วันที่ | รายการ | ทีม | VS | ทีม |
---|---|---|---|---|
6 เม.ย. 68 | พรีเมียร์ลีก อังกฤษ | แมนฯ ยูไนเต็ด | 0 - 0 | แมนฯ ซิตี้ |
2 เม.ย. 68 | พรีเมียร์ลีก อังกฤษ | น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ | 1 - 0 | แมนฯ ยูไนเต็ด |
17 มี.ค. 68 | พรีเมียร์ลีก อังกฤษ | เลสเตอร์ | 0 - 3 | แมนฯ ยูไนเต็ด |
14 มี.ค. 68 | ยูฟ่า ยูโรปา ลีก | แมนฯ ยูไนเต็ด | 4 - 1 | โซเซียดาด |
9 มี.ค. 68 | พรีเมียร์ลีก อังกฤษ | แมนฯ ยูไนเต็ด | 1 - 1 | อาร์เซนอล |
แมนฯ ยูไนเต็ด ดูเหมือนจะเล่นได้ดีขึ้นกว่าเดิมในแง่ของเกมการเล่น ในเกมบิ๊กแมตช์ที่ต้องเจอกับทีมแกร่งอย่าง เชลซี ทว่าทีมของ หลุยส์ ฟาน กัล ก็ยังไม่สามารถยิงประตูคู่แข่งได้ และเกมก็จบลงด้วยผล 0-0
"ปิศาจแดง" ที่ ฟาน กัล กำลังอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียดอย่างยิ่งเป็นฝ่ายที่เล่นได้เหนือกว่าในครึ่งแรก และมีโอกาสที่น่าจะได้ประตูถึงสองครั้งจากลูกยิงของ ฆวน มาต้า กับ อ็องโธนี่ มาร์กซิยาล ที่ไปชนเสา
ขณะที่ครึ่งหลัง เชลซี แก้เกมมาได้ดีขึ้น และมีโอกาสแลกหมัดกับ แมนฯ ยูไนเต็ด มากขึ้น โอกาสทองของทีม สิงโตน้ำเงินคราม คือจังหวะที่ได้ลูกเตะมุม และ เนมานย่า มาติช ได้ซัดจ่อ ๆ แต่ะบอลกลับข้ามคานไปอย่างไม่น่าเชื่อ
ผลเสมอเกมนี้ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด จบสถิติแพ้ติดต่อกันไว้ที่ 4 นัด รวมทุกถ้วย ทว่า ฟาน กัล ก็ไม่อาจนำทีมหาชัยชนะเจอมามากกว่า 1 เดือนแล้ว นับตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน รวมแล้ว 8 เกมด้วยกัน
แมนฯ ยูไนเต็ด ชั่วโมงนี้ไม่ดีเลยเหมือนกับว่านักเตะกำลังใจถดถอยตัวเฮดโค้ชอย่าง หลุยส์ ฟาน กัล เอง ก็เช่นกัน ทว่าเกมนี้ เวย์น รูนี่ย์ จะได้กลับมายืนในตำแหน่งหัวหอกตามเดิมอีกครั้ง