เร้ดดิ้ง หมดสิทธิ์ใช้ คัลลั่ม แฮร์ริออตต์ กับ ซานโดร วีเซอร์ ที่ยังเจ็บอยู่ ในรายของ พอล แม็คเชน ติดโทษแบน, นายด่านชาวโอมาน อาลี อัล ฮับซี่, เซนเตอร์ฮาล์ฟคู่ ไทเลอร์ แบล็คเก็ตต์ กับ เลียม มัวร์, แบ็คซ้าย จอร์แดน โอบิต้า, แบ็คขวา คริส กันเทอร์, แดนกลาง จอร์จ อีแวนส์, แดเนี่ยล วิลเลี่ยมส์, การาธ แม็คเคลียรี่, จอห์น สวิฟท์, รอย บีเรนส์, หน้าเป้า ยันน์ แกร์กมอร์กก็องต์
ฟูแล่ม ชวดใช้ ไมเคิ่ล มาเดิ้ล กับ รักนาร์ ซิกูร์ดส์สัน ที่พักรักษาอาการบาดเจ็บต่อเนื่อง, ผู้รักษาประตู มาร์คัส เบ็ตติเนลลี่, คู่ปราการหลัง โทมาส คาลาส กับ ทิม รีม, แบ็คซ้าย สกอตต์ มาโลน หรือ ไรอัน แซสเซอญง, แบ็คขวา ไรอัน เฟรเดริคส์, แผงกองกลาง ทอม แคร์นี่ย์, เควิน แม็คโดนัลด์ หรือ สกอตต์ พาร์เกอร์, สเตฟาน โยฮันเซ่น, สามแนวรุก โซเน่ อลูโก้ หรือ ลูคัส ปิอาซอน, คริส มาร์ติน และ ฟลอยด์ อายิเต้
ที่สนาม มาเด็จสกี้ สเตเดี้ยม เร้ดดิ้ง อันดับ 3 ห้านัดหลัง ชนะ 3 เสมอ 1 แพ้ 1 ล่าสุดทำได้เพียงไปเสมอ ฟูแล่ม สลับมาที่ ฟูแล่ม อันดับ 6 ห้านัดหลัง ชนะ 3 เสมอ 2 ล่าสุดทำได้เพียงเสมอกับ เร้ดดิ้ง ที่เหลือ 10 คน ท้ายครึ่งหลัง กับนัดที่ 2 ของเกม เพลย์ออฟ เลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีก เดอะ รอยัลล์ อยู่ในช่วงฟอร์มดี แต่ดันมาขาดกัปตันคนเก่งไป ทาง เจ้าสัวน้อย ช่วงหลังทีมเยือนผลงานเยี่ยมใช่ย่อย คู่นี้ใครชนะจะเข้าไปพบกับกับคู่ชนะระหว่าง เชฟฟิลด์ฯ กับ ฮัด้ดอร์ฟิลด์ ทั้งสองทีมเจอกันนัดแรกก็เสมอกันด้วยสกอร์ 1-1 ทำให้ลูกทีมของกุนซือดัตช์แมน กุมความได้เปรียบอยู่เล็กน้อยก็จริง กลับมาเล่นในบ้านคงเน้นสุดตัว
ฟันธง : เร้ดดิ้ง ซิ่งมายิง