ยูโร 2016 : เยอรมนี 7-6 อิตาลี (จุดโทษ)
เยอรมนี เข้ารอบรองชนะเลิศฟุตบอลยูโร 2016 เป็นผลสำเร็จ หลังจากเอาชนะ อิตาลี ไปได้ในการดวลลูกจุดโทษชี้ขาด
เยอรมนี พกพาสถิติไม่เคยเอาชนะ อิตาลี ได้เลยสักครั้งเดียวในการแข่งขันระดับเมเจอร์ ซึ่งในเกมนี้ทั้งสองทีมต่างก็เลือกผู้เล่นลงสนามแบบเต็มสูบเลยทีเดียว และเกมในครึ่งแรกก็ยังดูเล่นกันกล้าๆ กลัวๆ ก่อนที่ในครึ่งหลัง เยอรมนี จะมาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จาก เมซุต โอซิล ทว่าอิตาลีก็มาได้ประตูตีเสมอเป็น 1-1 จากลูกจุดโทษของ เลโอนาร์โด โบนุชชี่ หมดเวลา 90 นาทีเสมอกัน 1-1 และต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาที แต่ก็ยังไม่มีฝ่ายไหนทำประตูเพิ่มได้จึงต้องชี้ขาดด้วยการดวลจุดโทษ
แน่นอนว่าเป็น เยอรมนี ที่ยิงแม่นกว่า อิตาลี ด้วยสกอร์ 6-5 พร้อมผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ
เยอรมนี ไม่มีปัญหาเรื่องนักเตะติดโทษแบน , ผู้รักษาประตู มานูเอล นอยเออร์, คู่เซนเตอร์ฮาล์ฟ เฌอโรม บัวเต็ง กับ มัตส์ ฮุมเมิ่ลส์ , แบ็คซ้าย โยนาส เฮ็คเตอร์, แบ็คขวา โยชัว คิมมิช, แผงกองกลาง ซามี เคดิร่า, โทนี่ โครส, โธมัส มุลเลออร์, เมซุต โอซิล , ยูเลียน ดรักซ์เลอร์, หน้าเป้า มาริโอ โกเมซ
อิตาลี จะไม่มี อันโตนิโอ คันเดรว่า ที่ยังมีอาการบาดเจ็บ และติอาโก้ ม็อตต้า ที่ติดโทษแบนหลังสะสมใบเหลืองครบกำหนด รวมถึงรอเช็กฟิตของ ดานิเอเล่ เด รอสซี่, ผู้รักษาประตู จาน ลุยจิ บุฟฟ่อน, สามปราการหลัง อันเดรีย บาร์ซายี่, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่, จอร์โจ้ คิเอลลินี่, วิงแบ็กสองฝั่ง อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่ กับ มัตเตีย เด ชีโย่, แผงกองกลาง มาร์โก ปาโรโล่, ดานิเอเล่ เด รอสซี่ หรือ สเตฟาโน่ สตูราโร่, เอมานูเอเล่ จัคเครินี่, คู่ศูนย์หน้า กราเซียโน่ เปลเล่ กับ เอแดร์
ที่สนาม สต๊าด เดอ บอร์กโดซ์ เยอรมัน นัดล่าสุดปราบ สโลวาเกีย มาได้อย่าไม่ยากเย็น 4 นัดหลังชนะ 3 เสมอ 1 เตรียมส่งผู้เล่นชุดที่ลงตัวเหมือนนัดที่ผ่านมา ผู้เล่นฟิตพร้อมทุกตำแหน่ง ด้าน อิตาลี ที่พึ่งโค่น สเปน ผ่านเข้ามาสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ 4 นัดหลังสุด ชนะ 3 แพ้ 1 เกมรับเหนียวแน่น แต่ทีมยังต้องรอเช็กคีย์แมนในแดนกลางถึงวินาทีสุดท้าย จัดผู้เล่นที่ดีที่สุดลงสนาม มองแล้วเกมนี้สูสี ทั้งสองทีมต่างก็อยู่ในฟอร์มที่ยอดเยี่ยม แต่ยังเชื่อว่า อิตาลี จะมีดีพอที่จะผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ