วันที่ | รายการ | ทีม | VS | ทีม |
---|---|---|---|---|
1 ก.ย. 67 | พรีเมียร์ลีก อังกฤษ | แมนฯ ยูไนเต็ด | 0 - 3 | ลิเวอร์พูล |
24 ส.ค. 67 | พรีเมียร์ลีก อังกฤษ | ไบรท์ตัน | 2 - 1 | แมนฯ ยูไนเต็ด |
17 ส.ค. 67 | พรีเมียร์ลีก อังกฤษ | แมนฯ ยูไนเต็ด | 1 - 0 | ฟูแล่ม |
10 ส.ค. 67 | คอมมิวนิตี้ ชิลด์ | แมนฯ ซิตี้ | 1 - 1 | แมนฯ ยูไนเต็ด |
4 ส.ค. 67 | ฟุตบอลอุ่นเครื่อง | ลิเวอร์พูล | 3 - 0 | แมนฯ ยูไนเต็ด |
วันที่ | รายการ | ทีม | VS | ทีม |
---|---|---|---|---|
1 ก.ย. 67 | พรีเมียร์ลีก อังกฤษ | แมนฯ ยูไนเต็ด | 0 - 3 | ลิเวอร์พูล |
25 ส.ค. 67 | พรีเมียร์ลีก อังกฤษ | ลิเวอร์พูล | 2 - 0 | เบรนท์ฟอร์ด |
17 ส.ค. 67 | พรีเมียร์ลีก อังกฤษ | อิปสวิช | 0 - 2 | ลิเวอร์พูล |
11 ส.ค. 67 | ฟุตบอลอุ่นเครื่อง | ลิเวอร์พูล | 0 - 0 | ลาส พัลมาส |
11 ส.ค. 67 | ฟุตบอลอุ่นเครื่อง | ลิเวอร์พูล | 4 - 1 | เซบีย่า |
เกมฟุตบอลคู่หยุดโลกระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ ลิเวอร์พูล ได้เวลาฟาดแข้งกันอีกครั้ง ในศึก พรีเมียร์ลีก วันเสาร์ที่ 12 กันยายน นี้ 23.30 น. นับเป็นศึกแดงเดือดหนที่ 193 ในประวัติศาสตร์
ทั้ง แมนฯ ยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล เริ่มต้นฤดูกาลด้วยการไม่แพ้ต่อทีมใดจนมาพลาดท่าพร้อมกันในเกมที่แล้ว และนั่นทำให้ทั้งสองทีมคงต้องสู้กันเต็มที่ ใส่เต็มสูบในนัดนี้ เพราะหากใครพลาดท่า นั่นหมายความว่าจะกลายเป็นการแพ้ 2 นัดติด และส่งผลต่อความมั่นใจในระยะยาวแน่นอน
เกมครึ่งแรกเป็นไปอย่างน่าอึดอัดสำหรับทั้งสองทีม ทั้ง แมนฯ ยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล ต่างก็พยายามเล่นแบบรัดกุมไว้ก่อน และที่เห็นได้ชัดคือ ผู้เล่นของทั้งสองทีม หลาย ๆ คนเล่นด้วยฟอร์มที่ต่ำกว่ามาตรฐาน
เกมมาสนุกขึ้นเมื่อเริ่มครึ่งหลังไปได้ไม่ถึง 5 นาที เมื่อ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ลูกฟรีคิกทางด้านซ้ายของกรอบเขตโทษ ฆวน มาต้า เล่นลูกสูตรจ่ายเข้ากลางมาให้ ดาลีย์ บลินด์ ซัดเต็มข้อตรงหัวกะโหลก เป็นสกอร์ขึ้นนำของเจ้าบ้าน 1-0
นาที่ 70 เจ้าบ้านก็มาได้ลูกโทษเมื่อ อันเดร์ เอร์เรร่า ได้บอลจากคาร์ริคทะลุเข้าเขตโทษด้านขวาแล้วถูกโจ โกเมซรวบล้มที่เส้นหลังก่อนที่กองกลางสแปนิชจะลุกขึ้นมาสังหารเองเสียบเพดานอย่างเด็ดขาด ทำให้แมนฯ ยูไนเต็ดหนีห่าง 2-0
เกมมาถึงไคลแม็กซ์ ในช่วง 6 นาทีก่อนหมดเวลา ไคลน์ ตักบอลจากฝั่งขวาไปเสาไกลแล้ว บลินด์ โขกสกัดไปเข้าทางให้ เบนเตเก้ โชว์การตีลังกาอากาศซัลโวจาก 16 หลาเข้าประตูแบบงดงามหมดจด ลิเวอร์พูล ไล่ตามเป็น 2-1
และยังมีความหวัง
แต่แล้วนาทีที่ 86 ความหวังของ ลิเวอร์พูล ก็ดับลง ไอ้หนู มาร์กซิยาล โชว์ลีลาลากหนีสเคอร์เทลเข้าเขตโทษก่อนยิงจาก 12 หลาเสียบเสาสองพา แมนฯ ยูไนเต็ด นำห่าง 3-1 และจบเกมด้วยสกอร์นี้
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนฯ ยูไนเต็ด : เดวิด เด เคอา, มัตเตโอ ดาร์เมียน , คริส สมอลลิ่ง , ดาลี่ย์ บลินด์ , ลุค ชอว์, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ ,ไมเคิ่ล คาร์ริค, ฆวน มาต้า , อันเดร์ เอร์เรร่า , เมมฟิส เดอปายฅ, มารูยาน เฟลไลนี่
สำรอง:เซร์คิโอ โรเมโร่,มาร์กอส โรโฮ,มอร์กกาน ชไนเดอร์ลิน,อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล,แอชลี่ย์ ยัง,อันโตนิโอ วาเลนเซีย,แพดดี้ แมคแนร์
ลิเวอร์พูล : ซิมง มิโยเล่ต์, นาธาเนี่ยล ไคลน์, มาร์ติน สเกอร์เทล, เดยัน ลอฟเรน, โจ โกเมซ - ลูคัส เลว่า, เจมส์ มิลเนอร์ , เอมเร่ ชาน, แดนนี่ อิงค์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, คริสติยอง เบนเตเก้
สำรอง:อดัม บ็อคดาน, อัลเบร์โต้ โมเรโน่,โคโล ตูเร่,มามาดู ซาโก้,ดิวอค โอริกี้,จอร์ดอน ไอบ์,จอร์แดน รอสซิเตอร์
แมนฯ ยูไนเต็ด เจ้าบ้านเพิ่งจะได้ข่าวดีเมื่อ ดาบิด เด เกอา นายทวารตัวเก่งตัดสินใจต่อสัญญาใหม่ออกไป และอาจจะได้ลงสนามในศึกแดงเดือดครั้งนี้เลย เกมนี้ ฟิล โจนส์, อันเดร์ เอร์เรร่า และเวย์น รูนี่ย์ มีอาการบาดเจ็บลงกวนอาจจะลงสนามไม่ได้ ซึ่งทาง หลุยส์ ฟาน กัล น่าจะให้ มารูยาน เฟลไลนี่ ลงมาเล่นเป็นกองหน้า