจ้าหน้าที่ จะใช้มาตรการเข้มงวดสูงสุด ในการตรวจสอบไม่ให้มีใครนำพลุหรือดอกไม้ไฟเข้าสู่สนาม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยอีก
แฟนบอลทุกคนคงต้องมีภารกิจร่วมกันในการกอบกู้ภาพลักษณ์ของกองเชียร์ชาวไทยกลับมา
นาย นรินท์พงศ์ กล่าวว่า "ฝ่ายจัดการแข่งขันขอแจ้งให้ทราบว่า กรุณาอย่านำพลุ หรือ ดอกไม้ไฟ เข้าไปในสนามเด็ดขาดหากค้นพบว่าใครมีพลุ หรือ ดอกไม้ไฟจะถูกห้ามเข้าสนาม หรือหากมีใครแอบลักลอบเอาเข้าไปได้ และมีการจุดพลุขึ้นมา ก็จะถูกดำเนินคดีตามกฏหมาย พ.ร.บ.วัตถุระเบิด ซึ่งมีโทษทั้งจำคุกและปรับ"
"เราอยากขอความร่วมมือแฟนบอลทุกท่านด้วยว่าอย่านำพลุเข้าไปในสนามเลย เพราะมันผิดกฏหมายและอาจเกิดอันตรายแก่ผู้อื่นได้ ที่ผ่านมาเรายังอนุโลมให้ยังไม่ดำเนินคดีอย่างจริงจัง แต่หลังจากนี้ไปหากมีการกระทำผิดขึ้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวไปดำเนินคดีได้เลย เช่นเดียวกับที่ประเทศลาว เขาก็มีกฏหมายแบบนี้เช่นกัน ขอให้เชียร์บอลกันให้สนุก อย่างสบายใจ และปลอดภัยดีกว่าครับ" นายนรินท์พงศ์ กล่าว
เกาะติดข่าว กองเชียร์ไทย ทั้งหมด
ภาพ AFP