วันที่ | รายการ | ทีม | VS | ทีม |
---|---|---|---|---|
9 พ.ย. 67 | ลา ลีกา สเปน | เรอัล มาดริด | 4 - 0 | โอซาซูน่า |
6 พ.ย. 67 | ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก | เรอัล มาดริด | 1 - 3 | มิลาน |
3 พ.ย. 67 | ลา ลีกา สเปน | บาเลนเซีย | 0 - 0 | เรอัล มาดริด |
27 ต.ค. 67 | ลา ลีกา สเปน | เรอัล มาดริด | 0 - 4 | บาร์เซโลน่า |
23 ต.ค. 67 | ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก | เรอัล มาดริด | 5 - 2 | ดอร์ทมุนด์ |
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยิงแฮตทริกให้ เรอัล มาดริด แซงเอาชนะ บาเยิร์น มิวนิค ในช่วงต่อเวลาพิเศษ รวม 2 นัด ราชันชุดขาว เป็นฝ่ายเข้ารอบด้วยสกอร์ 6-3 ในแบบที่น่าจะมีประเด็นถกเถียงกันมากมายหลังจบเกม
บาเยิร์น ที่ต้องการสองประตูเป็นอย่างน้อยเป็นฝ่ายขึ้นนำก่อนจากจุดโทษของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ในนาที 53 และหลังจากนั้น ดูเหมือน เสือใต้ จะเป็นฝ่ายทำเกมได้เหนือกว่าเจ้าบ้าน
อย่างไรก็ตาม นาที 76 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ มาโขกทำประตูตีเสมอให้ เรอัล มาดริด กลับมาอยู่ในสถานการณ์ที่ดีอีกครั้ง แต่แค่ 36 วินาทีถัดมาก การทำเข้าประตูตัวเองของ เซร์คิโอ รามอส ก็ทำให้สกอร์สองนัดตอนนี้กลับมาเท่ากันทั้งสองทีมที่ 2-1
แต่จุดเปลี่ยนของเกมก็มาเกิดขึ้นอีก จากการที่ อาร์ตูโร่ วิดัล โดนใบเหลืองที่ 2 ในจังหวะทำฟาวล์ที่ดูจากภาพช้าค่อนข้างชัดเจนว่าเป็นการเข้าสกัดที่ไม่ได้ผิดกติกา
จบ 90 นาที ต้องมาเล่นกันต่อในช่วงต่อเวลาพิเศษ และเป็น โรนัลโด้ ที่ได้จังหวะหวดเต็ม ๆ เข้าไปตุงตาข่ายให้ เรอัล มาดริด ตามตีเสมอ บาเยิร์น ในเกมนี้ 2-2 ซึ่งดูจากภาพช้านี่ก็เป็นการยืนในตำแหน่งล้ำหน้า
จากนั้น บาเยิร์น ที่เหลือแค่ 10 คนไม่เหลือพลังพอจะไล่ทำประตูคืนได้ และ มาดริด ก็มาได้อีก 2 ประตูในช่วงท้ายเกมจาก โรนัลโด้ และ มาร์โก้ อาเซนซิโอ ตัวสำรอง