โตโยต้า ไทยลีก : เมืองทอง ยูไนเต็ด - บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

ศึก "บิ๊กแมตช์" ไทยลีก เมืองทอง ยูไนเต็ด เปิดบ้านไล่ตามตีเสมอ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในช่วงท้ายเกม 1-1 โดยทาง "ปราสาทสายฟ้า" ยังคงรั้งจ่าฝูง และทิ้งห่าง "กิเลนผยอง" ที่ 4 คะแนนเท่าเดิม

นาทีที่ 4 เจ้าถิ่นได้ลูกเตะมุม ธีราทร บุญมาทัน เปิดเข้าไปที่เสาแรก ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ชกบอลออกหลังไปได้ก่อนที่ผู้เล่นเจ้าถิ่นจะเข้าถึง เตะมุมต่อเนื่อง ธีราทร บุญมาทัน วางไปที่เสาสอง ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน รับบอลไว้ได้สบาย นาทีที่ 8 เจ้าถิ่นได้ลุ้นอีกครั้งเมื่อ เฮเบอร์ตี เฟอร์นานเดส ได้ซัด ทว่า ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ปัดบอลไว้ได้อย่างฉิวเฉียด

นาทีที่ 11 ปราสาทสายฟ้า มาได้ลุ้นจากการโต้กลับเร็ว อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ แย่งบอลได้จาก ธีราทร บุญมาทัน ก่อนจะปาดให้ แจ็คสัน อเวลิโน โคเอลโญ ได้กระจากจากขวาตัดมาซ้าย และพยายามเปิดให้ ราฟาเอล บาสโตส ที่คอยท่าอยู่ตรงจุดโทษ ได้ขึ้นโขก ทว่าผู้ช่วยยกเป็นลูกล้ำหน้า นาทีที่ 14 ปราสาทสายฟ้า ได้เล่นโต้กลับอีกครั้ง อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ กระชากบอลเข้าเขตโทษ เซลิโอ เฟอร์ไรร่า วิ่งตามเข้ามาจากด้านหลังชน อานนท์ ล้มในเขตโทษ ผู้ตัดสินไม่เป่าปล่อยให้เล่นต่อ

นาทีที่ 17  เมืองทอง ยูไนเต็ด มาได้ฟรีคิกระยะอันตรายหน้ากรอบเขตโทษประมาณ 20 หลา ธีราทร บุญมาทัน วิ่งเข้าไปปั่นด้วยเท้าซ้ายติดกำแพง นาทีที่ 20 ปราสาทสายฟ้า มาได้ลุ้นเมื่อ ราฟาเอล บาสโตส ใช้ความเร็วควบไปเอาบอลในเขตโทษ ก่อนจะตัดสินใจยิงแฉลบกองหลัง บอลย้อยจะเสียบคาน กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ปัดข้ามคานออกไปได้

นาทีที่ 25 รัตนากร ใหม่คามิ ได้กระชากบอลจากทางซ้ายเข้าไปในแดนกลางก่อนจะตัดสินใจยิง ทว่าบดมากเกินไปเลยไม่ได้ลุ้น นาทีที่ 32 ปราสาทสายฟ้า มาได้เตะมุมทางฝั่งซ้าย ราฟาเอล บาสโตส เปิดด้วยขวา แจ็คสัน อเวลิโน โคเอลโญ ได้โขกเหน่ง ๆ บอลเฉี่ยวเสาออกหลังไปนิดเดียว นาทีที่ 44 เจ้าถิ่นมาได้ลุ้นเมื่อ เฮเบอร์ตี เฟอร์นานเดส ได้กึ่งยิงกึ่งผ่านเข้าไปในเขตโทษ อดิศักดิ์ ไกรสร พยายามจะเข้าฮอตที่เสาสอง ทว่าบอลแรงทำให้แหย่เท้าไม่โดน

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ปราสาทสายฟ้า มาได้ฟรีคิดที่กึ่งกลางสนาม ราฟาเอล บาสโตส เปิดบอลเข้าในเขตโทษถึง พรรษา เหมวิบูลย์ ทว่าไม่ได้ยิง ผู้เล่นเจ้าถิ่นสกัดบอลออกมาได้ และผู้ตัดสินก็เป่าหมดเวลา ทำให้จบครึ่งเวลาแรก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บุกเสมอ เมืองทอง ยูไนเต็ด อยู่ 0-0

กลับมาเล่นต่อในครึ่งเวลาหลัง นาทีที่ 47 ปราสาทสายฟ้า มาได้ฟรีคิกระยะน่ารักน่าลุ้น ราฟาเอล บาสโตส สืบเท้าเข้าไปยิงด้วยเท้าขวาบอลโค้งลงเสียบสามเหลี่ยมหายเข้าประตูไป ส่งให้ ปราสาทสายฟ้า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บุกขึ้นนำ 1-0 นาทีที่ 52 ปราสาทสายฟ้า เกือบที่ได้ประตูที่สองเมื่อ จักรพันธ์ แกว้พรม ไหลบอลให้ แจ็คสัน อเวลิโน โคเอลโญ ได้ซัด ทว่า กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ปัดบอลข้ามคานออกไปได้

นาทีที่ 61 ปราสาทสายฟ้า มาได้ลุ้นอีกครั้งเมื่อ ราฟาเอล บาสโตส ได้บอลทางฝั่งขวาก่อนจะกึ่งยิงกึ่งผ่านเข้าไปในเขตโทษ ศุภชัย ใจเด็ด พยายามเข้าฮอต ทว่าบอลแรงเกินไปเข้าไม่ถึง นาทีที่ 63 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มาได้ฟรีคิกทางกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ราฟาเอล บาสโตส ปั่นด้วยเท้าขวาบอลชนกำแพงอย่างน่าเสียดาย นาทีที่ 65 เจ้าถิ่นได้ลุ้นจากจังหวะที่ ทริสตอง โด ได้เปิดบอลจากด้านขวาเข้ามาปากประตู อัสสัมเซา พยายามโขกทว่า นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม ทิ้งตัวโขกสกัดบอลไว้ได้ก่อน

นาทีที่ 79 เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด มาได้ฟรีคิกระยะอันตราย เลอันโดร อัสสัมเซา วิ่งเข้าไปปั่นบอลข้ามกำแพงทว่า ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน อ่านเกมยืนรับบอลเข้าซองได้สบาย นาทีที่ 81 โอกาสมาเป็นของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จักรพันธ์ แก้วพรม ขึ้นเกมทางขวากระชากบอลเข้าเขตโทษปาดต่อให้ ราฟาเอล บาสโตส ได้ยิงบอลเหินข้ามคานออกไป นาทีที่ 85 สุเชาว์ นุชนุ่ม ได้บอลกลางสนามก่อนจะแทงทะลุช่องให้ โก ซุลกิ ได้แตะบอลหนึ่งจังหวะก่อนจะยิงเฉือนๆ บอลเหินโค้งข้ามคานออกไป

นาทีที่ 88 เจ้าถิ่นก็มาได้ประตูตีเสมอเมื่อ ทริสตอง โด ได้เปิดบอลทางขวาเข้าไปที่เสาสอง เลอันโดร อัสสัมเซา ได้ขึ้นโขกกดลงพื้นบอลผ่าน ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน เข้าประตูไป สกอร์มาเท่ากันที่ 1-1 ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีแรกจาก 4 นาที เจ้าถิ่นมาได้ฟรีคิกระยะอันตราย เฮเบอร์ตี เฟอร์นานเดส ปั่นด้วยซ้ายบอลแฉลบกำแพงอกหลังไป

จากนั้นทั้ง 2 ทีมก็เปิดเกมแลกกันอย่างดุเดือด แต่ทว่าไม่มีฝ่ายใดทำประตูเพิ่มได้ ทำให้จบเกม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บุกมาเสมอ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด 1-1 แบ่งกันไปทีมละ 1 คะแนน ซึ่งทำให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยังทิ้งห่างที่ 4 คะแนน พร้อมกับได้เปรียบเรื่องเฮดทูเฮดในการลุ้นแชมป์