เลสเตอร์ ซิตี้ ขาดแค่ เจมี่ วาร์ดี้ ที่ยังเจ็บอยู่, นายด่ายชาวเดนมาร์ก แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล, ปราการหลังคู่ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ กับ เวส มอร์แกน, แบ็คซ้าย คริสเตียน ฟุคส์, แบ็คขวา แดนนี่ ซิมพ์สัน, กองกลาง แอนดี้ คิง, วิลเฟร็ด เอ็นดีดี้, มาร์ค อัลไบรท์ตัน, ริยาด มาห์เรซ, สองกองหน้า ชินจิ โอกาซากิ กับ เคเลชี่ อิเฮียนาโช่
ลิเวอร์พูล จะไม่มี เดยัน ลอฟเรน ที่ยังรักษาอาการบาดเจ็บ และรายของ ซาดิโอ มาเน่ ติดโทษแบน, ผู้รักษาประตูชาวเบลเยียม ซิมง มินโญเลต์, คู่เซนเตอร์ฮาล์ฟ โฌเอล มาติป กับ รักนาร์ คลาวาน, แบ็คซ้าย อัลเบร์โต้ โมเรโน่, แบ็คขวาดาวรุ่ง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ หรือ โจ โกเมซ, แดนกลาง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จอร์จินโย่ ไวนัลดุม, เอ็มเร่ ชาน หรือ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, สามแนวรุก โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ หรือ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, แดเนียล สเตอร์ริดจ์ และ โรแบร์โต้ เฟียร์มิโน่
ที่สนาม คิง พาวเวอร์ สเตเดี้ยม เลสเตอร์ ซิตี้ อันดับ 15 ที่ห้านัดหลัง ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 2 ล่าสุดเปิดบ้านชนะ ลิเวอร์พูล เกมคาราบาว คัพ ฟาก ลิเวอร์พูล อันดับ 8 ห้านัดหลัง ชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 2 ล่าสุดออกไปพลาดแพ้ เลสเตอร์ ถูกเขี่ยตกรอบ คาราบาว คัพ แมตช์นี้ จิ้งจอกสีน้ำเงิน กำลังดี๊ด๊า จากชัยชนะนัดล่าสุด รับการมาเยือนของ หงส์แดง ที่พึ่งพลาดมา โดยทั้งสองทีมพึ่งเจอกันมาหมาดๆ เมื่อวันพุธ และเป็น เดอะ ฟ็อกซ์ ที่ทำแสบไว้ และสถิติที่พบกันห้าครั้งล่าสุด ก็ยังดีกว่านิดหน่อย และไม่มีเกมกลางสัปดาห์ให้กังวลเหมือน หงส์แดง ที่มีคิวต้องไปเยือนแดนหมีขาว เกมยูซีแอล วันพุธ มองว่าเจ้าถิ่นน่าจะยันอยู่
ฟันธง : จิ้งจอก หลอกมายิง