วันที่ | รายการ | ทีม | VS | ทีม |
---|---|---|---|---|
22 พ.ค. 65 | พรีเมียร์ลีก อังกฤษ | เชลซี | 2 - 1 | วัตฟอร์ด |
15 พ.ค. 65 | พรีเมียร์ลีก อังกฤษ | วัตฟอร์ด | 1 - 5 | เลสเตอร์ |
12 พ.ค. 65 | พรีเมียร์ลีก อังกฤษ | วัตฟอร์ด | 0 - 0 | เอฟเวอร์ตัน |
7 พ.ค. 65 | พรีเมียร์ลีก อังกฤษ | คริสตัล พาเลซ | 1 - 0 | วัตฟอร์ด |
30 เม.ย. 65 | พรีเมียร์ลีก อังกฤษ | วัตฟอร์ด | 1 - 2 | เบิร์นลี่ย์ |
วันที่ | รายการ | ทีม | VS | ทีม |
---|---|---|---|---|
22 พ.ค. 65 | พรีเมียร์ลีก อังกฤษ | คริสตัล พาเลซ | 1 - 0 | แมนฯ ยูไนเต็ด |
7 พ.ค. 65 | พรีเมียร์ลีก อังกฤษ | ไบรท์ตัน | 4 - 0 | แมนฯ ยูไนเต็ด |
3 พ.ค. 65 | พรีเมียร์ลีก อังกฤษ | แมนฯ ยูไนเต็ด | 3 - 0 | เบรนท์ฟอร์ด |
29 เม.ย. 65 | พรีเมียร์ลีก อังกฤษ | แมนฯ ยูไนเต็ด | 1 - 1 | เชลซี |
23 เม.ย. 65 | พรีเมียร์ลีก อังกฤษ | อาร์เซนอล | 3 - 1 | แมนฯ ยูไนเต็ด |
ทรอย ดีนี่ย์ เปลี่ยนจากพระเอกกลายเป็นตัวร้ายภายในช่วงเวลาเพียง 5 นาที เมื่ออุตส่าห์ซัดจุดโทษให้ วัตฟอร์ด ไล่ตีเสมอ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-1 แต่จากนั้นกลับมาทำเข้าประตูตัวเองส่งผลให้ทีมเป็นฝ่ายแพ้จนได้
แมนฯ ยูไนเต็ด ออกนำตั้งแต่ต้นเกมจากลูกยิงของ เมมฟิส เดปาย จนกระทั้งเกมใกล้หมดเวลา ประตูจากจุดโทษในนาที 87 น่าจะทำให้ วัตฟอร์ด เก็บแต้มในบ้านตัวเองได้อยู่แล้วแท้ ๆ แต่ก็เป็น ดีนี่ย์ ที่สกัดลูกเปิดของ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ ผิดเหลี่ยม และนั่นเป็นประตูสำคัญที่ทำให้ทีมของ หลุยส์ ฟาน กัล ขยับขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงก่อน เพราะทีมอื่นลงเล่นทีหลัง
สำหรับชัยชนะนัดนี้ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด เพิ่มสถิติไม่แพ้ใครเป็นเกมที่ 8 ติดต่อกันในทุกรายการ